นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องชายชุดดำว่า มีข้อมูลใหม่ ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะทำงานพิจารณา เรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริง การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่ามีชายชุดดำในการชุมนุมหรือไม่ โดยมี นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ซึ่งคณะทำงานชุดดังกล่าวอยู่ในคณะกรรมาธิการการตำรวจ ซึ่งได้เชิญ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ , นายสมชาย หอมลออ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าชี้แจง
ในระหว่างการชี้แจง นายสมชาย ระบุว่า คอป. เชื่อว่ามีชายชุดดำ เพราะพบกระสุนปืน 7.62 ที่ใช้กับปืนอาก้า ซึ่งทหารไม่ได้ใช้ในคืนวันที่ 10 เม.ย. 53 และกระสุนดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้กับปืนเอชเคหรือเอ็ม 16 ซึ่งตนได้สอบถามนายธาริต ว่ามีใครเสียชีวิตจากกระสุนปืนนี้บ้าง ก็ได้รับคำตอบว่า นายฮิโรยูกิ มูรามาโต้ ช่างภาพญี่ปุ่น ที่เสียชีวิตบริเวณถนนดินสอ เป็นข้อเท็จจริงจากดีเอสไอ ว่า ช่างภาพคนดังกล่าวไม่ได้เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ แต่เสียชีวิตจากกองกำลังที่แฝงในผู้ชุมนุมโดยการอำนวยความสะดวกของการ์ด นปช. จึงต้องถามว่า ขณะนี้ดีเอสไอ ทำคดีช่างภาพญี่ปุ่นไว้รวมในกลุ่มที่ต้องชันสูตรพลิกศพตามประมวลวิอาญา 150 ทั้งที่กระสุนปืนไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่รัฐ เหตุใดจึงรวมคดีนี้ไว้ในกลุ่มที่อาจเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วอีก 30 ศพที่เหลือเราจะเชื่อถือได้อย่างไรว่าหลักฐานจะบ่งชี้ได้จริงว่าเป็นการกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ จึงขอให้ดีเอสไอเปิดเผยข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ามีการทำคดีอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ ไม่เช่นนั้นดีเอสไอก็จะถูกตั้งคำถามในทุกกรณี
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า ก่อนที่ดีเอสไอจะพยายามตั้งข้อหากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาขีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วยการนำผลจากการไต่สวนของศาล ในคดีนายพัน คำกอง มาขยายผลนั้น ขอถามว่า การเสียชีวิตของช่างภาพญี่ปุ่น และทหาร 5 ราย รวม พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และการยิงเอ็ม 79 ที่ศาลาแดง ที่ทำให้ นางสาวธัญนันท์ แถบทอง เสียชีวิต รวมถึงกรณีสิบโท กานต์พัฒน์ เลิศจัญเพ็ญ ถูกยิ่งที่จุดตรวจเจ้าหน้าที่หน้าธนาคารกรุงเทยถนนสีลมจนเสียชีิวิต และกรณีอื่น ๆ รวม 12 กรณี ที่ดีเอสไอเคยสรุปว่าเป็นการกระทำของ นปช. ขณะนี้ได้ทำคดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งตนเห็นว่าคดีเหล่านี้ดีเอสไอต้องตามไปเอาผิดผู้สั่งการ ต้งแต่แกนนำนปช.ไปจนถึงผู้บงการ เพราะมีหลักฐานชัดว่าการ์ด นปช.สนับสนุนกองกำลังติดอาวุธจนทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น โดยทั้งแกนนำและคนบงการปลุกระดมให้คนลุกฮือขึ้นต่อสู้ก็ต้องถามดีเอสไอว่าควรตั้งข้อหาบงการฆ่า เพราะเจตนาให้มีผู้เสียชีวิตเช่นเดียวกันด้วยใช่หรือไม่ เพราะดีเอสไอมีข้อมูลเชื่อมโยงเรื่องเสธแดงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่แล้ว จึงอยากให้ดีเอาไอเอาเวลาไปหาผู้บงการที่แท้จริงมาลงโทษจะดีกว่า
