อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยลงนามคำสั่งตั้งรางวัลนำจับผู้ให้เบาะแส 7 คดีเผาเมือง คดีละล้าน รวมกรณี “ร่มเกล้า-เสธ.แดง-ช่างภาพยุ่น-สื่อเลี่ยน-หน้าตึกอื้อจือเหลียง-สีลม-อนุสรณ์สถาน” หวังจูงใจผู้รู้แจ้งข้อมูลโดยไม่ต้องเป็นพยาน แย้มเพิ่มคดีอื่นด้วย
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ จากเหตุรุนแรงทางการเมืองปี 2553 ว่า ล่าสุด ตนได้ลงนามคำสั่งให้ดำเนินการตั้งรางวัลนำจับผู้ที่ให้เบาะแสนำไปสู่การจับคนร้ายที่เป็นผู้ก่อเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้นตั้งรางวัลนำจับไว้รายละ 1 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 7 ราย ประกอบด้วย 1.กรณีการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และเจ้าหน้าที่ทหารรวม 5 ราย เสียชีวิตจากการถูกสะเก็ดระเบิดที่ถนนดินสอ 2.กรณีการเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ถูกอาวุธปืนยิงเสียชิวิตบริเวณทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสีลม 3.กรณีการเสียชีวิตของ นายฮิโรยูกิ มูราโมโต ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณถนนข้าวสาร ตัดถนนตะนาว ต่อเนื่องถึงแยกคอกวัว 4.กรณีการเสียชีวิตของ นายฟลาบิโอ โปแลงกี ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตบริเวณถนนราชดำริ 5.กรณีคนร้ายยิงเอ็ม 79 จนทำให้ จ.ส.ต.วิทยา พรหมสำลี เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บรวม 6 ราย บริเวณอาคารอื้อจื่อเหลียง 6.กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง ส.ต.ต.กานต์ณุพัฒน์ เลิศจันทร์เพ็ญ จนเสียชีวิตบริเวณถนนสีลม 7.กรณีการเสียชีวิตของพลทหาร ณรงค์ สาระ ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตบริเวณแยกอนุสรณ์สถาน เขตดอนเมือง
นายธาริต กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่า มีผู้เห็นเหตุการณ์และทราบเบาะแส แต่ไม่ต้องการเปิดเผยตัว เนื่องจากเกรงว่าจะต้องมาเป็นพยาน ดังนั้น ดีเอสไอจึงเห็นควรตั้งรางวัลนำจับเพื่อจูงใจให้ผู้ที่รู้เบาะแสเข้ามาให้ข้อมูลจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ โดยไม่จำเป็นต้องมาเป็นพยานในคดี อย่างไรก็ตาม อาจมีการพิจารณาตั้งรางวัลนำจับคนร้ายในคดีการเสียชีวิตรายอื่นๆ เพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ (17 ต.ค.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนถึงการปฏิบัติหน้าที่ขณะรักษาการในตำแหน่ง และการทำหน้าที่ในโครงสร้าง ศอฉ.รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับชายชุดดำและการสลายการขุมนุม ในส่วนของ นายสมชาย หอมลออ ซึ่งพนักงานสอบสวนเรียกเข้าให้การในวันเดียวกันนี้ ได้ทำหนังสือแจ้งขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำ