“สุริยะใส” ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ยื่นร้องผู้ตรวจการฯ สอบ กสทช.ประมูล 3จีไม่โปร่งใส ขณะที่ผู้ตรวจการฯ รับลูก เป็นเรื่องด่วนนำเข้าที่ประชุม 24 ต.ค.นี้ทันที เผยหากพบการประมูลไม่ถูกต้องจะเสนอให้แก้ไข หากยังดื้อส่งฟ้องศาลปกครองให้มีคำสั่งระงับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน พร้อมด้วยนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ ได้เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดประมูลคลื่นความถี่ 3จี
นายสุริยะใสกล่าวว่า แม้ศาลปกครองจะมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องที่ตนและพวกยื่นเนื่องจากไม่ใช่ผู้เดือดร้อนเสียหายโดยตรง แต่ศาลก็เห็นว่า เหตุแห่งการฟ้องคดีมีประเด็นที่สมควรตรวจสอบการใช้ดุลพินิจและความชอบด้วยกฎหมายของประกาศ กสทช. รวมทั้งชี้ว่าผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจที่จะตรวจสอบเรื่องนี้และยื่นให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาได้ จึงได้มายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบเพราะการประมูลที่ผ่านมาชัดเจนว่าหลักเกณฑ์การประมูลที่ กสทช.กำหนดไม่ทำให้เกิดการแข่งขันกันเสนอราคาที่เป็นธรรม แต่ทำให้เกิดการสมยอมราคากันของเอกชน จนเกิดข้อสงสัยว่าพฤติกรรมของ กสทช.ในการกำหนดหลักเกณฑ์โดยการตั้งราคาขั้นต่ำไว้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นนั้นเป็นไปโดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทเอกชนมากกว่า ประชาชนที่เป็นเจ้าของทรัพยากรการสื่อสารของชาติ เข้าข่ายความผิดมาตรา 4 มาตรา 11 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) ที่ต้องระวางโทษทั้งจำและปรับ
นอกจากนี้ ภายหลังการประมูลคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้มีมติรับรองการประมูลที่ไม่มีการแข่งขันราคากันอย่างเป็นธรรมดังกล่าว ทั้งที่มีข้อท้วงติงจากนักวิชาการและประชาชนทั่วไปที่ตั้งข้อสงสัยถึงการไม่มีการแข่งขันราคา พฤติการณ์ดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติ รู้หรือมีพฤติการณ์ว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำความผิด แล้วละเว้นไม่ดำเนินการยกเลิกตาม มาตรา 10 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ซึ่งหากปล่อยให้มีการออกใบอนุญาตให้กับผู้ที่ได้รับการประมูล จะทำให้ประเทศชาติประชาชนเกิดความเสียหาย
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างที่ กทค.กำลังทำการตรวจสอบกระบวนการประมูล การออกใบอนุญาต หลังจากเอกชนชำระเงินส่วนหนึ่งแล้วซึ่งจะใช้เวลา 22 วันก็อยากให้ผู้ตรวจการได้พิจารณาโดยคำนึงถึงกรอบเวลาดังกล่าวด้วยเพื่อให้การยุติความเสียหายทำได้ทันเวลา
ด้านนายเฉลิมศักดิ์กล่าวว่า กรณีนี้ทางสำนักงานผู้ตรวจการฯ ก็ได้ติดตามมาตลอด และเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องพิจารณา ซึ่งคาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินในการประชุมประจำสัปดาห์วันที่ 24 ต.ค.นี้ได้ หากเห็นว่าอยู่ในอำนาจก็จะให้ กสทช.ทำการชี้แจง และถ้าผู้ตรวจเห็นว่าการดำเนินการของ กสทช.ไม่ถูกต้องก็จะเสนอแนะให้แก้ไข ว่าอาจจะต้องชะลอไปก่อนจนกว่าผู้ตรวจการฯจะพิจารณาแล้วเสร็จ หาก กสทช.ไม่ดำเนินการตาม ทางผู้ตรวจการฯ ถึงจะมาใช้ช่องทางยื่นส่งศาลปกครองให้มีคำสั่งต่อไป