รายงานการเมือง
กำหนดการขี่ม้าเลียบค่ายของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เตรียมมาเยือนสหภาพพม่า ต่อเนื่องด้วยคิวแวะมาปักมุ้งนอนเล่นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ฝั่งตรงข้าม จ.เชียงราย แถมเลือกที่พักห่างจากชายแดนไทยเพียงแค่คืบ แค่นี้ก็เชื่อว่าบรรดาลิ่วล้อก็ตระเตรียมขน “คนเสื้อแดง” แห่แหนไปต้อนรับกันเรือนหมื่นอยู่แล้ว
และยิ่งใกล้วันที่ 9 - 10 พ.ย.ที่เป็นดีเดย์ที่ “นช.แม้ว” จะเตรียมบินโฉบเฉี่ยวป้วนเปี้ยนใกล้ประเทศไทย ก็มีบรรดา ส.ส.ออกมาการันตีว่างวดนี้ประชาชนนับหมื่น ส.ส.อีกเกินครึ่งสภาจะชักแถวกันไปหา “ทักษิณ” ด้วยความคิดถึง ถัดมาก็เป็นคิวของ “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ที่เพิ่งขึ้นชั้น “รองนายกฯอันดับ 1” ก็ออกหมายล่วงหน้าจัดประชุมเกี่ยวกับปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ จ.เชียงราย ในช่วงเวลาเดียวกันอย่างบังเอิญ คล้ายกับเมื่อครั้งบินไปซกโจ๊กในช่วงที่ “พี่แม้ว” แวะช้อปปิ้งที่ฮ่องกง เมื่อไม่กี่เดือนก่อน
ขณะที่น้องสาว “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” ก็ใช้โอกาสพิธีเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทย จ.อุบลราชธานี ปราศรัยตีปิ๊บเชิญชวนคนเสื้อแดงอีสานให้เดินทางไปสมทบที่ท่าขี้เหล็กเยอะๆอย่างไม่มีเหนียม
ทั้งหมดก็หวังให้ฉาก “ทักษิณ อิน ท่าขี้เหล็ก” จุดกระแสติดลมบน ฉายภาพความยิ่งใหญ่ของ “อดีตผู้นำหนีคดีอาญา” เฉกเช่นเดียวกับที่เคยทำแล้วที่ประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
แต่เหมือนยังไม่สะใจ เมื่อ “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ออกมาเพิ่มดีกรีความน่าสนใจขึ้นอีกเป็นทวีคูณกับ “ข่าวลอบสังหาร” ที่โพสต์ผ่านสังคมออนไลน์เวบไซต์เฟซบุ๊คอีกคำรบ โดยเชื่อมโยงกับการจับกุมและยึดอาวุธสงคราม ทั้งกระสุนจรวดแบบอาร์พีจี เครื่องกระสุนเอ็ม 16 จำนวนมาก ที่ อ.ท่าขี้เหล็ก เมื่อไม่กี่วันก่อน
“ลูกโอ๊ค” ขมวดปมสรุปง่ายๆว่า มีขบวนการลอบสังหาร “พ่อแม้ว” แน่ๆ
งานนี้ไม่ธรรมดาแน่ โดยเฉพาะเมื่อคนจุดประเด็นชื่อ “พานทองแท้” ทำเอาสื่อหลัก - สื่อรองยกไปพาดหัวหน้าหนึ่งกันถ้วนหน้า เบียดข่าวกระแสเมื่อสัปดาห์ก่อนทั้ง“จำนำข้าว - ปรับ ครม. - อภิปรายไม่ไว้วางใจ” ตกขอบกันเป็นแถบๆ
