ผ่าประเด็นร้อน
น่าแปลกก็คือจู่ๆก็มีข่าวลอบสังหาร ทักษิณ ชินวัตร เกิดขึ้นมา ระหว่างที่มีกำหนดการเดินทางมาที่จังหวัดท่าขี้เหล็กฝั่งพม่าติดกับชายแดนไทยด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังจากที่มีการจับกุมชาวไทยใหญ่รายหนึ่งพร้อมอาวุธสงคราม มากมายในชายแดนฝั่งพม่า ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารพม่าก็ยืนยันว่าเป็นการจับกุมขบวนการค้าอาวุธที่ขายให้กับชนกลุ่มน้อยและอาวุธที่จับได้นั้นก็เป็น “สินค้าตัวอย่าง” ที่เอาไปให้ลูกค้าดู ก่อนที่จะสั่งซื้อมาจากฝั่งไทย และจากนี้ไปก็จะส่งข้อมูลมาให้เจ้าหน้าที่ทางการไทยติดตามตรวจสอบขยายผล
อย่างไรก็ดี พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งระยะหลังมีการตั้งข้อสังเกตว่าเริ่มมีสติปัญญาฉลาดเฉลียวและรู้จักเขียนข้อความได้ยาวๆมากผิดปกติ ทั้งที่ผ่านมาไม่เคยพูดจาหรือให้สัมภาษณ์ หรือปราศรัยช่วยผู้สมัครหาเสียงเป็นเรื่องเป็นราว และคราวนี้ก็เช่นกันได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุกส์ส่วนตัวการจับกุมอาวุธสงครามดังกล่าวเป็นแผนโยงใยไปสู่การลอบสังหาร ทักษิณ ระหว่างเดินทางมาที่ท่าขี้เหล็ก เพื่อพบปะกับบรรดา ส.ส.รัฐมนตรี ข้าราชการและคนเสื้อแดงในวันที่ 9-10 พฤศจิกายนนี้
โอ๊ค หรือ พานทองแท้ ได้ลงทุนโพสต์ข้อความถึงสองวันติดกันเริ่มจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน ต่อเนื่องกันถึงวันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน โดยอ้างแหล่งข่าวจากฝ่ายสืบสวนให้ข้อมูลถึงแผนลอบสังหารดังกล่าว และยังโยงไปถึง พลเอก พ.พาน ที่เคยเกี่ยวข้องกับคดีคาร์บอมบ์ คาร์บ๊องส์ในอดีต อ้างว่าเคยมีคำสั่งให้ไปถล่มบ้านจันทร์ส่องหล้า แต่บังเอิญว่า พล.อ.พ.คนดังกล่าวไม่รับงานเลยไม่เกิดเหตุ ซึ่งต่อมา พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ก็ปฏิเสธและขำกับข่าวที่โยงมาถึง
ล่าสุดเมื่อวานนี้(5 พฤศจิกายน) พานทองแท้ ถึงกับต้องวิงวอนให้คนเสื้อแดงช่วยกันห้ามปรามไม่ให้ ทักษิณ เดินทางไปท่าขี้เหล็ก เนื่องจากเกรงจะถูกลอบฆ่าจากขบวนการค้ายาเสพติดและขบวนการผิดกฎหมายที่เคยถูกปราบปรามเมื่อครั้งเป็นนายกฯคิดแก้แค้นและยังอ้างว่า ทักษิณ เริ่มลังเลอาจจะไม่ไปแล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะให้ทำพี่น้องเสื้อแดงไม่ปลอดภัยไปด้วย
น่าสังเกตก็คือข่าวดังกล่าวหน่วยข่าวด้านความมั่นคง ทั้งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) พล.อ.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ถือว่าเป็นคนกันเองแท้ๆตอนแรกยังรีบตัดบททันทีว่าไม่มี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต แม้แต่รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ก็กล่าวทำนองเดียวกันว่าไม่มี
อย่างไรก็ดีมีเพียง รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เท่านั้นที่ระบุว่ามีข่าวลอบสังหาร ทักษิณ จริง และต่อมาทาง สมช.ก็กลับลำเชื่อตามว่ามีจริง
