“ปานเทพ” ย้ำ พันธมิตรฯ ไม่ชุมนุมประเด็นปลีกย่อย เพื่อเคลื่อนไหวใหญ่จะได้มีพลังนำไปสู่การปฏิรูปเท่านั้น ชี้การอ้างชื่อในการดำเนินกิจกรรม สะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายการเมืองยังเห็นพันธมิตรฯ เป็นตัวแปรทำให้เปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจได้ หลังจากพยายามสร้างมวลชนกลุ่มอื่นขึ้นมาแทนแต่ไม่สำเร็จ
วันที่ 18 เม.ย. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
โดย นายปานเทพกล่าวว่า จากข่าวที่ ส.ส.นั่งดูภาพโป๊ขณะประชุมในสภา สะท้อนให้เห็นว่า ส.ส.บ้านเราตกต่ำจริงๆ ต้องรื้อและเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มักมีคนบอกว่าทำไมพันธมิตรฯ ไม่ดำเนินเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่ออกมาคัดค้านการกระทำต่างๆ ของรัฐบาลเสียตั้งแต่ตอนนี้ ตนก็ย้ำเสมอว่าถ้ายับยั้งได้จะพอใจหรือไม่ ถ้ายังต้องอยู่กับระบอบเผด็จการรัฐสภาที่มาจากการครอบงำของทุนสามานย์ สร้างหนี้สินให้ประเทศเท่าไหร่ก็ได้ ตนคิดว่าถ้าเป็นพันธมิตรฯ ไม่พอใจแน่นอน เพราะต่อสู้มาแล้วทุกเรื่อง
อีกทั้งการที่พันธมิตรฯ อยู่เฉยๆ ย่อมทำให้ทุกคนตระหนักว่าพันธมิตรฯ เป็นตัวแปรที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ อย่างการพาดหัวว่าพันธมิตรฯ จะเคลื่อนไหวเร็วๆ นี้ บางส่วนก็เพื่อต้องการทำลาย หรือบางส่วนก็เพื่อต้องการระดมพล แสดงว่าคนในแวดวงการเมืองยังเห็นว่าพันธมิตรฯเป็นตัวแปร แล้วสิ่งที่จะลดความสำคัญของแกนนำลงได้ก็คือสร้างมวลชนอื่น สร้างทีวีขึ้นมาแทน มีคนทำหลายกลุ่มแต่ไม่สำเร็จ ฉะนั้น วาทกรรมที่กล่าวหาพันธมิตรฯ รับเงินทักษิณก็เป็นเพียงแค่อุบายของฝ่ายที่อยากให้ออกไปเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมือง
นายปานเทพกล่าวอีกว่า เมื่อเราตั้งคำถามว่าถ้าไม่ต้องการขั้วอำนาจแบบเดิม ไม่ใช่ทักษิณ ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ทหาร สิ่งที่ต้องทำก็คือการปฏิรูปประเทศ เพราะเราไม่อยากซ้ำรอยเดิม
แต่ถ้าเคลื่อนไหวอีกที เราเห็นอำนาจรัฐ เห็นกองกำลังเสื้อแดง เห็นขบวนการกินรวบประเทศไทย เดิมพันประเทศมันสูงมาก ถ้าเคลื่อนไหวประเด็นปลีกย่อย ประเด็นรายวัน ไม่ควรเป็นการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมมา 6 ปีแล้ว ซึ่งเราไม่ขัดขวางคนที่ออกมาชุมนุม แต่ต้องขอสงวนท่าทีตรงนี้ เพื่อการเคลื่อนที่มีพลัง เพื่อเป้าหมายเดียวคือการปฏิรูป
โฆษกพันธมิตรฯ ยังกล่าวว่า ปัญหาของประเทศไม่มีทางจบสิ้นเพราะนักการเมืองคือต้นตอของปัญหา ส่วนหนึ่งก็ต้องให้ประชาชนตื่นรู้ให้มาก มักมีคนบอกว่าต้องแก้ที่ระบบและให้ประชาชนตื่นรู้ จริงๆ ถ้าประชาชนตื่นรู้พร้อมๆ กันหมด ระบบไหนนักการเมืองชั่วก็อยู่ไม่ได้ ซึ่งวาระที่ข้าวยากหมากแพงนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้ประชาชนได้ทราบว่าปัญหาเหล่านี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากนักการเมือง
ด้าน นายพิภพกล่าวว่า เราจะมีพลังมากแค่ไหนในการเปลี่ยนแปลงประเทศ ที่ผ่านมาเราสามารถยัน พ.ต.ท.ทักษิณไว้ได้ เอาออกจากตำแหน่งนายกฯ ได้ แต่ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ทักษิณคนเดียว อำนาจทักษิณที่สืบทอดมายาวนาน ทำให้นักการเมืองต่างๆ เลียนแบบหมดเลย วันนี้ถ้ามุ่งแก้ที่ทักษิณคนเดียว ประเทศไทยก็จะย่ำอยู่กับที่ เราจึงต้องจับมือตื่นรู้ สร้างปัญญาขึ้นมา และทำให้คนที่ยังหลับอยู่ค่อนประเทศได้ตื่น