**"เหวง"เรียกร้องตร.แก้ต่างแทนดีเอสไอ
ในวันเดียวกันนี้ นพ.เหวง โตจิราการ น.ส.จารุวรรณ กุลดิลก และ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้แถลงตอบโต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษที่ระบุว่า นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เสียชีวิตบริเวณถนนตะนาว ด้วยอาวุธปืนอาก้า โดย นพ.เหวง กล่าวว่า ในความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่านายฮิโรยูกิ ไม่น่าเสียชีวิตด้วยมืออาก้า เนื่องจากในชั้นต้น ทางนปช.ได้เชิญให้สมาคมหมอนิติเวชชันสูตรศพผู้เสียชีวิต และผลการพิสูจน์ มีดังนี้ ลูกกระสุนยิงเข้าหน้าอกด้านซ้าย ซึ่งบาดแผลมีขนาดรู 0.5 ซม. และทะลุออกบริเวณใต้ท้องแขนขวา ซึ่งมีรอยกระสุนขนาด1.5 x 3 ซม. ซึ่งจากผลการชันสูตรถามว่า อาวุธปืนอาก้า ทำลายได้ขนาดนี้หรือไม่ ทั้งนี้ ได้มีการสรุปว่าช่างภาพญี่ปุ่นเสียชีวิตจากอาวุธปืนเอ็ม 16 อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ช่างภาพญี่ปุ่น ถูกยิง มีแต่เพียงเจ้าหน้าที่ทหารอยู่เท่านั้น
นพ.เหวง กล่าวว่า เชื่อว่าการที่ดีเอสไอ ออกมาระบุว่า การเสียชีวิตของช่างภาพชาวญี่ปุ่น เกิดจากปืนอาก้า มาจากความคิดของนายตำรวจยศ พล.ต.ท.ท่านหนึ่ง ที่ปรากฏคำให้การในรายงานของคอป. ซึ่งตนก็ต้องการเรียกร้องให้นายตำรวจคนดังกล่าว ออกมายืนยันอีกครั้งว่า ฮิโรยูกิ ตายด้วยปืนอาก้าจริง
ส่วนเรื่องชายชุดดำ ยืนยันว่า ไม่มีอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง มีเพียงแต่การ์ดนปช. ที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบสีดำ เพื่อต้องการสร้างความแตกต่างจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใส่เสื้อสีแดง
**วัดใจ"อดุลย์"มืออาชีพหรือสวะการเมือง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกิจกรรม แรลลี่ชายชุดดำ และเวทีผ่าความจริงที่สวนลุมพินี ว่า พรรคต้องการสะท้อนข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะมีความชัดเจนมากขึ้นที่ขัดแย้งกับการสร้างกระแสมาก่อนหน้านี้ โดยเจตนาต้องการให้ความจริงปรากฏ ซึ่งจะเป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้สูญเสียได้ดีที่สุด และการจัดนิทรรศการชายชุดดำ ในวันเสาร์ที่ 13 ต.ค. ก็จะทำให้เห็นว่า ใครคือชายชุดดำตัวจริง ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อย เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
อย่างไรก็ตาม การจัดเวทีผ่าความจริงในช่วงหลังก็ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งตนทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายส่วนให้ความร่วมมือดี ในการดูแลความเรียบร้อย ในขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ก็ทำงานเรียบร้อยดี จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปพบเพื่อหารือในเรื่องนี้
