“อภิสิทธิ์” โอดเป็น รบ.ถูกขัดขวางเยือนอีสาน เปรียบเทียบนโยบาย ชี้ ปชป.ทำเพื่อคนจนจริงๆ เทงบฯ ไม่เลือก จว. ต่าง พท.สิ้นเชิง ลั่นหมดเวลานักการเมืองหลอกใช้คนจนเป็นเครื่องมือขึ้นเสวยอำนาจ ปลุกคนอีสานตื่นอย่าหลงโฆษณาชวนเชื่อ ให้ยึดมั่นเอาความถูกต้อง เอากฎหมาย แล้วสนับสนุนคนดี คนซื่อสัตย์เข้าไปทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ (3 พ.ย.) ที่โรงเรียนอนุบาลประโคนชัย อำนวยกิจราษฎร์วิทยาคาร จ.บุรีรัมย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยบนเวทีประชาชน “เดินหน้า ผ่าความจริง สจฺจํ เว อมตา วาจา ความจริงไม่มีวันตาย” ว่า ผมกราบเรียนพี่น้องว่าที่จริงผมมีโอกาสเดินทางมาบุรีรัมย์หลายครั้ง ช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรีก็พยายามเดินทางมาเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนครับ แต่ว่าคนที่เขาต่อต้านรัฐบาลของผม ต่อต้านรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ มากน้อยผมไม่ทราบหรอกครับ แต่ว่าในขณะนั้นเขาพยายามขัดขวางไม่ให้ผมเดินทางมาที่นี่ เขาพยายามขัดขวางไม่ให้ผมมาพบปะกับพี่น้องประชาชน ผมก็ต้องระมัดระวังเพราะว่าไม่ได้เป็นห่วงตัวผมหรอกครับ แต่เป็นห่วงว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้นแล้ว เกิดมีผู้คนบาดเจ็บ เกิดมีความสูญเสียเขาก็ต้องบอกว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล และบ้านเมืองก็จะแตกแยกมากขึ้นไปอีก เหมือนกับเหตุการณ์ในปี 52-53 ที่เขาพยายามที่จะใช้มวลชน แล้วก็ทำให้เกิดความสูญเสีย เพื่อสร้างเงื่อนไขให้เกิดความวุ่นวาย ให้เป็นสงครามกลางเมือง แล้วก็จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่เขาต้องการ
พี่น้องครับ ที่จริงความพยายามที่จะทำลายพรรคประชาธิปัตย์ ความพยายามที่จะอ้างว่าพี่น้องชาวอีสานไม่นิยมพรรคประชาธิปัตย์นั้น ทำมายาวนานก่อนหน้านี้ครับ ทำมาตั้งแต่สมัยพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของท่านนายกฯ ชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี เขาฉวยโอกาส พี่น้องครับ ฉวยโอกาสว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นรัฐบาลทีไร ก็เป็นเพราะว่ามีพรรคการเมือง หรือมีรัฐบาลก่อนหน้าสร้างปัญหา สร้างวิกฤตไว้เยอะแยะ โดยเฉพาะวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ วิกฤตทางด้านการเงิน ทำให้รัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาแต่ละครั้ง มีหน้าที่รักษาบ้านเมือง รักษาประเทศให้บ้านเมืองไม่ล้มละลาย ให้บ้านเมืองไม่ล่มจม ก็ต้องใช้มาตรการหลายอย่าง เก็บเงินเข้าสู่คลัง ทำให้โอกาสที่จะใช้เงินงบประมาณต่างๆ เพื่อมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนนั้นทำได้ไม่มากเท่าที่ควร