คำถามก็คือทำไมข่าวการลอบสังหาร ทักษิณ ซึ่งจะว่าไปแล้วมีนับครั้งไม่ถ้วน และที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็มักออกมาในแนว “ตลกปัญญาอ่อน” ประเภท คาร์บ๊อง คาร์บวม ทุกที คราวนี้กลายเป็นว่าคนที่ปูดข่าวกลับเป็นลูกโอ๊ค-พานทองแท้ ไปเสียอีก และคนที่รับลูกก็ตลกไม่แพ้กันก็คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่กำลังทำแต้มสร้างราคาให้เข้าตาได้รับความไว้วางใจเป็นคนวงในจาก “นายใหญ่” คือ ทักษิณ และครอบครัวชินวัตรตลอดเวลา หลังจากไม่ประสบความสำเร็จยังเป็นได้แค่รองนายกฯ “ขาลอย”อยู่ต่อไป
คราวนี้ก็เช่นเดียวกันจู่ๆก็โผล่ขึ้นมาอีก มีการจับโยงกันมั่วไปหมด และที่สำคัญทั้งคนให้ข่าวและคนสนับสนุนข้อมูลล้วนแล้วแต่ออกมาในทางมั่ว และไม่น่าเชื่อถือ แต่อีกด้านหนึ่งหากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวด้านเป้าหมายทางผลประโยชน์ก็จะพบความจริงที่น่าติดตามอย่างยิ่งก็คือตามกำหนดการ ทักษิณ ชินวัตร มีกำหนดจะพบกับประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่าในวันที่ 8 พฤศจิกายน และถัดมาวันที่ 9 พฤศจิกายนก็จะพบกับบรรดานักการเมืองและนักธุรกิจพม่า ซึ่งก็บังเอิญว่าก่อนหน้านั้นไม่นานผู้นำพม่าได้ลงนามในกฎหมายการลงทุนฉบับแก้ไขใหม่ที่เปิดกว้างให้ต่างชาติเข้าไปลงทุนในธุรกิจขนาดยักษ์ได้อย่างเต็มที่
หลายคนกำลังจับตาไปที่โครงการท่าเรือและเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และสัมปทานพลังงานอันเป็นธุรกิจในฝันของบางคน และกำลังทำหน้าที่เป็น “นายหน้าข้ามชาติ” อย่างเอาจริงเอาจัง และนี่อาจเป็นกำหนดการสำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางมาพม่าคราวนี้ของ ทักษิณก็เป็นได้ ขณะเดียวกันสำหรับกำหนดการที่จะพบกับ ส.ส.รัฐมนตรี ข้าราชการและคนเสื้อแดงในวันที่ 9-10 พฤศจิกายนที่ท่าขี้เหล็ก นาทีนี้อาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ น่ารำคาญสำหรับเขาก็เป็นได้
เพราะแน่นอนว่าจะต้องยกโขยงกันไปพบ ไปถามว่าทำไมไม่ได้ตำแน่งรัฐมนตรี ไม่ได้ตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้ ต้องตอบ ต้องรับคำ ครั้นจะยกเลิกกำหนดการเบี้ยวเอาดื้อๆมันก็จะโจ่งแจ้ง จะหักหาญน้ำใจ เหมือนกับที่เคยได้บทเรียนเรื่อง “ถีบหัวเรือแจวทิ้งแล้วขอนั่งรถขึ้นเขาตามลำพัง” มาครั้งหนึ่งแล้ว ขืนทำซ้ำอาจป่วนได้เหมือนกัน และนี่อาจเป็นที่มาของแผนลอบสังหารด้วยอาร์พีจี จาก “ขบวนการบ้านนอก” ก็เป็นได้
เพราะด้วยเหตุผลด้วย “ความไม่ปลอดภัย” ทำให้ต้องยกเลิกกำหนดการมาพบกับคนเสื้อแดง ไม่ต้องเจอกับคำถามกวนใจ โดยเฉพาะหลังจากมีข่าวว่า จตุพร พรหมพันธุ์ เกิดอารมณ์“หายอยาก” ไม่ยอมไปพบ ทักษิณ ชินวัตรที่นั่นด้วย ก็ยิ่งเป็นปมแง่งอนลึกๆออกมาให้เห็น มันก็น่าสมเหตุสมผล กล้อมแกล้มไปได้บ้าง !!