“ปานเทพ” ชี้ชูธงปฏิรูปประเทศจะสามารถขยายมวลชนได้มาก แม้ใช้เวลานานก็ตาม แนะประชาธิปัตย์หากยังยืนหยัดแบบเดิมไม่มีทางชนะเพื่อไทยได้ พร้อมย้ำพันธมิตรฯ ไม่ผลีผลามชุมนุม หวั่นสร้างอำนาจต่อรองให้กับกลุ่มขับไล่รัฐบาลโดยที่ไม่มีการปฏิรูป
วันที่ 22 ต.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
โดยนายปานเทพได้กล่าวถึงเหตุผลที่พันธมิตรฯตัดสินใจไม่เข้าร่วมการชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยามว่า เราได้พิสูจน์มาแล้วแม้ไม่ใช่รัฐบาลในระบอบทักษิณ ทั้งรัฐบาลสุรยุทธ์ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ต่างก็ไม่ได้มีการปฏิรูป ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเลย ฉะนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องไปขับไล่รัฐบาลขั้วหนึ่งเพื่อให้อีกขั้วหนึ่งขึ้นมาแทน แต่ก็ต้องขอให้กำลังใจกับทางกลุ่มพิทักษ์สยาม
นายปานเทพกล่าวต่อว่า พันธมิตรฯ ได้โยนโจทย์เรื่องปฏิรูปประเทศ เช่น แก้กฎหมายให้คดีทุจริตไม่มีอายุความ ให้ปฏิรูปพลังงานเก็บค่าภาคหลวงเข้ารัฐมากขึ้น แต่ทุกขั้วการเมืองก็เงียบไม่ตอบรับ แล้วตนก็เชื่อว่าหากสู้เพื่อขั้วอำนาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าประชาชนไม่สนขั้วอำนาจ ฝ่ายการเมืองเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสู้เพื่อขั้วอำนาจให้เขาแล้ว เขาจะเปลี่ยนท่าทีมาปฏิรูปประเทศ ถึงจะมีโอกาสเปลี่ยนขั้วอำนาจได้
มีคนถามว่าทำไมพันธมิตรฯ ไม่ร่วมมือกับประชาธิปัตย์ก่อน เพื่อโค่นเพื่อไทย ตนก็ต้องถามกลับว่าทำไมประชาธิปัตย์ไม่มาร่วมมือกับประชาชน ทำไมไม่ออกมายืนหยัดแก้กฎหมายทุจริต แก้เรื่องพลังงาน เพราะการเปลี่ยนขั้วอำนาจก็เป็นเพียงการสลับกันเข้ามาเอาผลประโยชน์เท่านั้น
พันธมิตรฯ เรามีกิจกรรมเดินสายให้ความรู้ประชาชน เพื่อเพิ่มแนวร่วมในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เมื่อประชาชนเข้าร่วมมากถึงจุดหนึ่งหมายความว่าประชาชนพร้อมแล้วในการปฏิรูปประเทศ ถ้าทุกฝ่ายยอมรับแล้วเดินธงนี้ การเปลี่ยนแปลงก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ถ้ายังยืนหยัดแบบเดิม ประชาธิปัตย์ไม่มีทางเอาชนะเพื่อไทยได้เลย ลำพังแนวคิดเชิงขั้วอำนาจ เพื่อไทยอ้างว่าสู้เพื่อไพร่-อำมาตย์ มันก็บ่งบอกจำนวนประชากรแล้วว่าเขายึดกุมความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ที่ยากจนมาเป็นธงในการช่วงชิงขั้วอำนาจโดยให้ละเลยมองข้ามผลประโยชน์ของประชาชนที่แท้จริงไป แต่ถ้าพันธมิตรฯยืนหยัดบนผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งผลประโยชน์ของประชาชนไม่มีสี ตรงนี้มีโอกาสชนะมากกว่า เพราะขยายจำนวนผู้สนับสนุนได้มากกว่า แม้ใช้เวลามากกว่าก็ตาม
นายปานเทพกล่าวต่อว่า บางปีกของฝ่ายการเมืองไม่อยากได้แกนนำพันธมิตรฯ แต่อยากได้มวลชนพันธมิตรฯ เพื่อไปขับไล่ฝ่ายตรงข้าม และอยากให้พันธมิตรฯ ถูกกดดันจนออกไปขับไล่ฝ่ายตรงข้าม ฉะนั้นถ้าพันธมิตรฯผลีผลามไปเข้าร่วม จะไปสร้างอำนาจต่อรองให้กับกลุ่มขับไล่รัฐบาลโดยที่ไม่มีการปฏิรูป จึงไม่แปลกที่กลุ่มการเมืองได้สร้างสถานีโทรทัศน์ของตัวเอง เพื่อสร้างมวลชน แล้วบางส่วนก็หวังเพียงว่าให้ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล โดยไม่สนใจว่าจะปฏิรูปหรือไม่ ซึ่งวันนี้มวลชนพันธมิตรฯเรียนรู้แล้ว แค่เปลี่ยนขั้วอำนาจไม่พอ ส่วนพี่น้องพันธมิตรฯ จะเข้าร่วมชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยามหรือไม่ จะไม่ก้าวล่วง เราเคารพสิทธิส่วนบุคคล และขอให้กำลังใจกับทุกกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกกลุ่มควรทำ แล้วการต่อต้านรัฐบาลแบบหลากหลายกลุ่ม ถือเป็นการเคลื่อนตัวที่มีพลัง แต่พันธมิตรฯ ต้องเคลื่อนไปไกลกว่าขั้วอำนาจ เพราะจะได้มองที่เนื้อหาในการปฏิรูป