ถ้าพี่น้องย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ พี่น้องจะพบความจริงครับว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองซึ่งยืนอยู่ข้างพี่น้องคนยากคนจนมาโดยตลอด ท่านนายกฯ ชวน เป็นผู้ริเริ่มนโยบายหลายเรื่อง ซึ่งจนถึงทุกวันนี้เป็นประโยชน์แก่พี่น้องในชนบท เป็นประโยชน์แก่พี่น้องชาวอีสาน เป็นประโยชน์แก่พี่น้องคนยากคนจนทั้งประเทศ ท่านเป็นคนแรกที่พูดถึงการสร้างโอกาสให้แก่ลูกหลานของพี่น้องประชาชน เริ่มต้นนโยบายการศึกษาฟรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเริ่มจาก 6 ปี ขยายเป็นการศึกษา ขยายโอกาส แล้วก็เป็นคนที่พยายามเอาโรงเรียนอนุบาล และเอามหาวิทยาลัย ขยายมาสู่พื้นที่ห่างไกลในชนบท เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ลูกหลานของพี่น้อง
เป็นนายกรัฐมนตรีที่ผลักดันให้ลูกหลานของพี่น้องกินอาหารกลางวันฟรีที่โรงเรียน และเป็นนายกรัฐมนตรีที่ให้ลูกหลานพี่น้องได้ดื่มนมฟรีครับ ถ้าไม่แน่ใจว่าผลงานของนายกฯ ชวน มีหรือไม่ผมให้พี่น้องดูง่ายๆ ครับ พี่น้องจะเห็นว่าเดี๋ยวนี้เด็กๆ รุ่นหลังนี่ ตัวโตขึ้นเรื่อย สูงขึ้น เสื้อผ้าใส่ไซส์ใหญ่ขึ้นทั้งนั้น เพราะมาจากนโยบายที่ได้ดื่มนมฟรี และได้อาหารกลางวันฟรีของนายชวน หลีกภัย
ตอนผมไปเป็นนายกรัฐมนตรี ผมก็ทำงานเรื่องนี้ต่อ จาก 6 ปี 9 ปี 12 ปี เราทำเรื่องเรียนฟรี 15 ปี และไม่ใช่เฉพาะค่าเล่าเรียน เราส่งเงินมาถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง เป็นเครื่องแบบ ค่าเครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และตำราเรียนฟรี สำหรับลูกหลานของพี่น้อง พอดูพี่น้องที่เป็นผู้สูงอายุ นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ที่บอกว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุในบ้านเมืองที่ไม่ได้รับการดูแล เป็นคนเริ่มต้นว่า ผู้สูงอายุที่ยากจนต้องได้เบี้ยยังชีพ ท่านเริ่มไว้ตั้งแต่ปี 35-36-37 ให้เดือนละ 200 บาท กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง เมื่อปี 40 ทั้งๆ ที่บ้านเมืองกำลังวิกฤต เงินในคลังมีน้อย แต่ท่านก็เพิ่มให้เป็น 300 บาท ต่อมา นายกฯ สุรยุทธ์ช่วงปฏิวัติ มาเพิ่มเป็น 500 บาท แต่ยังไม่ทั่วถึง พอผมเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีนโยบายว่าให้ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ทุกคนที่ไม่มีบำเหน็จ บำนาญได้เบี้ยยังชีพ นี่คือพรรคการเมืองที่เขาพยายามกล่าวหาว่า ไม่ช่วยคนจน กล่าวหาว่าช่วยแต่คนรวย แต่พี่น้องดูสิครับ ตั้งแต่เกิด จนตาย พรรคการเมืองที่เดินหน้าเอาสวัสดิการ เอาสิทธิ เอาความสนับสนุนมาให้ ก็คือพรรคประชาธิปัตย์
