ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ปภ.เชียงใหม่เชื่อปีนี้น้ำไม่ท่วมเหมือนปีก่อน เหตุระบบเตือนภัยทำงานครอบคลุม-ขุดลอกแม่น้ำล่วงหน้า แถมเข้าปลายหน้าฝนน้ำในเขื่อนยังไม่เต็ม ระบุจับตาช่วงปลายเดือนเหตุพายุเข้าอีก 2 ลูก แต่มองแง่ดีช่วยเติมน้ำเข้าเขื่อนไว้ใช้หน้าแล้ง ล่าสุดแจ้งเตือนพื้นที่เชียงดาวแล้วหลังปริมาณฝนสะสมสูง ส่วนที่ไชยปราการเร่งระดมเครื่องจักรซ่อมทาง-ส่งถุงยังชีพเพิ่ม
วันนี้ (11 ก.ย.) นายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงใหม่ว่า ในช่วงเช้ามืดวันนี้ได้รับรายงานผ่าน SMS จากระบบเตือนภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากว่า ที่บ้านปางมะโอ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว มีปริมาณฝนสะสมสูงถึงระดับ 100 มม. จากฝนที่ตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงได้ประสานไปยังนายอำเภอและ อบต.เพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าเพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไปว่าจะต้องมีการพิจารณาอพยพประชาชนออกจากพื้นที่หรือไม่ ซึ่งอำนาจในการตัดสินใจขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายอำเภอ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ในกรณีถนนในหมู่บ้านเวียงผาพัฒนา ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการชำรุดเสียหายจากอุทกภัยจนทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถสัญจรไปมาได้นั้น ในเบื้องต้นสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำถุงยังชีพมอบแก่ผู้ประสบภัยจำนวน 60 ครัวเรือนไปแล้วเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา และในขณะนี้ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากในพื้นที่อีก 150 ครัวเรือน ซึ่งในวันนี้ได้จัดถุงยังชีพส่งมอบไปในพื้นที่แล้ว
นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยัง อบจ.เชียงใหม่ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 และหมวดการทางเชียงดาว เพื่อนำเครื่องจักรเข้าไปให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแล้ว โดยในเบื้องต้นพื้นที่บางส่วนสามารถใช้งานได้แล้ว คาดว่าต่อจากนี้อีก 1-2 วันจะสามารถซ่อมแซมเส้นทางและใช้งานได้ตามปกติ
นายคมสันกล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาถือได้ว่าระบบเตือนภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากที่ติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงทั้ง 243 หมู่บ้านครอบคลุมและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อประกอบกับการเตรียมการขุดลอกแม่น้ำปิงและแม่น้ำกวงรวมถึงลำน้ำสาขา ปริมาณน้ำในเขื่อนแม่กวงอุดมธารา และเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ที่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำกักเก็บในอ่างประมาณร้อยละ 45-50
ขณะนี้ถือเป็นช่วงปลายของฤดูมรสุมแล้ว จึงคาดว่าในปีนี้ จ.เชียงใหม่จะไม่เกิดเหตุอุทกภัยเหมือนในปีที่ผ่านมา แต่อาจจะมีผลกระทบในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง หรือเขตพื้นที่ปลายน้ำมากกว่า
ทั้งนี้ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ชียงใหม่กล่าวว่า จะยังคงติดตามสถานการณ์น้ำต่อไป โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนนี้ หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีพายุเข้ามาในประเทศอีก 2 ลูก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดเหตุน้ำเอ่อล้นขึ้นในบางพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนที่เกิดจากพายุทั้ง 2 ลูกในช่วงปลายเดือนนี้อาจส่งผลดีต่อการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งของเขื่อนทั้ง 2 แห่ง เนื่องจากจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยของ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1-9 ก.ย. จากข้อมูลรายงานเหตุด่วนสาธารณภัยระบุว่า มีพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ทั้งจากเหตุอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มรวม 13 อำเภอ 40 ตำบล 134 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 8,990 ครัวเรือน 21,773 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 4,441 ไร่ บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 240 หลัง และมีสิ่งสาธารณประโยชน์ เช่น ถนน สะพาน เหมือง/ฝาย ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิต 1 รายและผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จากเหตุดินโคลนถล่ม และหินสไลด์