กกต.โยนดุลพินิจศาลหลังยกคำร้องใบแดง “มนต์ไชย” อ้างพยานอาจไม่กล้าไปให้ข้อมูลทำหลุดคดีก็ได้ ยันพร้อมรับคำพิพากษา
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งยกคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่มีมติ 3 ต่อ 2 เสียง ให้ใบแดงนายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 5 พรรคภูมิใจไทย เนื่องจากกระทำผิดและฝ่าฝืน พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 ว่า กรณีนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ศาลฎีกาฯ จะยกคำร้องของ กกต. เพราะกกต.ไม่มีอำนาจชี้ขาด จึงต้องส่งเรื่องให้ศาลฎีกาฯ เป็นผู้ดำเนินการต่อไป ส่วนคำร้องดังกล่าวมีผลอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลฎีกาฯ ที่อาจจะสืบสวนสอบสวนแล้วมีความเห็นที่แตกต่างไปจาก กกต. อีกทั้งเรื่องของพยานบุคคลที่เคยมาให้ข้อมูลกับทาง กกต.ก็อาจจะไม่กล้าไปให้ข้อมูลกับศาลฎีกาฯ ก็ได้ ซึ่งคำร้องที่ กกต.ส่งไปแล้วศาลฎีกามีคำพิพากษายกคำร้องมีอยู่เป็นประจำ สาเหตุอาจจะเกิดจากการที่พยานไม่ให้ความร่วมมือ โดยบางคำร้องถึงกับระบุว่าพร้อมให้ข้อมูลต่อทาง กกต. แต่จะไม่ไปให้ข้อมูลต่อศาลฎีกา จึงทำให้น้ำหนักพยานหลักฐานการสืบสวนขอ งกกต.กับศาลฎีกาฯ ออกมาแตกต่างกัน ทั้งนี้ กกต.คงต้องยอมรับคำตัดสินของศาลฎีกา ซึ่งถือว่าเป็นที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทาง กกต.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานไปร่วมฟังการอ่านคำพิพากษาฯ เพื่อนำคำพิพากษามาแจ้งให้ กกต.ทราบ และนำมาพิเคราะห์พิจารณาว่ามีข้อบกพร่องแตกต่างไปจากคำวินิจฉัยของ กกต.อย่างไร