แล้วเราทำงานกับพี่น้อง เรารู้ว่าพี่น้องอยากทำงานช่วยเหลือรัฐ พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคที่เริ่มต้นให้มี อสม. แล้วพอมาถึงสมัยของรัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่ผมเป็นนายกฯ ก็มีค่าตอบแทนให้แก่ อสม. เป็นรายเดือน เป็นครั้งแรก นี่แหละครับ คือสิ่งที่เราพยายามทำมาโดยตลอด แต่พรรคการเมืองซึ่งพยายามสร้างภาพว่าตัวเองเป็นพรรคของคนจน เรื่องการศึกษาไม่ได้ให้ความสนใจ ไม่ได้ให้ความสำคัญ วันนี้เปลี่ยนรัฐมนตรีศึกษาอีกแล้ว เปลี่ยนเป็นว่าเล่น นโยบายไม่มีความต่อเนื่อง นโยบายไม่ได้นำไปสู่การให้ลูกหลานของพี่น้องได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ที่สำคัญที่สุดครับ พี่น้องส่วนใหญ่ของประเทศที่เป็นคนยากคนจน ก็คือพี่น้องเกษตรกร แต่เกษตรกรไม่ได้จนทุกคนหรอกครับ มีรวยบ้าง จนบ้าง จนที่สุดก็คือเกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกิน แล้วถามว่าพรรคการเมืองไหนล่ะครับ ที่มีการพยายามเดินหน้าแก้ปัญหาที่ทำกินอย่างเป็นระบบ ก็นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นี่แหละครับ ทำเรื่องปฏิรูปที่ดินมากที่สุด แล้วเราก็มาทำเรื่องโฉนดชุมชน ทำอีกหลายๆ เรื่องขณะนี้แต่ปรากฎว่า พอมาถึงรัฐบาลชุดนี้ โฉนดชุมชนชะงักไม่พอ มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่เริ่มมาขับไล่ มาจับกุมพี่น้องที่ไม่มีที่ทำกินที่รัฐบาลที่แล้วเตรียมช่วยเหลือ
แล้วที่สำคัญที่สุดก็คือ พี่น้องจะปลูกข้าว ปลูกมัน หรือจะเป็นยางพารา หรือจะเป็นข้าวโพด หรือจะเป็นปาล์ม หรือพืชผลใดๆ ก็ตาม หอม กระเทียม ไม่เคยมีหลักประกันความมั่นคง รัฐบาลที่แล้ว เราบอกว่าถึงเวลาที่ต้องช่วยเหลือพี่น้องอย่างเป็นระบบ ที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นพี่น้องมีปัญหาแล้ว ก็มาทำโครงการแทรกแซงราคาพืชผล ส่วนใหญ่แทรกแซงแล้วปรากฎว่า ผลประโยชน์ตกอยู่กับโรงสี พ่อค้า คนกลาง มาช่วยตอนข้าว ตอนผลผลิตไม่อยู่ในมือของพี่น้องประชาชน รัฐบาลที่แล้วเลยบอกว่า เริ่มต้นจากข้าว จากมันสำปะหลัง จากข้าวโพด เอาใหม่ ไปทำทะเบียนเลย ใครปลูกข้าว ปลูกมัน ปลูกข้าวโพดเท่าไหร่ ทุกคนรัฐบาลจะให้หลักประกันว่ามีรายได้ขั้นต่ำ ถ้าขายพืชผลได้ราคารายได้ไม่ถึงขั้นต่ำ รับเงินส่วนต่างไปเลย พี่น้องที่นี่ใครได้เงินส่วนต่างบ้างครับ ส่งเสียงดังๆ หน่อยครับ หลายคนบอกว่า อยากได้เงินส่วนต่างเพราะอะไรครับ ไม่ได้มีที่เยอะ ไม่ได้ปลูกมาก ปลูกข้าวไว้กินเอง เหลือไว้ขายเพียงเล็กน้อย ไม่มีโอกาสไปจำนำข้าว แต่ถ้าเป็นประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ได้เงินส่วนต่างทั้งหมด