ด้านรายละเอียดการเดินทางมาพม่าเที่ยวนี้นอกจากการบินตรงมาทำบุญสืบชะตาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆของพม่าตามประสาคนไร้ที่พึ่งทางใจแล้ว ไฮไลท์สำคัญก็เป็นหมายเข้าคารวะ “พล.อ.เต็ง เส่ง” ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ที่เมืองเนปิดอว์ เมืองหลวงใหม่ของพม่า ซึ่งคาดว่าอาจมีการไถ่ถามถึงการมาเยือนเมืองไทยก่อนหน้านั้นของ “ผู้นำพม่า” ในวันที่ 7 พ.ย. ซึ่งคงหนีไม่พ้นเรื่อง “เมกะโปรเจกต์” การพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึก - นิคมอุตสาหกรรมทวาย ส่วนเวลาที่เหลือก็ให้บรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย - ส.ส. - ข้าราชการ และนักธุรกิจ เข้าพบปะพูดคุยทั่วไป
จะเห็นได้ว่ามาหนนี้ “ทักษิณ” มีฐานะเป็นแขกของผู้นำประเทศ แม้ว่าจะเข้าพบ “นายพลเต็งเส่ง” เป็นการส่วนตัวก็ตาม หรือพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “ผู้นำทหารพม่า - ทักษิณ” นั้นก็ต้องบอกว่าเข้าขั้น “มหามิตร” ตั้งแต่สมัยที่กุมอำนาจเมืองไทยอย่างเบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะเมื่อครั้งปล่อยกู้ให้พม่า 4,000 ล้านบาท ที่วันนี้คดีก็อยู่ในชั้นของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ตามรูปการณ์นี้มีหรือที่ทางการพม่าจะปล่อยให้ “ทักษิณ” ถูกเด็ดหัวในประเทศตัวเอง
ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าการรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดจะถูก “อดีตผู้นำไทย” จะถูกนำมาใช้มากกว่า เฉกเช่นเดียวกับ “ฮุนเซน” ผู้นำกัมพูชาจัดให้ตลอดเวลาที่“นช.แม้ว” แวะไปออกรอบตีกอล์ฟด้วย จึงมองไม่เห็นทางที่จะมีใครจะเข้าไปปองร้าย “ทักษิณ” ได้เลย ที่สำคัญคนระดับนี้ ยากมากที่ “คนนอก” จะเข้าถึงตัว หากจะมีคนปองร้ายจริงก็หนีไม่พ้น “คนใกล้ตัว” ต่างหาก
ยิ่งเป็นขบวนการค้ายาเสพติดที่ “ลูกโอ๊ค” เอ่ยอ้างถึงว่า แค้นฝังใจมาตั้งแต่ที่ “ทักษิณ” เป็นนายกฯออกนโยบายปราบปรามยาเสพติด จนคนเหล่านี้สูญเสียประโยชน์จนอยากลงขันมาเจาะหัว “ทักษิณ” ให้รู้แล้วรู้รอด ก็เป็นหนังม้วนเก่าที่ลืมไปได้เลย เพราะมาวันนี้กลุ่มค้ายาหรือกระทั่งชนกลุ่มน้อยแทบจะสิ้นฤทธิ์ไม่กล้าปฏิบัติการนอกลู่นอกทางให้เป็นเป้าของรัฐบาลพม่าอย่างแน่นอน
มองกันต่อถึง “ขาเก่าเจ้าประจำ” ที่ถูกกล่าวถึงในข้อความเฟซบุ๊ค Oak Panthongtae Shinawatra ผูกโยงกับการลอบสังหาร “คาร์บ๊อง” ในอดีตนั้น โดยเฉพาะประโยคที่ว่า “...ไม่เชื่อลองถาม พลเอก พ.พาน ที่เคยถูกสั่งให้เอาอาร์พีจีไปยิงหน้าต่างบ้านจันทร์ส่องหล้าตอนตี 2 สมัยพ่อผมเป็นนายกฯ...”
