ประธาน กบอ.แถลง โอ่ฝนน้อยกว่าปีที่แล้ว 20% แถมน้ำน้อยกว่า 18 เท่า โวจัดการได้ 100% เว้นแต่พายุจะเข้า เชื่อ กทม.ไม่ท่วมแน่ แต่พื้นที่ต่ำน้ำอาจขัง 1-2 ชั่วโมง อ้างริมตลิ่งก็ต้องโดนบ้างเป็นธรรม ระบุสุโขทัยทรงตัวเริ่มลดแล้ว น้ำทะเลก็ไม่หนุนสบายใจได้ ยันพร้อมรับมือน้ำท่วมใต้แล้ว
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารน้ำ และอุทกภัย (กบอ.) แถลงสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปีที่แล้ว 20 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ภาคเหนือยังคงมีน้ำที่ขังอยู่ในทุ่งรวมถึงน้ำที่อยู่ในลำน้ำทั้งหมด 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยในปีที่แล้วปริมาณน้ำอยู่ที่ 8,000 ล้าน ลบ.ม. ส่วนในทุ่งภาคกลางมีปริมาณ 400 ล้าน ลบ.ม. ต่ำกว่าปีที่แล้ว 30 เท่าซึ่งมีมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 12,000 ล้าน ลบ.ม. และในปี 2554 มีน้ำที่ไหลเข้ามาในภาคกลาง และออกสู่ทะเลอยู่ที่ 24,000 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ปีนี้มีปริมาณเพียง 1,400 ล้าน ลบ.ม. น้อยกว่าปีที่แล้ว 18 เท่า
“ในส่วนพื้นที่น้ำนองหรือน้ำหลากในภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน ขณะนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 8.5 แสนไร่ ต่างจากปีที่แล้วมีพื้นที่ทั้งหมด 3.5 ล้านไร่ เท่ากับว่าต่างกับปีที่แล้ว 3 เท่า และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในขณะนี้ มีน้ำหลากในพื้นที่จำนวน 15,000 ไร่ ต่างจากปีที่แล้ว 3 แสนไร่ คิดเป็น 20 เท่า และจังหวัดสุโขทัย มีเพียง 1.6 แสนไร่” นายปลอดประสพกล่าว
ในส่วนของการคาดการณ์น้ำท่วมในปีนี้นั้น นายปลอดประสพกล่าวว่า ปัจจุบันเราสามารถบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นว่ามีพายุเข้ามา ที่ได้มีการประมาณการว่าพายุ 1 ลูกจะนำน้ำเข้ามาในปริมาณ 1- 2 พันล้าน ลบ.ม. เท่ากับว่าต้องมีพายุทั้งหมด 10-12 ลูก ถึงจะมีปริมาณน้ำเท่ากับปีที่แล้วที่ 24,000 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเป็นไปไม่ได้ สำหรับแผนของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ถ้าฝนตกจำนวน 60 มิลลิเมตร (มม.) ก็จะระบายน้ำได้ใน 1 ชั่วโมง แต่ในทางปฏิบัติ ตนมองว่าจะได้เพียง 40 มม. ดังนั้น กทม.ก็จะยังไม่ท่วม เนื่องจากความสามารถในการระบายน้ำลงลำน้ำจากท่อระบายน้ำของ กทม.ที่มีจำนวนมาก และไม่เป็นระบบ อาจทำให้พื้นที่ กทม.เช่น ถนน หรือพื้นที่ต่ำท่วมได้ในระยะเวลา 1-2 ชั่วโมงแล้วก็จะแห้งลง ดังนั้นน้ำท่วมปีนี้จึงไม่น่าห่วง แต่สำหรับพื้นที่ริมตลิ่งก็จะต้องท่วมบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะไม่ท่วมขังกินระยะเวลานานมาก
ประธาน กบอ.กล่าวต่อว่า ในลำน้ำทั้งหมดมีปริมาณน้ำเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น โดยจังหวัดสุโขทัยอยู่ในระดับทรงตัว และเริ่มลดลงแล้ว ส่วนที่จังหวัดพิษณุโลกก็ไม่ได้มีน้ำเพิ่มขึ้น จังหวัดนครสวรรค์น้ำลดลงแล้ว น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา และที่ อ.บางไทร ก็ลดลงแล้วประกอบกับน้ำทะเลยังไม่ได้สูงขึ้น ดังนั้นจึงสบายใจได้ และรัฐบาลจะรายงานสถานการณ์ให้ทราบวันละ 1-2 ครั้ง ส่วนตนนั้น ก็จะได้รับรายงานทุก 3 ชั่วโมง
“น้ำที่มีอยู่ในขณะนี้ คือน้ำที่เกิดจากร่องความกดอากาศต่ำ หรือร่องมรสุม ซึ่งตอนนี้มรสุมดังกล่าวอยู่เหนือกรุงเทพมหานคร ถ้าเกิดลมเหนือแรง ร่องดังกล่าวก็จะลงไปภาคใต้ ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกที่ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ แต่ถ้าเกิดอ่อนตัวลง ร่องดังกล่าวก็จะกลับขึ้นไปข้างบน ทั้งนี้ทีมของ กบอ.ก็ได้ลงพื้นที่ในภาคใต้แล้ว เพื่อตรวจสอบพื้นที่ พร้อมทั้งวางแผนเตรียมพร้อมรับมือ คาดว่าจะรายงานผลกลับมาวันนี้ว่าจะมีแผนรับมือย่างไรบ้าง และในส่วนของฝ่ายทหารเองก็มีการเตรียมพร้อมรับมือตลอด 24 ชั่วโมง” ประธาน กบอ.กล่าว
ด้าน นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการสำนักงานนโยบาย และบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) แถลงข่าวสถานการณ์น้ำว่า สถานการณ์น้ำใน จ.สุโขทัย ขณะนี้น้ำในแม่น้ำต่ำกว่าตลิ่ง 20 ซม. ลุ่มน้ำยมขณะนี้มีน้ำ 549 ล้าน ลบ.ซม. และคาดว่าจะลดลงเหลือ 529 ล้าน ลบ.ซม. สำหรับน้ำที่ล้นตลิ่งมีที่เดียวคือ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก น้ำสูงกว่าตลิ่ง 70 ซม. คาดว่าหากไม่มีพายุเข้าสถานการณ์น่าจะปลอดภัย โดยจะมาสามารถทราบว่าสถานการณ์น้ำจะปลอดภัยได้ในกลางเดือน ต.ค.นี้ และยืนยันว่าสถานการณ์น้ำจะไม่หนักแบบปีที่แล้ว และจุดตรวจวัดระดับน้ำที่จุดซี 2 จ.นครสวรรค์ ที่จะดูได้ว่าน้ำจะท่วม กทม.หรือไม่ ขณะนี้อยู่ที่ 1,762 ล้าน ลบ.ซม. โดยจุดซี 2 สามารถรับน้ำได้ 3,510 ล้าน ลบ.ซม. ซึ่งปีที่แล้วมีมวลน้ำที่ 4,600 ล้าน ลบ.ซม. ฉะนั้นปีนี้จะไม่เกิดน้ำท่วม กทม.แบบปีที่แล้วแน่นอน