แล้วปีไหนโชคไม่ดี ฝนแล้ง น้ำท่วม แมลงกิน จำนำก็ไม่มีข้าวไปจำนำ แต่ถ้าเป็นประกันรายได้ ได้เงินส่วนต่างทั้งหมด นี่คือความตั้งใจที่เรามาเดินหน้าพยายามแก้ปัญหาให้แก่พี่น้องทุกคน เสียดายครับว่า ในที่สุดพอเปลี่ยนแปลงรัฐบาลไป 1 ปี ที่ผ่านมา เขายกเลิกโครงการประกันรายได้ เขาบอกว่ามาทำโครงการ 15,000 บาทต่อตัน เป็นโครงการจำนำข้าวทุกเม็ด ใครได้ 15,000 บ้างครับ มีมั้ยครับ มีมั้ยครับ (ไม่มี)
ใครไปจำนำบ้าง มีทุกคนเลยนะ จำนำแหวน จำนำสร้อย จำนำหมดแล้วแต่ไม่มีข้าวไปจำนำ เพราะว่าเขารับจำนำข้าวเขมรไปหมดแล้ว นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น และมันแปลกมั้ยล่ะครับ รัฐบาลซึ่งมาบอกว่าเป็นนักประชาธิปไตย ต่อสู้เพื่อคนจนขับไล่รัฐบาลที่แล้ว ที่บอกว่าเป็นอำมาตย์ มาทำอะไรกับชีวิตพี่น้องประชาชน รัฐบาลที่แล้วใครใช้ไฟไม่ถึง 90 หน่วย ใช้ไฟ ฟรี รัฐบาลนี้บอกใครใช้ไฟเกิน 50 หน่วย รวยแล้ว มีพัดลม มีหม้อหุงข้าว ดูทีวีสักชั่วโมง 2 ชั่วโมง พอแล้ว ที่เหลือใช้เครื่องไฟฟ้าได้แต่อย่าเสียบปลั๊ก เสียบเมื่อไหร่ เก็บค่าไฟเมื่อนั้น นี่คือความจริงที่เราต้องพูดกันวันนี้ให้เห็นว่าสุดท้ายที่เขาพร่ำพูดมาตลอดว่า มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นพวกอำมาตย์ พวกนายทุน ช่วยคนรวย ช่วยแต่คนบางภาค มันไม่ใช่เรื่องจริง พี่น้องรู้มั้ยครับว่า ตอนที่นายชวน เป็นนายกฯ ตอนที่ผมเป็นนายกฯ งบประมาณจะมาที่ไหนอย่างไร นายชวน นายอภิสิทธิ์ ไม่เคยดูเลยว่าจังหวัดไหน เลือกพรรคอะไร ทุกจังหวัดคนไทยทั้งนั้นต้องได้รับผลประโยชน์จากรัฐบาลเท่าเทียมกัน
แต่รัฐบาลนี้ดูสิครับ ล่าสุด ยกเลิกโครงการศูนย์ประชุมที่ภูเก็ต ทั้งที่ภูเก็ตทำเงินเป็นอันดับ 1 เรื่องการท่องเที่ยว ส่งเงินเข้ามา มีภาษีเข้ามา มาพัฒนาให้คนทั้งประเทศ เขาเคยยกเลิกศูนย์ประชุมภูเก็ตไปครั้งนึงแล้ว สมัยทักษิณ แล้วเอาเงินนั้นไปวางแผนจะสร้างศูนย์ประชุมที่เชียงใหม่ พอมาถึงยุคผมศูนย์ประชุมเชียงใหม่ยังไม่เรียบร้อย ภูเก็ตอยากได้ศูนย์ประชุมกลับคืนไป ผมบอกว่าผมไม่ยกเลิกเชียงใหม่ไปให้ภูเก็ตหรอก ให้ทั้งเชียงใหม่ ให้ทั้งภูเก็ต และถ้าจังหวัดไหนเหมาะสมพร้อม ให้เถอะครับ แล้วเราไม่เลือกปฏิบัติ ใครจะอยู่ภาคไหน ใครจะยากดีมีจน ใครจะใส่เสื้อสีอะไร เราบอกทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเสมอภาคกัน นี่คือสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการใช่มั้ยครับ
