วานนี้(23 ต.ค.55) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ได้เลื่อนนัดการให้ข้อมูลการไซฟ่อนเงิน กับ พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นวันพุธนี้ เนื่องจากติดประชุมพรรค โดยมีข้อมูลจาก นายธีรภัทร คำคู้บอน รักษาการประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ภตช. ที่ร่วมเดินทางไปฮ่องกงกับ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการ ภตช. ว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการไซฟ่อนเงิน อีกทั้ง จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ อดีตเลขา ป.ป.ท. กลับคำว่า ไม่ได้เป็นคนให้ข้อมูลเรื่องไซฟ่อนเงิน โดยที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ดุษฎี เป็นคนออกมาระบุ ตั้งแต่เรื่องไซฟ่อนเงิน การนำเข้ารถหรู ทุจริตน้ำท่วม เพราะการออกมาให้ข่าวที่ผ่านมา ก็ไม่ผ่านบอร์ด ป.ป.ท. ดังนั้น จึงมองว่าพฤติกรรมของอดีต เลขา ป.ป.ท และนายมงคลกิตติ์ มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 ขั้นบันไดแผนล้มรัฐบาล รวมถึงการเคลื่อนไหวของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม ที่จะชุมนุมใหญ่ 28 ตุลาคมนี้ ก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านด้วย
นายพร้อมพงศ์ ยังระบุด้วยว่า พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม มีการร่วมมือกับกลุ่มที่จ้องล้มรัฐบาล โดยจะมีการขนคนมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามด้วย
**ยัดข้อหา "ดุษฎี"สมาชิก ภตช.
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 24 ต.ค.จะเดินทางไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยจะนำหลักฐานที่ได้จากนายธีรพัฒน์ คำคูบอน ประธานเครือข่ายอาชีวศึกษาแห่งประเทศ รักษาการประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นของชาติ (ภตช.) ที่ถูกอ้างว่าเป็นประธานภตช.ไปมอบให้ดีเอสไอว่าการเดินทางไปฮ่องกง ตามที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาฯ ภตช.อ้างว่า มีข้อมูลจากป.ป.ช.ฮ่องกงว่ามีการไซฟ่อนนั้นจริงแล้วไม่มีข้อมูลดังกล่าว และที่น่าแปลกอันหนึ่งคือ ที่พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) เคยให้ข้อมูลไซฟ่อน แต่เมื่อทางดีเอสไอไปขอข้อมูล กลับบอกว่าไม่เคยพูดเรื่องไซฟ่อนเงิน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ตนมีข้อมูลจากประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่บางคนส่งให้ระบุว่า พ.ต.ท.ดุษฎีเป็นสมาชิกของ ภตช. มีทั้งภาพถ่ายและมีใบสมัคสมาชิกด้วย ตรงนี้คงต้องถามว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะภตช.ไม่มีการจดเบียนที่ถูกต้อง และจะยื่นเรื่องให้ดีเอสไอตรวจสอบ
**ยังไม่นำเรื่องไซฟ่อนเงินเข้ากมธ.
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ฐานะประธาคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติดของสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนเองไม่ได้เดินทางไปตรวจสอบการไซฟ่อนที่ฮ่องกง เนื่องจาก ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ป.ป.ง. ได้เดินทางมาประชุมชี้แจงที่ คณะกรรมาธิการ ว่า ทาง ป.ป.ง.ฮ่องกง ไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ ซึ่งทางกรรมาธิการ ได้ให้ ป.ป.ง. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อชี้แจงข้อสงสัยต่อสาธารณชนแล้ว แต่ในส่วนของกรรมาธิการ ยังไม่นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณา เพราะเห็นว่ายังไม่มีบุคคลใดเกี่ยวข้อง และเอกสารก็เป็นการกล่าวอ้างของเอกชน อีกทั้ง เอกสารต้องเป็นเอกสารที่ยืนยันได้ หาก ป.ป.ง.ฮ่องกง ส่งเอกสารดังกล่าวมา ก็จะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีเอกสารดังกล่าว
**'สันธนะ' ชี้มีแกงค์โอนฟอกเงินจริง
พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวว่า เอกสารการไซฟ่อนเงินในฮ่องกงนั้น ไม่ใช่การไซฟ่อนเงิน แต่เป็นขบวนการโอนฟอกเงิน เพราะวิธีการเหล่านี้เกิดขึ้นมาหลายเดือนก่อนเป็นข่าว และมีการดำเนินการมามานแล้ว เพื่อนำเงินออกนอกประเทศ จึงสามารถบอกได้ว่า ไม่ใช่เงินบริสุทธิ์ และจะต้องมีเครือข่ายเหล่านี้ เป็นตัวกลางในการรับแลกเปลี่ยนเงินตรา จากบาทไทยเป็นดอลลาร์ เพื่อทำหน้าที่โอนเงินไปยังประเทศ ที่มีการตกลงกัน ซึ่งทางภาครัฐต้องดำเนินการเรื่องนี้ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อทราบต้นทางและปลายทาง
พ.ต.ท.สันธนะ ยังกล่าวว่า ตนเองทราบข้อมูลเฉพาะการโอนเงิน และปลายทางเท่านั้น และทราบมาว่ามีการกระจายเงินเพื่อนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์และตราสารประเภทต่าง ๆ และยืนยันว่า ที่มาของเงินเป็นการทุจริตจากภาครัฐจริง เพราะหากเป็นเงินบริสุทธิ์ คงไม่ใช้ช่องทางดังกล่าว
นายพร้อมพงศ์ ยังระบุด้วยว่า พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม มีการร่วมมือกับกลุ่มที่จ้องล้มรัฐบาล โดยจะมีการขนคนมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามด้วย
