“ปลอด” เผย “ปู” สั่งดูแลอีสานป้องกันวิกฤตภัยแล้ง แจง กบอ.ปล่อยฝนเทียม-น้ำเข้าทุ่ง พร้อมปรับระบบน้ำบาดาล และสร้างระบบสูบน้ำและส่งน้ำทางท่อต่อพื้นที่ 2,000-3,000 ไร่เพื่อเกษตกร ตั้งธงนาปรังต้องปลอดภัย ปัดปล่อยน้ำกระทบ ปชช.ริมแม่น้ำ อ้างเหตุน้ำทะเลขึ้นสูง คาด 1-2 เดือนรับผลหย่อมความกดอากาศต่ำ รองเจ้ากรมอุทกศาสตร์ฯ ชี้ 17-21 ต.ค.มีน้ำทะเลหนุน
แสดง FLASH VIDEO (ขนาดใหญ่จอ 550 pixel)
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) แถลงถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณน้ำน้อยกว่าปกติ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสั่งการให้บริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด อย่าให้เกิดความขาดแคลนน้ำ โดยประชาชนต้องมีน้ำดื่มน้ำใช้และ กบอ.จะต้องเปลี่ยนภารกิจมาจัดการด้านภัยแล้ง
นายปลอดประสพกล่าวว่า ที่ประชุม กบอ.ได้กำหนดกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งโดยการทำฝนเทียมในพื้นที่แห้งแล้ง ที่จะต้องดำเนินการต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน หรือจนกระทั่งความชื้นในอากาศยังมีความเหมาะสมอยู่ และจะปล่อยน้ำเข้าทุ่งเพื่อให้เกษตรกรทำนาปรังได้ โดยทั้ง 2 กลยุทธ์นี้ได้ดำเนินการไปแล้ว ขณะที่จะใช้ระบบน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยจะซ่อมระบบเก่าและเสริมใหม่และให้การประปาส่งน้ำให้ไกลที่สุด และจะมีการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ จากแม่น้ำน่านไปแม่น้ำยม และผันจากแม่น้ำท่าจีนไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้จะเติมน้ำในอ่างขนาดเล็กและในบ่อไร่นา สร้างระบบสูบน้ำและส่งน้ำทางท่อต่อพื้นที่ 2,000-3,000 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจพื้นที่ อีกทั้งจะมีการส่งน้ำโดยระบบดอยส่งที่จะส่งน้ำขึ้นที่สูง โดยใช้เครื่องสูบเดิมแต่จะเก็บน้ำไว้บนแท็งก่อนแล้วจึงปล่อยลงมา ทั้งนี้ กลยุทธ์ดังกล่าวได้ตั้งเป้าหมายทางการเกษตร โดยให้พื้นที่ชลประทานต้องได้ผลไม่น้อยกว่า 80% และนาปรังในรอบแรกจะต้องปลอดภัย นอกจากนี้พื้นที่เกษตรน้ำฝนบางส่วนจะต้องเพาะปลูกพืชไร่ได้
อย่างไรก็ตาม ประธาน กบอ.กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นสูงทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำได้รับผลกระทบ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากการปล่อยน้ำแต่อย่างใด โดยได้หรี่บานประตูลงเกือบทั้งหมดและปล่อยน้ำเข้าทุ่งเท่านั้น ทั้งนี้อีก 1-2 เดือนประเทศไทยจะได้รับผลจากหย่อมความกดอากาศต่ำขนาดใหญ่อีก 2 ครั้ง แต่จะเป็นผลกระทบในทางที่ดี เพราะจะทำให้สามารถทำฝนเทียมได้นานขึ้น
ด้าน พล.ร.ต.วิฑูรย์ ตัณฑิกุล รองเจ้ากรมอุทกศาสตร์ไทย กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำทะเลหนุนสูงกว่าปกติ 20% ซึ่งอิทธิพลน้ำจากเขื่อน โดยวันที่ 17-21 ต.ค.นี้จะมีน้ำทะเลหนุน 1.16-1.22 ม. แต่เมื่อปริมาณน้ำเหนือรวมจะอยู่ที่ 1.77-1.81 ม.และหากมีปริมาณฝนตกเพิ่มก็อาจทำให้ปริมาณน้ำสูงขึ้น 10 ซม. แต่จากสภาพอากาศฝนจะตกน้อยลงเรื่อยๆ