แต่เป็นเรื่องแปลก ที่หลังจากทักษิณ ชินวัตร บริหารบ้านเมืองอ้างว่าจะทำให้ทุกคนหายจน เป็นรัฐบาลที่อยู่นานที่สุด อยู่ 6 ปี บอกพี่น้องประชาชน ชวนพี่น้องประชาชนว่าอะไร บอกให้ไปกู้เงินเยอะๆ อยากจะรวยต้องเป็นหนี้ก่อน เอ้า ใครเป็นหนี้ยกมือ เนี่ยเชื่อทักษิณกันทุกคนเลย กู้กองทุนหมู่บ้าน ตอนนี้มีให้กู้ 7 กองทุน กู้จากกองทุนที่ 1 ไปใช้หนี้กองทุนที่ 2 กู้จากกองทุนที่ 2 ไปใช้หนี้กองทุนที่ 3 ไล่ไปให้มันครบ 7 กองทุน คำถาม ไอ้ที่กู้แล้วใครรวยบ้างครับ ไหนยกมือหน่อยสิครับ อ้า มีคนรวย 1 คน เดี๋ยวทุกคนไปกู้จากคุณลุงได้ รวยแต่หนี้ แต่เขาทำโครงการเหล่านี้สร้างความหวัง แล้วก็มาแลกกับคะแนนเสียง แล้วก็สร้างฐานทางการเมืองขึ้นมา แต่พอถึงวันหนึ่งอยู่ไม่ได้ อยู่ไม่ได้เพราะการทุจริต คอร์รัปชัน อยู่ไม่ได้เพราะทำความเสียหายให้แก่บ้านเมือง เขาก็พยายามกลับมาปลุกระดม ปลุกระดมพี่น้องประชาชนว่าใครที่ไม่อยู่ข้างเขา กลั่นแกล้งเขา ใครที่ไม่อยู่ข้างเขา ขัดขวางพี่น้องประชาชนไม่ให้ร่ำรวย เขาสร้างคำพูดขึ้นมาว่ามีอำมาตย์ มีไพร่ แล้วก็เชิญชวนบอกใครด้อยโอกาส ใครยากจน ใครคิดว่าตนเองถูกเอาเปรียบ ไปเดินขบวนขับไล่อำมาตย์ ขับไล่รัฐบาลประชาธิปัตย์ ขับไล่นายอภิสิทธิ์
ปี 52 เขาไปพยายามขับไล่พวกผม ก่อเหตุวุ่นวาย เอารถแก๊สมาปิดถนน ไปก่อกวนในชุมชนหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ทำกระทั่งไปล้มการประชุมนานาชาติ ทำกระทั่งพยายามฆ่าผมที่กระทรวงมหาดไทย ยั่วยุที่จะให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามประชาชน แต่สุดท้ายเราคลี่คลายสถานการณ์ได้ ไม่มีใครเสียชีวิต ปี 52 คนเสียชีวิตอยู่ที่นางเลิ้ง จากฝีมือของผู้ชุมนุม เขาก็กลับบ้านไป แล้วก็พยายามมาปลุกระดมใหม่ เอาเสียงผมนี่แหละครับ ที่ออกรายการโทรทัศน์ เอาไปตัดต่อ บอกว่าผมเนี่ยนั่งประชุมแล้วก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปฆ่าประชาชน พี่น้องจำนวนมากที่ไม่ทราบ ก็โกรธ ก็เกลียด แล้วพอปี 53 พอเขาถูกยึดทรัพย์ เขาก็ระดมคนเข้าไปที่กรุงเทพฯ แต่คราวนี้ เขารู้แล้วว่า ถ้าทำเหมือนปี 52 มันก็ยังไม่สำเร็จตามเป้าหมายของเขา เขาก็เลยมีการฝึกฝนคนติดอาวุธที่เราเรียกว่าชายชุดดำ แล้วก็พอถึงเวลา ก็มีการไปยิงเอ็ม 79 ขว้างระเบิด ยิงอาร์พีจี เข้าใส่สถานที่สำคัญ และพอเจ้าหน้าที่พยายามที่จะไปขอคืนพื้นที่ ก็มีการเอาชายชุดดำ ออกมายิง ทำร้ายทหาร ตำรวจ ประชาชน แล้วก็สุดท้าย พี่น้องครับ อย่างที่คุณอิสสระ (สมชัย) เท้าความเปิดวิดีโอไปเมื่อสักครู่ ก็ไปยุยงให้ประชาชนเผา เผาบ้านเผาเมือง เผาไม่ใช่เฉพาะศูนย์การค้าที่กรุงเทพฯ แต่มาเผาศาลากลางที่ภาคอีสาน หลายจังหวัด แน่นอนครับ ในสถานการณ์อย่างนั้นเป็นเวลาร่วม 2 เดือน เราพยายามคลี่คลายสถานการณ์ด้วยความยากลำบาก แต่สุดท้ายเราก็ทำได้ แต่เราทุกคนเสียใจว่า มีพี่น้องประชาชนที่ต้องสูญเสียไป 90 กว่าคน
