“กล้านรงค์” เผย ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติตั้งอนุฯ ไต่สวนกรณี กทค.ออกใบอนุญาต 3 จี ตามคำร้องกมธ.สอบโกง วุฒิสภา ให้ “ภักดี-ใจเด็ด” ประธานฯ พร้อมเรียก 4 พยานให้ถ้อยคำเพิ่มเติมกรณี “มงคลกิตติ์” ร้องไซฟ่อนเงินฮ่องกง เรียก ป.ป.ท.โอนคดีนำเข้ารถหรูมาสอบเอง สั่งสำนักงานฯ รวมข้อมูลโกงจำนำข้าวจากสื่อประกอบการพิจารณา
วันนี้ (25 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เมื่อเวลา 14.00 น. นายกล้านรงค์ จันทิก ป.ป.ช.ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีที่ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ออกใบอนุญาตการประมูลคลื่น 3 จี โดย ป.ป.ช.ได้พิจารณาจากคำร้องหลักของคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ที่ยื่นคำร้องเข้ามาให้ทาง ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบว่าการประมูลคลื่น 3 จี ไม่ได้เป็นการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และพฤติการณ์ของคณะกรรมการ กทค.ที่เร่งรัดมีมติเห็นชอบการประมูลดังกล่าว ว่าเป็นคำร้องผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ตามมาตรา 14 ซึ่งถือเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. จึงให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยที่ประชุมมอบหมายให้นายภักดี โพธิศิริ และนายใจเด็ด พรไชยา 2 กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยคาดว่าจะเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเข้าเป็นคณะอนุกรรมการฯ ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแล้วเสร็จก็จะเร่งดำเนินการพิจารณาโดยเร็ว
โฆษก ป.ป.ช. แถลงอีกว่า กรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) เข้าร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ว่ามีนักการเมืองทุจริตนำเงินช่วยเหลืออุทกภัยออกนอกประเทศไปไว้ในฮ่องกง จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท และมีการอ้างพยานบุคคล 4 รายที่รู้เห็นการไซฟ่อนเงินที่ฮ่องกง ซึ่งกรณีนี้ ที่ประชุมก็ได้มีมติสำนักงาน ป.ป.ช.เรียกพยานบุคคล 4 รายที่นายมงคลกิตติ์ กล่าวอ้างมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อ และรายละเอียด แต่หากเป็นชาวต่างชาติ ป.ป.ช.ก็มีอำนาจในการเรียกเข้าบุคคลดังกล่าวให้ข้อมูล โดยอาศัยช่องทางอัยการสูงสุดเป็นผู้ดำเนินการ พร้อมกันนี้ ยังมีหนังสือเรียกเอกสารจากคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
โฆษก ป.ป.ช. แถลงด้วยว่า ป.ป.ช. อาศัยอำนาจตามมาตรา 87/1 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. แก้ใช้ฉบับที่ 2 พ.ศ.2554 เรียกให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) โอนเรื่องการนำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษีและเอกสารทั้งหมด มาให้สำนักงาน ป.ป.ช.ตรวจสอบเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป หลัง พล.ต.อ.ดุษฏี อาริยะวุฒิ อดีตเลขาธิการ ป.ป.ท.ออกมาให้ข้อมูลแล้วถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมกันนี้ ป.ป.ช.ยังมีมติให้สำนักงาน ป.ป.ช.รวบรวมข้อมูลการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวทั้งหมดจากสื่อทุกแขนง เช่น วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ มาประกอบการพิจารณา หลังนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่มายื่นคำร้องทุกข์ให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการที่ชอบธรรมหรือไม่