“แกมี” หมดฤทธิ์ โคราชฝนตกน้อย–ห่วงไม่มีพายุเข้าอีกปีนี้แล้งหนัก

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “แกมี” หมดฤทธิ์ โคราชฝนตกน้อย ทำน้ำในเขื่อนเพิ่มเล็กน้อยเท่านั้น ด้านจังหวัดฯ ห่วงหากไม่มีพายุเข้ามาอีกปีนี้โคราชแล้งหนัก เหตุเขื่อนทั้งขนาดกลาง 22 แห่งและขนาดใหญ่ 5 โครงการมีน้ำรวมไม่ถึง 50% ของความจุ ด้าน “เขื่อนลำพระเพลิง” งดการระบายน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นพร่องน้ำไปเก็บในอ่างขนาดกลางแทน

วันนี้ (8 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอิทธิพลของพายุ “แกมี” ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดนครราชสีมามีฝนตกโปรยปรายลงมาตลอดทั้งวัน และท้องฟ้ามืดครึ้มทั้ง 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา ทำประชาชนที่สัญจรไปมาต้องพกร่มกันฝนติดตัวไปด้วย แต่ไม่มีรายงานเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากตามที่มีการคาดการณ์แต่อย่างใด

ขณะที่เมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อรายงานสถานการณ์การเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อน “แกมี” พร้อมร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่ จ.นครราชสีมาจากผลกระทบของพายุโซนร้อน “แกมี” ซึ่งขณะนี้กลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำนั้น ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมามีฝนตกเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยในพื้นที่ อ.ครบุรี อ.เสิงสาง อ.โชคชัย และ อ.ปักธงชัย แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนแต่อย่างใด และเป็นผลดีต่อพืชผลทางการเกษตร เช่น นาข้าวของเกษตรกรเนื่องจากที่ผ่านมาต้นข้าวขาดน้ำ แต่ปริมาณฝนที่ตกลงมาถือว่าน้อย และการตกของฝนเป็นลักษณะตกๆ หยุดๆ เป็นช่วง ๆ

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่เป็นการประมาท ทางจังหวัดนครราชสีมาได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าระดับจังหวัด/อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาเพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา และจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. ประสานเครือข่าย และแจ้งเตือนภัยประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามลุ่มน้ำ และประชาชนทั่วไปให้ระวังน้ำระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก

พร้อมสั่งการให้อำเภอ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม. ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก

นายสกลสฤษฎ์กล่าวอีกว่า สำหรับวันนี้พายุแกมีส่งผลให้มีฝนตกเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นครราชสีมาประมาณ 20% เท่านั้น ไม่ตกหนักมาก ส่งผลให้น้ำในเขื่อนของจ.นครราชสีมา ทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 22 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 โครงการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย มีปริมาณเฉลี่ยรวมไม่ถึง 50% ของความจุ

โดยเฉพาะเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว แหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาสำคัญของเมืองโคราชและหลายอำเภอใกล้เคียงมีน้ำในอ่างเพียง 47% ของความจุที่ระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น, เขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี มีน้ำในอ่าง 43% ของความจุ 141 ล้าน ลบ.ม., เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีน้ำเหลือ 60% ของความจุ 275 ล้าน ลบ.ม.

ส่วนเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีน้ำค่อนข้างมากประมาณ 90% ของความจุ 109 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งหลังจากก่อนหน้านี้ได้ทำการระบายน้ำวันละ 2.7 ล้าน ลบ.ม.เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำฝนจากอิทธิพลพายุแกมีนั้น ล่าสุดทางเขื่อนได้หยุดการระบายน้ำแล้ว แต่ได้พร่องน้ำไปเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ซึ่งอยู่ด้านล่างเขื่อนวันละ 1 ล้าน ลบ.ม.แทน

“จากสถานการณ์ดังกล่าว น่าเป็นห่วงว่าปีนี้ จ.นครราชสีมาอาจจะต้องประสบกับภาวะภัยแล้งอย่างหนักเนื่องจากน้ำในเขื่อนเหลืออยู่น้อยมาก หากไม่มีพายุเข้ามาอีกก็ถือว่าน่าเป็นห่วง แต่หากโชคดีมีพายุเข้ามาจะทำให้ระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น มีน้ำใช้หน้าแล้งได้อีก และขณะนี้บางพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมาได้ร้องขอให้มีการทำฝนเทียมแล้ว ซึ่งจะดูอิทธิพลของแกมีก่อนจะประสานฝนหลวงเข้าทำฝนเทียมเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรของราษฎรต่อไป” นายสกลสฤษฎ์กล่าว