ปธ.กมธ.เศรษฐกิจ ส.ว.มอบรายงานศึกษาโครงการจำนำข้าวต่อผู้ตรวจฯ ร้องสั่งยุติ หวั่นวิกฤตแบบอาร์เจนฯ-กรีซ เหตุประชานิยมเกินตัว แถมคอร์รัปชันแหลก ปัดล้ม รบ. ยกหลายสถาบันกลัวประเทศล้ม ปธ.ผู้ตรวจ แจงสอบนโยบายไม่ได้ แต่สอบ รบ.ละเว้น-ลุแก่อำนาจได้ ชี้ทำหน้าที่เพื่อภาษี ปชช.
วันนี้ (1 พ.ย.) นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรมวุฒิสภา พร้อมคณะ ได้เข้ามอบรายงานการพิจารณาศึกษาและวิเคราะห์นโยบายประชานิยมของรัฐบาลที่ส่งผลกระทบกับปัญหาเศรษฐกิจประเทศไทย และการพิจารณาศึกษาโครงการรับจำนำข้าวที่เป็นนโยบายของรัฐซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาวะหนี้สาธารณะ และปัญหาเศรษฐกิจในอนาคต ให้แก่นางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญาพานิช และนายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยนายมหรรณพกล่าวว่า จะเดินหน้ามอบรายงานผลการศึกษานี้ให้แก่องค์กรตรวจสอบทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงบประมาณ ซึ่งหากเป็นไปได้อยากเรียกร้องให้ทุกองค์กรตรวจสอบได้บูรณาการการตรวจสอบและยับยั้งการดำเนินโครงการตามนโยบายประชานิยมของรัฐบาลก่อนที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติไปมากกว่านี้
โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ที่กรรมาธิการฯ ศึกษาแล้วพบว่ามีปัญหาคอร์รัปชันทุกขั้นตอน ชาวนาไม่ได้รับประโยชน์จริงอย่างที่มีการกล่าวอ้าง ตรงกันข้ามกลับจะยิ่งสร้างหนี้สาธารณะให้แก่ประเทศจนอาจมีสภาพเดียวกับอาร์เจนตินา หรือกรีซ ที่ใช้โครงการนโยบายประชานิยมเกินตัว
“เจตนารมณ์เราไม่คิดที่จะล้มล้างใคร แต่อยากให้รัฐบาลพิจารณาทบทวน เพราะเมื่อมีการผลการศึกษาของ กมธ.และหลายสถาบันยืนยันตรงกันว่า โครงการเหล่านี้จะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงเกินกว่าที่ใครจะรับผิดชอบได้ให้กับประเทศ รัฐบาลก็ควรหยุดแล้วทบทวนการกระทำเสีย” นายมหรรณพกล่าว
ด้านนางผานิตกล่าวว่า กรณีนี้ไม่ถือเป็นเรื่องร้องเรียน ถือเป็นการมาให้ข้อมูลซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะนำไปประกอบการพิจารณาคำร้องเรื่องการจำนำข้าว โดยผู้ตรวจฯพร้อมรับฟังข้อมูลความเห็นจากทุกฝ่าย ซึ่งตามกฎหมายหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา ผู้ตรวจฯ ไม่สามารถตรวจสอบได้ เว้นแต่ว่ามีการละเลยการปฏิบัติ หรือปฏิบัตินอกเหนืออำนาจหน้าที่ตามมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถที่จะดำเนินการตรวจสอบและมีข้อเสนอแนะต่อไปได้
“ยืนยันว่าการทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ปรารถนาร้ายต่อผู้หนึ่งผู้ใด ผลการตรวจสอบอาจก่อให้เกิดผลกระทบบ้าง แต่ก็ถือเป็นการเตือน หรือเป็นข้อกังวลของหน่วยตรวจสอบที่มุ่งหวังอยากจะให้ประชาชนในฐานะเจ้าของเงินงบประมาณแผ่นดินได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง” นางผานิตกล่าว
