อดีต รมว.ต่างประเทศ ซัดอดีตนายกฯ ทักษิณ ปาหี่เข้าพม่าหวังแสดงอิทธิฤทธิ์ แนะพม่าคิดถึงอดีตเคยพลาดท่าให้ “นช.แม้ว” เย้ยลอบสังหารเสียลูกปืนเปล่าๆ ด้าน “ถาวร” จวก “โอ๊ค” โกหกทั้งโคตร สร้างเรื่องเพื่อแย่งพื้นที่สื่อ อัดเลขาฯ สมช.สนองการเมืองทำองค์กรเสื่อม ชี้เปลี่ยนเส้นไปเนปิดอว์หวังช่วย “ปึ้ง” บรรเทาข้อหาซักฟอก
วันนี้ (6 พ.ย.) นายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมเดินมายังประเทศพม่าในวันที่ 9-10 พ.ย.นี้ว่า ตนเห็นว่าตอนที่พม่าเป็นรัฐบาลทหาร และมีกลุ่มต่อต้านนั้นได้ขอร้องให้รัฐบาลไทยไม่ให้กลุ่มต่อต้านใช้ประเทศไทยเป็นเวทีต่อต้านรัฐบาลพม่า รวมทั้งมีหลักของอาเซียนว่าด้วยการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน ซึ่งรัฐบาลพม่าต้องตอบให้ได้ว่าการที่ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาที่พม่า แล้วมาทำกิจการทางการเมือง ถือว่ารัฐบาลพม่ากลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่ และละเมิดหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกันหรือไม่
ทั้งนี้ เพราะการที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาโดยมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย และกลุ่ม นปช.ไปพบนั้นเป็นกิจการทางการเมือง เท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้ประเทศพม่าทำกิจการการเมืองที่เกี่ยวกับประเทศไทย และถือว่าพม่าช่วยสร้างความแตกแยกให้กับไทย ตนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมาเพื่อแสดงปาหี่ริมชายแดนไทย แสดงอิทธิฤทธิ์ว่าตัวเองเป็นที่ยอมรับได้ในแวดวงการเมืองระหว่างประเทศ และทำตัวเป็นผู้อยู่เหนือกฎหมาย เพราะได้รับการรับรองและสนับสนุนโดยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งที่รัฐบาลมีหน้าที่ต้องนำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับสู่กระบวนการยุติธรรม เรื่องนี้เท่ากับว่ารัฐบาลทำผิดกฎหมาย
เมื่อถามว่าจะมีการหารือเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล ที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า ผลประโยชน์บนบกหรือในทะเลนั้น รัฐบาลพม่าต้องตระหนักว่าเมื่อตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณนำเงินของไทยผ่านทางธนาคารเอ็กซิมแบงก์ไปให้รัฐบาลพม่ากู้ ได้สร้างความแตกแยกในสังคมพม่า ถึงขั้นที่นายพลของพม่าคนหนึ่งถูกปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งโครงการนี้ก็ไม่ชอบมาพากลอยู่แล้ว ทำให้มีคำถามว่ารัฐบาลพม่าคิดดีแล้วหรือที่จะคบหากับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะที่ผ่านมาก็มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักโทษที่หนีคดีอยู่ รัฐบาลพม่าในขณะนี้ก็เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย ที่เคารพหลักกฎหมาย ความถูกต้อง นิติรัฐ นิติธรรม ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องตอบกับประชาชนพม่าเอง เพราะมีฝ่ายค้าน มีสภา ในระบอบประชาธิปไตยแล้ว
ส่วนกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยว่ายังคงมีขบวนการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในขณะนี้ นายกษิตกล่าวว่าใครจะฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเสียลูกปืนเปล่าๆ นายพานทองแท้เป็นหัวหน้าสำนักงานข่าวกรองหรือ ตนไม่ให้ความน่าเชื่อถือนายพานทองแท้ นานๆ ก็โผล่ออกมา ซึ่งเรื่องนี้ต้องสอบถามจากหน่วยข่าวกรอง สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สันติบาล ศูนย์ข่าวของทหาร ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ด้านนายถาวร เสเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่ามีขบวนการลอบฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเดินทางมา จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า โดยเชื่อมโยงกับการจับอาวุธของชนกลุ่มน้อยบริเวณชายแดนไทยพม่าว่า เป็นขบวนการโกหกและใส่ร้ายคนอื่น ซึ่งเรียกได้ว่า โกหกทั้งโคตร หลังจากที่มีการโกงทั้งโคตรไปแล้ว ซึ่งเป็นการสร้างภาพให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกรังแก และเป็นการแย่งพื้นที่ข่าวเท่านั้น ไม่ได้สนใจในเรื่องว่าของข้อเท็จจริง แค่สร้างเรื่องไปวันๆ เท่านั้น
ส่วนจะเป็นการโยงเข้ากับการเคลื่อนไหวขององค์การพิทักษ์สยาม ที่มี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย หรือไม่นั้น ก็เป็นขบวนการโกหก บิดเบือนข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ส่วนกรณี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มีท่าทีไม่แน่นอนเพราะตอนแรกออกมาระบุว่าไม่มีขบวนการลอบฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ภายหลังที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เรียกไปหารือ กลับบอกว่ามีขบวนการดังกล่าวนั้นว่า ขณะนี้หลายคนมองว่า สมช.เป็นองค์กรตลก เพราะทำงานสนองการเมือง ทำให้องค์กรไม่น่าเชื่อถือ ออกมาพูดทั้งที่ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลก่อน ซึ่งตนเสียดายองค์กร และเสียดายตัว พล.ท.ภราดร ที่เป็นข้าราชการมานานแต่ต้องมาเสียเพราะคบเด็กสร้างบ้านเพื่อช่วยคนคนเดียว แต่อย่างไรก็ตามตนรู้สึกสงสารองค์กรความมั่นคงของชาติมากกว่าที่ต้องเสื่อมเสียเพราะการกระทำในครั้งนี้
ส่วนกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่าไม่ทราบเรื่องว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า กรณีนี้น่าตลกตรงที่ รมว.ต่างประเทศไม่รู้ที่อยู่ที่พักของอดีตนายกฯ แต่ขณะเดียวกัน ส.ส.สายเสื้อแดงของพรรคเพื่อไทยกลับเตรียมตัวแห่กันไปพบอดีตนายกฯ กันอย่างโจ๋งครึ่ม ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ไปที่ จ.ท่าขี้เหล็กแล้ว โดยจะเดินทางต่อไปที่เมืองเนปิดอว์เลยนั้น นายถาวรยังมองว่ามีความเป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีแผนจะไปที่ จ.ท่าขี้เหล็กตั้งแต่ต้น แต่ที่ให้บรรดาลิ่วล้อออกมาปูดข่าวเช่นนั้นเพื่อวางแผนช่วยเหลือนายสุรพงษ์ว่าไม่รู้ไม่เห็นการเดินทางไปที่ประเทศต่างๆ เพื่อลดความกดดันของนายสุรพงษ์ เพราะพวกเขากังวลว่าจะต้องตกเป็นเป้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องการออกพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