"แต่ก็อยากให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ได้แสดงความเห็นที่ชัดเจน เพื่อยืนยันด้วยว่าจะเชื่อตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้นโยบายตำรวจว่า ให้เลือกข้างอยู่พรรคเพื่อไทย หรือไม่ ซึ่งผมก็หวังในข้าราชการทุกคน ให้ทำหน้าที่ตามวิชาชีพอย่างเป็นกลาง ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น เพราะถ้าทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง สุดท้ายไม่ว่าจะทำตามคำสั่งหรือความต้องการของใคร ก็ไม่มีใครคุ้มครองได้ ซึ่งต้องรับผิดชอบการ กระทำของตัวเองด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ในระหว่างการชี้แจง นายสมชาย ระบุว่า คอป. เชื่อว่ามีชายชุดดำ เพราะพบกระสุนปืน 7.62 ที่ใช้กับปืนอาก้า ซึ่งทหารไม่ได้ใช้ในคืนวันที่ 10 เม.ย. 53 และกระสุนดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้กับปืนเอชเคหรือเอ็ม 16 ซึ่งตนได้สอบถามนายธาริต ว่ามีใครเสียชีวิตจากกระสุนปืนนี้บ้าง ก็ได้รับคำตอบว่า นายฮิโรยูกิ มูรามาโต้ ช่างภาพญี่ปุ่น ที่เสียชีวิตบริเวณถนนดินสอ เป็นข้อเท็จจริงจากดีเอสไอ ว่า ช่างภาพคนดังกล่าวไม่ได้เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ แต่เสียชีวิตจากกองกำลังที่แฝงในผู้ชุมนุมโดยการอำนวยความสะดวกของการ์ด นปช. จึงต้องถามว่า ขณะนี้ดีเอสไอ ทำคดีช่างภาพญี่ปุ่นไว้รวมในกลุ่มที่ต้องชันสูตรพลิกศพตามประมวลวิอาญา 150 ทั้งที่กระสุนปืนไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่รัฐ เหตุใดจึงรวมคดีนี้ไว้ในกลุ่มที่อาจเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วอีก 30 ศพที่เหลือเราจะเชื่อถือได้อย่างไรว่าหลักฐานจะบ่งชี้ได้จริงว่าเป็นการกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ จึงขอให้ดีเอสไอเปิดเผยข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ามีการทำคดีอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ ไม่เช่นนั้นดีเอสไอก็จะถูกตั้งคำถามในทุกกรณี
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า ก่อนที่ดีเอสไอจะพยายามตั้งข้อหากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาขีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วยการนำผลจากการไต่สวนของศาล ในคดีนายพัน คำกอง มาขยายผลนั้น ขอถามว่า การเสียชีวิตของช่างภาพญี่ปุ่น และทหาร 5 ราย รวม พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และการยิงเอ็ม 79 ที่ศาลาแดง ที่ทำให้ นางสาวธัญนันท์ แถบทอง เสียชีวิต รวมถึงกรณีสิบโท กานต์พัฒน์ เลิศจัญเพ็ญ ถูกยิ่งที่จุดตรวจเจ้าหน้าที่หน้าธนาคารกรุงเทยถนนสีลมจนเสียชีิวิต และกรณีอื่น ๆ รวม 12 กรณี ที่ดีเอสไอเคยสรุปว่าเป็นการกระทำของ นปช. ขณะนี้ได้ทำคดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งตนเห็นว่าคดีเหล่านี้ดีเอสไอต้องตามไปเอาผิดผู้สั่งการ ต้งแต่แกนนำนปช.ไปจนถึงผู้บงการ เพราะมีหลักฐานชัดว่าการ์ด นปช.สนับสนุนกองกำลังติดอาวุธจนทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น โดยทั้งแกนนำและคนบงการปลุกระดมให้คนลุกฮือขึ้นต่อสู้ก็ต้องถามดีเอสไอว่าควรตั้งข้อหาบงการฆ่า เพราะเจตนาให้มีผู้เสียชีวิตเช่นเดียวกันด้วยใช่หรือไม่ เพราะดีเอสไอมีข้อมูลเชื่อมโยงเรื่องเสธแดงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่แล้ว จึงอยากให้ดีเอาไอเอาเวลาไปหาผู้บงการที่แท้จริงมาลงโทษจะดีกว่า