พี่น้องครับ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ควรจะเกิด แต่ที่เกิดเพราะมีคนใจดำ ที่เห็นพี่น้องประชาชนเป็นแค่ฐานเสียง เห็นพี่น้องประชาชนว่าจะเป็นมวลชนที่จะช่วยทำให้เขาได้สิ่งที่ต้องการ ไม่คำนึงว่าพี่น้องที่อุตส่าห์หลงรัก นิยม ศรัทธา ไปต่อสู้เพื่อเขานั้น จะต้องสูญเสียชีวิต และสูญเสียอีกหลายสิ่งหลายอย่าง เขาเคยบอกว่าไงครับ เขาเคยบอกว่า พี่น้องอีสานไปต่อสู้เถอะ จะได้ประชาธิปไตย จะได้หลุดพ้นจากความยากจน เขาบอกว่าไปต่อสู้เถอะ เขาจะมายืนอยู่แถวหน้า ถ้าเสียงปืนแตกจะมายืนอยู่แถวหน้า แต่จนถึงวันนี้รับผิดชอบอะไรบ้าง
แกนนำทั้งหลายที่ขึ้นบนเวที ชักชวนพี่น้องชาวอีสานซึ่งไปกันเยอะแยะบอกว่าจะดูแลทุกอย่าง เผาไปเลยจะรับผิดชอบ วันนี้รับผิดชอบไหม แล้วพอเวลาเลือกตั้ง ก็เอาชีวิตของพี่น้องคนอีสานนี่แหละครับ ไปใช้สร้างเงื่อนไขหาเสียง ไปชูป้าย พยายามที่จะดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์ แล้วก็บอกว่าเข้ามาแล้วจะมาแก้ปัญหาช่วยเหลือพี่น้องผู้สูญเสีย ช่วยเหลือพี่น้องคนยากคนจนที่ต่อสู้เพื่อเขา ชนะเลือกตั้งใครได้ดี ก็คนในครอบครัวเขา กับแกนนำเสื้อแดง อย่างณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ไปเสวยสุขอยู่ในคณะรัฐมนตรี ถามว่าคนเหล่านี้ทำอะไรให้แก่พี่น้องล่ะครับ เอาเงินส่วนต่างพี่น้องไปแล้ว เก็บค่าไฟพี่น้องมากขึ้น แล้วยังปล่อยให้ข้าวของแพง ราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส ขึ้นอีกต่างหาก ไหนบอกว่าไปแล้วจะไปช่วยพี่น้องคนยากคนจน นี่คือความจริงที่เราต้องพูดกันให้เห็น และแสดงให้เห็นว่าใครคิดอาศัยคนจน คนอีสานเป็นเครื่องมือทางการเมือง พวกผมพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมให้พี่น้องอีสานเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใครทั้งสิ้น หมดเวลาแล้ว แล้ววันนี้สิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด หลังจากที่ชักชวนพี่น้อง โดยเฉพาะชาวอีสานไปต่อสู้ที่กรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับสถานการณ์วุ่นวาย โกลาหล หลายคนเสียชีวิต อ้างว่าจะไปทวงความเป็นธรรม วันนี้รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย วันนี้รัฐบาลที่ทักษิณอยู่เบื้องหลัง กำลังจะบอกว่าใครฆ่าประชาชนให้นิรโทษกรรม ไม่เอาผิด
ผมกับคุณสุเทพ กับเพื่อนๆ ตรงนี้ต่างหากครับที่บอกว่าไม่ได้ พี่น้องที่สูญเสียไปต้องได้รับความเป็นธรรม ถ้าพวกผมผิด พวกผมก็ต้องรับผิดตามกระบวนการยุติธรรม ผมมั่นใจว่าถ้ากระบวนการยุติธรรมเดินไปอย่างเที่ยงตรง เราจะได้เห็นว่าสุดท้ายความสูญเสีย ความตายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะใคร ผมเคยพูดไว้แล้วว่า ฆาตกรตัวจริง กับผู้ก่อการร้ายคือคนคนเดียวกัน กลุ่มเดียวกัน
วันนี้เอาล่ะครับ กระบวนการยุติธรรมตั้งต้นมันไปอยู่ที่ดีเอสไอ อยู่ที่ตำรวจ รัฐบาลก็พยายามทุกอย่างล่ะครับที่จะเล่นงานพวกผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ มีรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายที่ชื่อ เฉลิม อยู่บำรุง ผมว่าข้างหน้านี้ น่ากลัวกว่าเสื้อแดงอีก ยื่นคำขาดไม่ให้ผมเรียกเฉลิมว่า คุณ
เฉลิมบอกว่า ถ้าเป็นทักษิณ ถ้าเป็นเสื้อแดงทำอะไรผิดกฎหมายบอกไม่ผิด ทำแต่สิ่งที่กฎหมายห้าม จำไว้นะพี่น้อง จำไว้ เผื่อกลับบ้านไปนี่ ตำรวจจับข้อหาอะไร บอกไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แค่ทำสิ่งที่กฎหมายห้าม แล้วถ้าตำรวจปรับ จับ บอกให้ไปปรับ ไปจับเฉลิม เพราะเป็นคนยุให้คนทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าเป็นพวกผม นั่งอยู่เฉยๆ ก็ผิดแล้ว อย่างท่านรองนายกฯ สุเทพ นั่งอยู่ใน ศอฉ. ผิดแล้ว เพราะควรจะตรัสรู้ว่าจะมีคนตาย แปลว่าเป็นฆาตกร นี่คือตรรกะของเฉลิม เหตุผลของเฉลิม ผมจะต้องพูดถึงคนอื่นแล้ว เพราะตอนนี้ยื่นคำขาดว่าเฉลิม ก็ไม่ได้ต้อง ไอ้เหลิม
พี่น้องครับ ความพยายามเอากฎหมาย มาบีบมาขู่บังคับพวกผมมาขู่ว่าจะดำเนินคดีศาลไทยบ้าง ศาลโลกบ้าง ที่จริงแล้วผมอยากจะบอกว่า ถ้าอยากจะดำเนินคดีกับนักการเมือง กับนายกฯ กับคนมีอำนาจซึ่งเคยฆ่าประชาชน ไปดูรายงานของคณะกรรมการ ของอาจารย์คณิต สิครับ สมัยที่อ้างว่าทำสงครามกับยาเสพติด มีประชาชนบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตายไปนับพันคน หลายคนอยู่ที่อีสาน ศาลตัดสินแล้วครับอย่างเช่น ที่กาฬสินธุ์ แต่ทั้งหมด ที่เขาจะพยายามบอกว่าคนฆ่าประชาชน ก็นิรโทษกรรมไปในที่สุด ก็เพื่อจะพ่วงให้นิรโทษกรรมคดีทุจริตทั้งหลายของทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่ยอมมาติดคุก ทั้งๆ ที่ศาลตัดสินแล้ว ที่ไม่ยอมมาต่อสู้คดีอีก 4-5 คดี ที่ทุจริต ทำบ้านเมืองเสียหายไปนับแสนล้านบาท นี่คือสิ่งที่เขาพยายามทำ