**ยัดข้อหา "ดุษฎี"สมาชิก ภตช.
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 24 ต.ค.จะเดินทางไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยจะนำหลักฐานที่ได้จากนายธีรพัฒน์ คำคูบอน ประธานเครือข่ายอาชีวศึกษาแห่งประเทศ รักษาการประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นของชาติ (ภตช.) ที่ถูกอ้างว่าเป็นประธานภตช.ไปมอบให้ดีเอสไอว่าการเดินทางไปฮ่องกง ตามที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาฯ ภตช.อ้างว่า มีข้อมูลจากป.ป.ช.ฮ่องกงว่ามีการไซฟ่อนนั้นจริงแล้วไม่มีข้อมูลดังกล่าว และที่น่าแปลกอันหนึ่งคือ ที่พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) เคยให้ข้อมูลไซฟ่อน แต่เมื่อทางดีเอสไอไปขอข้อมูล กลับบอกว่าไม่เคยพูดเรื่องไซฟ่อนเงิน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ตนมีข้อมูลจากประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่บางคนส่งให้ระบุว่า พ.ต.ท.ดุษฎีเป็นสมาชิกของ ภตช. มีทั้งภาพถ่ายและมีใบสมัคสมาชิกด้วย ตรงนี้คงต้องถามว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะภตช.ไม่มีการจดเบียนที่ถูกต้อง และจะยื่นเรื่องให้ดีเอสไอตรวจสอบ
**ยังไม่นำเรื่องไซฟ่อนเงินเข้ากมธ.
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ฐานะประธาคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติดของสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนเองไม่ได้เดินทางไปตรวจสอบการไซฟ่อนที่ฮ่องกง เนื่องจาก ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ป.ป.ง. ได้เดินทางมาประชุมชี้แจงที่ คณะกรรมาธิการ ว่า ทาง ป.ป.ง.ฮ่องกง ไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ ซึ่งทางกรรมาธิการ ได้ให้ ป.ป.ง. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อชี้แจงข้อสงสัยต่อสาธารณชนแล้ว แต่ในส่วนของกรรมาธิการ ยังไม่นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณา เพราะเห็นว่ายังไม่มีบุคคลใดเกี่ยวข้อง และเอกสารก็เป็นการกล่าวอ้างของเอกชน อีกทั้ง เอกสารต้องเป็นเอกสารที่ยืนยันได้ หาก ป.ป.ง.ฮ่องกง ส่งเอกสารดังกล่าวมา ก็จะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีเอกสารดังกล่าว
**'สันธนะ' ชี้มีแกงค์โอนฟอกเงินจริง
พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวว่า เอกสารการไซฟ่อนเงินในฮ่องกงนั้น ไม่ใช่การไซฟ่อนเงิน แต่เป็นขบวนการโอนฟอกเงิน เพราะวิธีการเหล่านี้เกิดขึ้นมาหลายเดือนก่อนเป็นข่าว และมีการดำเนินการมามานแล้ว เพื่อนำเงินออกนอกประเทศ จึงสามารถบอกได้ว่า ไม่ใช่เงินบริสุทธิ์ และจะต้องมีเครือข่ายเหล่านี้ เป็นตัวกลางในการรับแลกเปลี่ยนเงินตรา จากบาทไทยเป็นดอลลาร์ เพื่อทำหน้าที่โอนเงินไปยังประเทศ ที่มีการตกลงกัน ซึ่งทางภาครัฐต้องดำเนินการเรื่องนี้ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อทราบต้นทางและปลายทาง
พ.ต.ท.สันธนะ ยังกล่าวว่า ตนเองทราบข้อมูลเฉพาะการโอนเงิน และปลายทางเท่านั้น และทราบมาว่ามีการกระจายเงินเพื่อนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์และตราสารประเภทต่าง ๆ และยืนยันว่า ที่มาของเงินเป็นการทุจริตจากภาครัฐจริง เพราะหากเป็นเงินบริสุทธิ์ คงไม่ใช้ช่องทางดังกล่าว