**"เหวง"เรียกร้องตร.แก้ต่างแทนดีเอสไอ
ในวันเดียวกันนี้ นพ.เหวง โตจิราการ น.ส.จารุวรรณ กุลดิลก และ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้แถลงตอบโต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษที่ระบุว่า นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เสียชีวิตบริเวณถนนตะนาว ด้วยอาวุธปืนอาก้า โดย นพ.เหวง กล่าวว่า ในความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่านายฮิโรยูกิ ไม่น่าเสียชีวิตด้วยมืออาก้า เนื่องจากในชั้นต้น ทางนปช.ได้เชิญให้สมาคมหมอนิติเวชชันสูตรศพผู้เสียชีวิต และผลการพิสูจน์ มีดังนี้ ลูกกระสุนยิงเข้าหน้าอกด้านซ้าย ซึ่งบาดแผลมีขนาดรู 0.5 ซม. และทะลุออกบริเวณใต้ท้องแขนขวา ซึ่งมีรอยกระสุนขนาด1.5 x 3 ซม. ซึ่งจากผลการชันสูตรถามว่า อาวุธปืนอาก้า ทำลายได้ขนาดนี้หรือไม่ ทั้งนี้ ได้มีการสรุปว่าช่างภาพญี่ปุ่นเสียชีวิตจากอาวุธปืนเอ็ม 16 อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ช่างภาพญี่ปุ่น ถูกยิง มีแต่เพียงเจ้าหน้าที่ทหารอยู่เท่านั้น
นพ.เหวง กล่าวว่า เชื่อว่าการที่ดีเอสไอ ออกมาระบุว่า การเสียชีวิตของช่างภาพชาวญี่ปุ่น เกิดจากปืนอาก้า มาจากความคิดของนายตำรวจยศ พล.ต.ท.ท่านหนึ่ง ที่ปรากฏคำให้การในรายงานของคอป. ซึ่งตนก็ต้องการเรียกร้องให้นายตำรวจคนดังกล่าว ออกมายืนยันอีกครั้งว่า ฮิโรยูกิ ตายด้วยปืนอาก้าจริง
ส่วนเรื่องชายชุดดำ ยืนยันว่า ไม่มีอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง มีเพียงแต่การ์ดนปช. ที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบสีดำ เพื่อต้องการสร้างความแตกต่างจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใส่เสื้อสีแดง
**วัดใจ"อดุลย์"มืออาชีพหรือสวะการเมือง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกิจกรรม แรลลี่ชายชุดดำ และเวทีผ่าความจริงที่สวนลุมพินี ว่า พรรคต้องการสะท้อนข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะมีความชัดเจนมากขึ้นที่ขัดแย้งกับการสร้างกระแสมาก่อนหน้านี้ โดยเจตนาต้องการให้ความจริงปรากฏ ซึ่งจะเป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้สูญเสียได้ดีที่สุด และการจัดนิทรรศการชายชุดดำ ในวันเสาร์ที่ 13 ต.ค. ก็จะทำให้เห็นว่า ใครคือชายชุดดำตัวจริง ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อย เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
อย่างไรก็ตาม การจัดเวทีผ่าความจริงในช่วงหลังก็ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งตนทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายส่วนให้ความร่วมมือดี ในการดูแลความเรียบร้อย ในขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ก็ทำงานเรียบร้อยดี จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปพบเพื่อหารือในเรื่องนี้
"แต่ก็อยากให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ได้แสดงความเห็นที่ชัดเจน เพื่อยืนยันด้วยว่าจะเชื่อตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้นโยบายตำรวจว่า ให้เลือกข้างอยู่พรรคเพื่อไทย หรือไม่ ซึ่งผมก็หวังในข้าราชการทุกคน ให้ทำหน้าที่ตามวิชาชีพอย่างเป็นกลาง ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น เพราะถ้าทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง สุดท้ายไม่ว่าจะทำตามคำสั่งหรือความต้องการของใคร ก็ไม่มีใครคุ้มครองได้ ซึ่งต้องรับผิดชอบการ กระทำของตัวเองด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว