xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.ชี้ รบ.ยกเครื่องผลิตไฟฟ้าให้พม่า แลก “แม้ว” ถกผลประโยชน์ จี้ “ปู” ร้อง “เต็ง เส่ง” รวบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา(แฟ้มภาพ)
“ประสาร” สะกิดนายกฯ เคารพ กม.ไทย เยือนพม่า ฝาก ปธน.ส่ง “ทักษิณ” มารับโทษ แขวะ “นพดล” แถลงนายใหญ่ไปไหน อย่าลืมพูดถึงหมายจับ 6 คดี “รสนา” ข้องใจพลังงาน มอบเครื่องผลิตไฟฟ้าให้พม่า ยอมเสีย 600 ล้านเป็นค่ารื้อถอน ถามใครได้ประโยชน์ จี้ใจดำพอดีกับ “ทักษิณ” พบผู้นำพม่า คาดถกแลกผลประโยชน์ ด้าน “สมชาย” เชื่อกุข่าวนายใหญ่ถูกลอบฆ่าเหตุหนีหน้า “จตุพร” หลังหลอกใช้จนเปื่อย ซัด สมช.-ตร.ภูธร 5 รู้นักโทษหนีคดีเคลื่อนไหวกลับนิ่ง โวยลั่นวุฒิสภาไม่ใช่ลูกไล่นายกฯ-ส.ส. ให้ซักฟอกครึ่งวันมีคว่ำบาตร

วันนี้ (6 พ.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้หารือ โดยนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ว่าการเดินทางครั้งนี้จะมาเพื่อวัตถุประสงค์ใดหรือมีการลอบสังหารจริงหรือไม่ไม่ใช่ประเด็น แต่สำคัญที่อดีตนายกฯ เป็นคนที่อยู่ในแฟ้มทะเบียนประวัติอาชญากร ต้องสืบจับตามหมายจับที่ 2/2551 ซึ่งหมายความว่าเป็นทั้งผู้ต้องหาและนักโทษที่ทางการไทยต้องการตัว สิ่งที่อยากจะเรียนคือ ในวันที่ 7 พ.ย.นี้นายกฯ จะต้องพบกับประธานาธิบดีเต็ง เส่ง และวันที่ 8 พ.ย. อดีตนายกฯ ก็จะพบกับประธานาธิบดีเต็ง เส่ง หากท่านเคารพระบบนิติรัฐ-นิติธรรมของไทยก็อยากจะให้พูดกับประธานาธิบดีได้หรือไม่ ว่าส่งตัวผู้ต้องหากลับประเทศไทย ถึงแม้จะไม่มีสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ตาม แต่ก็มีกรอบความร่วมมือของประเทศอาเซียนที่สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งนี้ก็ขอฝากไปยังที่ปรึกษาด้านกฎหมายของอดีตนายกฯ ด้วยว่า นอกจากจะแถลงข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ตรงไหนแล้ว ช่วยแถลงด้วยว่าจะทำอย่างไรกับผู้ต้องหาที่มีหมายจับถึง 6 คดี

ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. หารือถึงนายกรัฐมนตรีว่า สืบเนื่องจากมติ ครม.วันที่ 22 ตุลาคม ในหัวข้อ 21 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานบริจาคเครื่องผลิตไฟฟ้ากังหันแก๊สจากโรงไฟฟ้าหนองจอกและโรงไฟฟ้าลานกระบือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้กับประเทศพม่า ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยอยากจะทราบว่าเหตุที่ยกให้กับประเทศพม่าเพื่อผลประโยชน์ใด จากการสืบค้นข้อมูล พบว่า เครื่องผลิตไฟฟ้ากังหันแก๊สจากโรงไฟฟ้าหนองจอก สร้างเมื่อปี 2537 จำนวน 4 เครื่อง มีมูลค่ากว่า 6 พันล้าน แต่ กฟผ.ใช้น้ำมันในการผลิตได้แค่ปีเดียวก็หยุดผลิต เนื่องจากไม่คุ้ม เพราะ ปตท.ในสมัยนั้นไม่ขายแก๊สให้เนื่องจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวไม่อยู่ในแผนสำรองไฟฟ้า หรือแผนพีดีพี หลังจากนั้นโรงไฟฟ้าหนองจอกก็ยกเครื่องผลิตไฟฟ้าให้กับโรงไฟฟ้าลานกระบือ โดยในช่วงแรกบริษัทเชลล์ขายแก๊สให้ แต่หลังจาก ปตท.ไปซื้อหลุมแก๊สจากบริษัทเชลล์ ก็ไม่ขายแก๊สให้ และเมื่อเกิดสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้มายืมเครื่องผลิตไฟฟ้าดังกล่าวไป 2 เครื่อง ปัจจุบันเหลือ 2 เครื่อง และมีมติยกให้ประเทศพม่า และทราบมาอีกว่า ปตท.ยอมจ่ายเงิน 600 ล้านบาทเพื่อรื้อถอนและยกให้กับประเทศพม่า จึงมีความสงสัยอยากให้รัฐบาลช่วยชี้แจงด้วยว่าการที่รัฐบาลยกเครื่องผลิตไฟฟ้าให้กับพม่าโดยมีค่ารื้อถอนถึง 600 ล้านบาท อยากถามว่าเมื่อยกให้แล้วใครได้ประโยชน์ กฟผ., ปตท. หรืออดีตนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางไปพม่าเพื่อพบ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีของพม่า เพื่อพูดคุยกับในทางลับเกี่ยวกับผลประโยชน์ด้านพลังงานและทรัพยากรของพม่า เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องชี้แจง

ส่วนนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ขอหารือไปยังนายกรัฐมนตรี, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี, พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า รู้สึกไม่สบายใจต่อกรณีที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวเรื่องการเตรียมการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางไป จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตนไม่สบายใจที่คนของรัฐบาล โดยท่านรองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่ามีมูลความจริง และสั่งให้ สมช.และตำรวจภูธรภาค 5 ออกไปติดตามข่าว ทั้งนี้เรื่องการลอบสังหารมีช่องว่างช่องโหว่มากมายไม่จำเป็นต้องทำที่ประเทศพม่า และถ้าจะทำจริงคงไม่ปล่อยข่าวรั่วออกมา มองว่ากรณีดังกล่าวเป็นการกุข่าวขึ้นมา ไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไร หรือเป็นการไม่อยากพบข้าราชการ ไม่อยากเจอเจอข้าราชการ มวลชนคนเสื้อแดง เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีไม่รู้จะตอบอะไร เพราะไม่ได้ตั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นรัฐมนตรี ก็เลยไม่อยากมา จ.ท่าขี้เหล็กก็ได้ โดยมีการกุข่าวว่ามี พันเอก “พ.” ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดรัฐบาลเป็นผู้จะสอบสังหาร อยากเรียนว่าถ้า สมช.จะทำหน้าที่ก็ให้ตรวจสอบเรื่องนี้เสีย รวมทั้งตำรวจภูธรภาค 5 ให้ติดตามด้วยเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีคดีติดตัวถึง 6 คดี ช่วยตามตัวกลับมาประเทศไทยเพื่อดำเนินคดีดีกว่า

นายสมชายกล่าวต่อว่า กรณีการขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ถือเป็นศักดิ์ศรีของวุฒิสภา ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานวิปวุฒิฯ ขอความกรุณาให้ท่านประธานวุฒิสภาเจรจาใหม่ เพราะวุฒิสภาไม่ใช่ลูกไล่ของนายกรัฐมนตรีหรือสภาผู้แทนราษฎร ที่จะจัดเวลาให้อภิปรายแค่ครึ่งวัน วุฒิสภาควรมีมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใด ได้แก่ 1. ไม่ร่วมสังฆกรรม 2. ต้องมีมาตรการแซงก์ชันรัฐบาลในการประชุมร่วมรัฐสภาในคราวต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น