“สรยุทธ” ชิ่งหนีแจงไร่ส้มโกง อสมท ต่ออนุ กมธ.พัฒนาการเมืองและสื่อมวลชนฯ ช่อง 3 ส่งตัวแทนแจง อ้างไม่ได้รับหนังสือเชิญ ประธานสหภาพฯ อสมท ยันนักเล่าข่าวคนดังใช้เวลาเกินกำหนด จนตรวจสอบพบมีการทุจริต ด้านตัวแทนช่อง 3 ขอรอคำพิพากษาศาลอาญาก่อนพิจารณาปลด ขณะที่ “ปุระชัย” เรียกร้องช่อง 3 ยึดหลักจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า วันนี้ (24 ต.ค.) มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสื่อมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชนสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาเรื่องบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสุรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการเล่าข่าว ทุจริตเงินค่าโฆษณาจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมีนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน โดยในวันนี้อนุกรรมาธิการฯ ได้เชิญผู้แทนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บริษัท อสมท และสหภาพ อสมท รวมถึงผู้แทนจากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เข้ามาร่วมชี้แจง แต่ตัวแทนจากช่อง 3 อ้างว่านายสรยุทธไม่ได้รับหนังสือจึงไม่มาชี้แจงด้วยตนเอง
ขณะที่ นางอรวรรณ ชูดี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ตนเองจะเข้ามารับหน้าที่ แต่ก็ได้สอบถามจึงทราบว่าในขณะนั้นการดำเนินรายการของนายสรยุทธในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” พบมีการออกอากาศของ อสมท ใช้เวลาเกินที่กำหนดไว้มาก ส่งผลกระทบให้รายการต่างๆ ในสถานีต้องเลื่อนเวลาออกไป จึงมีการตรวจสอบแล้วพบเป็นการกระทำที่ส่อทุจริต โดยที่มีการโฆษณาเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ ทำให้มีกระบวนการตรวจสอบภายในกันมาอย่างต่อเนื่องและขณะนี้ก็อยู่ในกลไกของขบวนการดำเนินคดีทางอาญาและ ป.ป.ช. ซึ่งทางสหภาพฯ เองก็มีการลงโทษทางวินัยกับพนักงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว ทั้งนี้ได้มีการกวดขันในเรื่องนี้อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นซ้ำอีก
ด้านนายอัชฌา สุวรรณปากแพรก รองกรรมการผู้จัดการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ยืนยันว่าสถานีมีมาตรฐานทางจริยธรรมในวิชาชีพและมีการตรวจสอบภายในอยู่แล้วและขณะนี้ ป.ป.ช.เพิ่งเริ่มชี้มูลความผิดก็ถือว่าเป็นการเริ่มกระบวนการยุติธรรมยังต้องรอผลการพิพากษาจากศาลอาญาก่อน ซึ่งหากปลดนายสรยุทธก่อนที่จะมีคำพิพากษา หากผลออกมาแล้วคดีพลิกก็จะทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ ดังนั้นจึงให้นายสรยุทธพิสูจน์ด้วยตนเองมากกว่าและเมื่อกระบวนการถึงขั้นสุดท้าย ตนเชื่อว่านายสรยุทธจะพิจารณาเองว่าควรทำอย่างไรต่อไป
ทางด้านนายวชิร สงบพันธ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ชี้แจงว่า หลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดก็ต้องส่งเรื่องไปยังสำนักอัยการสูงสุด ตามพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. เพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาส่งเรื่องไปยังศาลต่อไป ส่วนที่มีข้อสังเกตว่า ป.ป.ช.ดำเนินการเรื่องนี้ล่าช้า นายวชิรระบุว่า ก่อนหน้านีคณะกรรมการค่อนข้างมีปัญหาและมีหลายเรื่องให้พิจารณาจึงต้องเป็นไปตามขั้นตอน
ขณะที่ นายธนะชัย วงศ์ทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ชี้แจงกรณีที่บริษัทไร่ส้ม ฟ้องกลับ อสมท โดยอ้างว่ามีการตกลงกันว่าจะแบ่งโฆษณาฝ่ายละ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่บริษัทไร่ส้มกล่าวหาว่าบริษัท อสมท ลงโฆษณาเกินเวลาเช่นเดียวกันจึงเรียกร้องเงินกลับ ซึ่งนายธนะชัยระบุว่าการแบ่งโฆษณากับบริษัทไร่ส้มมีจำนวนเวลาที่ชัดเจนโดยโฆษณาอยู่บนพื้นฐานชั่วโมงละ 10 นาที และรายการหนึ่งๆ จะได้โฆษณาไม่เกิน 12.30 นาที โดยเมื่อเฉลี่ยทั้งวันแล้วคือไม่เกิน 10 นาทีต่อวันใน 1 ชั่วโมง ซึ่งตนมองว่านายสรยุทธน่าจะอ้างถึง 12.30 นาทีดังกล่าวว่าเป็นส่วนที่ อสมท โฆษณาเกินเวลา พร้อมกันนี้นายธนะชัยยืนยันว่าจากเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นในเรื่องตัวเงินแต่อาจทำให้เกิดการเคลือบแคลงสงสัยได้ ซึ่งขณะนี้ อสมท ก็มีการปรับปรุงระบบการตรวจสอบที่เชื่อถือได้มากขึ้นแล้ว
ทั้งนี้ ในการประชุม ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ที่ปรึกษาพรรครักสันติ ได้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง โดยเรียกร้องให้กับสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทบทวนมาตรการดำเนินการต่อนายสรยุทธ โดยยึดหลักจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชนที่ต้องมีมาตรฐานด้านวิชาชีพสูงกว่าวิชาชีพอื่น และขอให้แยกประเด็นระหว่างการดำเนินคดีทางอาญาและเรื่องจริยธรรมที่ใช้ประกอบการดำเนินการต่อนายสรยุทธ
ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วยที่ช่อง 3 ยังคงเพิกเฉยต่อกรณีดังกล่าว โดยอ้างเรื่องกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้าคณะอนุกรรมาธิการจะเชิญอัยการสูงสุด และนายสรยุทธมาชี้แจงอีกครั้งด้วย