เขาพยายามจะผลักดันให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อลบล้างความผิด โดยอ้างว่าเป็นการลบล้างการกระทำของพวกปฏิวัติ รัฐประหาร แต่ที่จริงแล้วคนที่ส่งคดีของทักษิณขึ้นศาล มีทั้ง ป.ป.ช. มีทั้งอัยการ และคนที่ตัดสินว่าผิด ก็คือศาลสถิตยุติธรรม เพราะฉะนั้น วันนี้ผมว่าพี่น้องชาวอีสานต้องตัดสินใจ และต้องชัดเจน พี่น้องชาวอีสานต้องยืนยันว่าพี่น้องที่นี่รักความยุติธรรม และความถูกต้อง และเคารพกฎหมาย ใครทำผิด จะอยู่ฝ่ายไหน ต้องรับโทษ ใครไม่ผิด ก็ต้องไม่มีการกลั่นแกล้ง บ้านเมืองจะต้องเดินไปอย่างนี้ จึงจะเป็นหลักประกันว่าคนทุกคนในสังคมโดยเฉพาะคนจนคนด้อยโอกาส คนอยู่ห่างไกลจะมีความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่เป็น 2 มาตรฐานแบบที่เขาชอบพูด
และพี่น้องที่นี่ต้องช่วยกันบอกต่อๆ ว่า หมดเวลาของการไปเป็นเครื่องมือให้แก่นักการเมืองอีก ที่มาอ้างคนจน ที่มาอ้างประชาชน ที่มาอ้างคนอีสาน ว่าจะต้องไปสู้เพื่อประชาธิปไตย ไปสู้เพื่อให้บ้านเมืองดีขึ้น ให้หลุดพ้นจากความยากจน พี่น้องตัดสินใจเอาเองจากนโยบายว่าใครทำให้พี่น้องคนยากคนจนจริง ไม่ใช่พูด โฆษณาชวนเชื่อ หลอกแล้วก็ทำให้ทุกคนเป็นหนี้เหมือนกับทุกวันนี้
พี่น้องต้องตัดสินใจว่า ถ้าจะชวนพี่น้องไปต่อสู้ ไปต่อสู้เพื่อพี่น้องจริงๆ เอาสิครับ ถ้าบอกให้เดินขบวนไปเรียกร้องให้มีที่ทำกิน อย่างนี้ไปเดินขบวนสิครับ อย่างนั้นแหละต่อสู้เพื่อแก้ปัญหาความยากจน ถ้าอยากจะช่วยเกษตรกร ชวนเกษตรกรไปเดินขบวนดีมั้ยครับว่าขอเงินส่วนต่างคืนมา เอาจำนำคืนไป แต่ถ้าเดินขบวนไปช่วยให้ทักษิณกลับบ้าน ไปมั้ยครับ (ไม่ไป) ไปมั้ยครับ (ไม่ไป) แต่ถ้ากลับบ้านมาแล้วไม่เหมือนพี่น้อง คือพี่น้องถ้าทำผิด ติดคุก แต่ถ้าทักษิณกลับมาไม่ติดคุก ไปเดินขบวนเอาทักษิณเข้าคุกไปมั้ย (ไป) ไปมั้ยครับ (ไป) ไปมั้ยครับ (ไป) ไปเพื่อจะบอกว่าคนคนนี้หากินกับคนจนมามากพอแล้ว เอาชีวิตคนจนไปเสี่ยง ไปสูญเสียเพื่อตัวเองมากเกินไปแล้ว และต่อไปนี้เราจะไม่ยอมรับคนโกหก หลอกลวงอีกต่อไป แต่จะยึดมั่นเอาความถูกต้อง เอากฎหมาย แล้วสนับสนุนคนดี คนซื่อสัตย์เข้าไปทำงานเพื่อพี่น้องคนจนทุกคน
ผมกราบเรียนว่า เร็วๆ นี้ หลังจากที่เดือนนี้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีการอภิปรายเรื่องผลงานของรัฐบาล เขายังวางแผนอยู่ว่าจะต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรม ล้างผิดคนโกง เขายังวางแผนอยู่ว่าจะต้องแก้รัฐธรรมนูญ หรือทำอะไรก็ได้ที่จะให้ทักษิณ อยู่เหนือกฎหมาย กลับมาแล้วไม่ต้องรับผิด แลกกับการที่จะนิรโทษกรรม ทั้งคนเผาบ้านเผาเมือง คนก่อการร้าย คนโกง และฆาตกรประชาชน เราจึงต้องเดินสายทุกวันเสาร์ เอาความจริงไปเล่าให้คนทุกภาค เพื่อที่จะร่วมกันรักษาความถูกต้องในบ้านเมือง