โถ...“ดีเจแดง” อ้างวิเคราะห์ร่วมทีมความมั่นคงม็อบสนามม้าผิดปกติ เชื่อโยงบางพรรค มีแจกเงิน จวกโจมตีไม่จงรักฯ ไม่สมเหตุ โอ่เพื่อไทยมีแค่ราชองครักษ์ ด้าน “หมวดเจี๊ยบ” สอนประวัติศาสตร์ขุดอดีต “เสธ.อ้าย” ก่อกบฏร่วม “วีระ” เตือนดูแลชุมนุมให้ปลอดอาวุธ พร่ำนักลงทุนเริ่มแห่กลับหลังการเมืองสงบ รัฐแก้น้ำท่วมดี หวั่นประเทศวุ่นเศรษฐกิจชะงัก โอดตำรวจทหารไม่สบายใจเพียบ
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ว่า เท่าที่ได้วิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงพบว่า มีข้อมูลการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในหลายพื้นที่ ทั้งก่อนและหลังการชุมนุม โดยเมื่อประเมินจากจำนวนมวลชนที่เข้าร่วมการชุมนุม จากตัวฐานมวลชนจริงๆ ขององค์การพิทักษ์สยาม มีเต็มที่ไม่เกิน 2,000 คน ทำให้เชื่อได้ว่าการชุมนุมดังกล่าวน่ามีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองบางพรรค บางส่วนมีการรับเงินจากผู้ชักจูง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการชุมนุม และการกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่จงรักภักดี ทั้งที่เป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีนายทหารและนายตำรวจราชองครักษ์มาอยู่กันจนล้นพรรค จะมาโจมตีกันในเรื่องนี้จึงถือว่าไม่สมเหตุสมผล เวลานี้ภาคธุรกิจกังวลฝากให้พี่น้องประชาชนช่วยกันดับไฟม็อบที่ไม่สร้างสรรค์นี้
ขณะที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 15.00 น. ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ห้ามการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามที่เตรียมชุมนุมขับไล่รัฐบาลอีกครั้ง โดยรัฐบาลยืนยันจะรับฟังความเห็นที่แตกต่างของคนทุกกลุ่มและพร้อมจะคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ด้วย แต่ขอให้ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ในฐานะประธานองค์การพิทักษ์สยามดูแลความปลอดภัยให้การชุมนุมปลอดอาวุธ และไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียเหมือนครั้งที่ เสธ.อ้าย เคยร่วมในเหตุการณ์กบฏ พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2520 เพื่อล้มรัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ถือเป็นการปฏิวัติที่ล้มเหลว และมีการเสียเลือดเนื้อ เกิดการชักปืนยิงใส่กัน จนทำให้ พล.ต อรุณ ทวาทศิน อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ จนกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าเจ็บปวดของกองทัพ เพราะพี่น้องฆ่ากันเองมาแล้ว
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า พล.อ บุญเลิศอาจคุ้นเคยกับการแย่งชิงอำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ปัจจุบันคนไทยเห็นแล้วว่าการรัฐประหารไม่ช่วยให้ประเทศเจริญได้ ที่ผ่านมาตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ามาบริหารประเทศ บรรยากาศการเมืองที่เคยตึงเครียดเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มหันกลับมาขยายการลงทุนในประเทศไทย เพราะเห็นว่าการเมืองมีความสงบและรัฐบาลก็ป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้ดี หากประเทศกลับมาวุ่นวาย และสถานการณ์บานปลายจนเกิดความรุนแรงอีกครั้งอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจหยุดชะงักและทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศได้
ร.ท.หญิง สุณิสากล่าวต่อว่า นอกจากนี้การที่ พล.อ บุญเลิศมีตำแหน่งเป็นประธานมูลนิธิโรงเรียนเตรียมทหาร จึงทำให้ทหารและตำรวจจำนวนมากสะท้อนความเห็นมาที่พรรคเพื่อไทยว่า รู้สึกไม่สบายใจเพราะกลัวถูกมองว่าทหารและตำรวจเข้าไปยุ่งกับการเมือง จึงขอให้ พล.อ บุญเลิศคำนึงถึงผลกระทบต่อรุ่นพี่รุ่นน้องโรงเรียนเตรียมทหารด้วย อย่างไรก็ตามในวันที่ 30 ต.ค.หลังจากมีการประชุมเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยแล้ว พล.อ.อ.พิธพร กลิ่นเฟื่อง ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพอากาศ หนึ่งในเตรียมทหารรุ่น 10 จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และจะมีการสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยให้ด้วย