มามุกนี้ก็เห็นจะหนีไม่พ้นเป็นการ “ปลุกผี” กลุ่มอำนาจเก่าหรือ “กลุ่มอำมาตย์” ขึ้นมาใหม่ว่า หวังใช้จังหวะนี้ลอบสังหารโค่นอำนาจ “ทักษิณ” กระทบไปถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง หลังเคยถูกกล่าวหาในลักษณะนี้มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ทั้งที่ “พลเอก พ.พาน” ก็คงไม่ใช่ใครอื่น เป็น “พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี” ซึ่งเป็นที่ปรึกษานายกฯยิ่งลักษณ์ ในปัจจุบัน
กลายเป็นเรื่องนี้ไม่มีที่มาที่ไป ขัดแย้งในตัวเองหลายจุด เริ่มต้นด้วยการใช้ข่าวการยึดอาวุธสงครามที่ฝั่งพม่าผสมปนเปกับชื่อของฝ่ายตรงข้าม ร้อยเรียงเป็นเรื่องราว ก็ไม่ต่างจากนิยายชั้นต่ำที่ถูกสร้างเป็น “ละครน้ำเน่า” ที่ไร้ซึ่งเหตุผลอย่างสิ้นเชิง
มองแบบเหนือชั้นไปกว่านั้น “ลูกโอ๊ค” และทีมงานเล่นเกมนี้พาดพิงไปถึงการเคลื่อนไหวของเครือข่ายกลุ่มอำนาจเก่า ในทีนี้หมายถึงการขยับของ “องค์การพิทักษ์สยาม” ที่ประกาศจะโค่นล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยมี “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เป็นประธาน ซึ่งถูกมองว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มอำนาจเก่า โดยเฉพาะชื่อของ “พล.อ.ส.เสือ” หรือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ที่ระยะหลังถูกกล่าวถึงมากขึ้นเรื่อยๆ
สบโอกาสใช้ข่าวนี้เล่นต่อเนื่องแบบกินหลายเด้งหลายมิติ
เชื่อว่ามุกนี้หลายคนในรัฐบาลคงไม่ได้นัดแนะกันมาก่อน เพราะพลันที่มีข่าว “สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล” รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ “พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต” รมว.กลาโหม ต่างประสานเสียงว่า ไม่เคยได้ยินและเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้อง เสียงดังที่สุดคงเป็น “พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่พูดชัดว่า ไม่เคยได้ยินกระแสข่าวการลอบสังหาร “ทักษิณ” มาก่อน และส่วนตัวคิดว่า “ไม่มีทางเป็นไปได้”
จะมีก็แต่เพียง “สภาความมั่นคงแห่งชาติ” หรือ สมช.ภายใต้การดูแลของ “เสธ.แมว” พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร ที่กลับตัวแบบ 180 องศา หลังจากที่วันก่อนบอกว่า การจับกุมอาร์พีจีเกี่ยวกับขบวนการค้าอาวุธ แต่แค่ชั่วข้ามคืนกลับอ้างการข่าวจากตำรวจภูธรภาค 5 ว่า เกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร “ทักษิณ”
พลิกลิ้นรับลูกให้นิยายของ “ลูกโอ๊ค” มีน้ำหนักน่าเชื่อถือขึ้น
อย่าลืมว่า สมช.ไม่ได้มีหน้าที่ในการตรวจสอบว่า “ทักษิณ” จะเป็นอันตรายหรือไม่ เพราะมีหน้าที่ดูแลความมั่นคงของ “ชาติ” เท่านั้น การออกมาประสานเสียงกับ “ลูกโอ๊ค” ก็ไม่ต่างจากการ “ผิดคิว” เสียราคาไปด้วยกัน
ก็ต้องยอมรับว่า ผู้เขียนบทเรื่องนี้ฝีมือเข้าขั้นเหมือนกัน พยายามเพิ่มอารมณ์ “ดราม่า” เรียกคะแนนความสงสารเข้าไปอีก จากข้อความที่ย้ำหลายครั้งว่า ลูกๆกลัวพ่อจะเป็นอันตราย แต่ไม่วายจะยกหางกันเองด้วยว่า “พ่อแม้ว” ไม่เคยกลัวใคร และหากพ่อมาจริง ลูกๆทั้ง 3 คน “โอ๊ค - เอม -อิ๊ง” ก็จะไปด้วย ท่อนนี้เองอาจเป็นท่าไม้ตายที่ทำให้มีรายงานล่าสุดว่า “ทักษิณ” งดหมายเดินทางไปที่ท่าขี้เหล็ก เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกๆและคนเสื้อแดงที่จะเดินทางไป
หักมุมตั้งแต่ยังไม่ถึงไหน สร้างเรื่องเพิ่มราคาให้นิยายลวงโลกของ “ลูกชาย” ไปอีก เพราะเมื่อ “ทักษิณ” ถอดใจไม่ไปท่าขี้เหล็ก ก็ไม่มีทางรู้ได้ว่ามีขบวนการลอบสังหารมีอยู่จริงหรือไม่
เข้าอีหรอบนี้ก็แค่ใช้ “นิยายน้ำเน่า” ตีกินสร้างราคาตัวเองเท่านั้นเอง