“สุริยะใส” ชี้ผลประมูล 3จี สุดเลวร้ายเกินคาด เป็นไปตามที่ฟ้องศาลทุกประการ แถมได้มูลค่าแค่ 4.1 หมื่นล้าน ทำชาติเสียหายหนัก ผู้ประกอบการได้กำไร เชื่อเดี๋ยวคงมีข้ออ้างชาวบ้านจะได้ใช้ถูกลง สับ กสทช.ไม่กำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคก่อนประมูลด้วย วอนคนใช้อย่าสักแต่เอาสบาย เล็งยื่น ป.ป.ช.ฟันต่อแน่ จ่อขอศาลเปิดไต่สวนฉุกเฉินพรุ่งนี้
วันนี้ (16 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน และผู้ร้องระงับการประมูล 3จี ต่อศาลปกครองกลาง กล่าวว่า ตนเห็นว่าผลการประมูลใบอนุญาต 3G วันนี้ออกมาดูเลวร้ายกว่าที่คาดการณ์ และที่สำคัญข้อกังวลที่ได้บรรยายไปในคำฟ้องต่อศาลปกครองก็เกิดขึ้นจริงทุกประการ เช่น ความน่าจะเป็นในการฮั้วกัน จากเกณฑ์ประมูลที่ กสทช.ออกแบบที่ผิดปกติมากๆ มี 6 ใบจากทั้งหมด 9 ใบอนุญาต ไม่มีการแข่งขันใดๆ โดยราคาประมูลอยู่ที่ราคาเริ่มต้นคือ 4,500 ล้านบาทเท่านั้น ที่แข่งกันมีแค่ 3 ใบ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าแข่งกันจริงหรือไม่ ต้องไปดูรายละเอียดในการเคาะของผู้เข้าแข่งขันแต่ละครั้งอีกที ซึ่ง กสทช.ต้องเปิดเผยรายละเอียด ที่น่าตกใจมากเมื่อรวมมูลค่าการประมูลทั้งหมดได้เพียงแค่ 41,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากราคาตั้งต้นแค่ 2.77% ทั้งที่ใบอนุญาตมีอายุตั้ง 15 ปี ทั้งนี้ หากเทียบเคียงกับรายได้ที่รัฐได้ค่าสัมปทานจากเอกชน 3 ราย คือ AIS Dtac True เฉพาะปีที่แล้วแค่ปีเดียวตั้ง 47,786 ล้านบาท ทำให้ประเทศเสียรายได้มหาศาล และคนที่ได้มากที่สุดกลายเป็นเอกชนผู้ประกอบการ ตนว่ามันเป็นการประมูลที่ตลกที่สุดในโลก
นายสุริยะใสกล่าวว่า จากนี้ไปคงมีข้ออ้างจาก กสทช.และผู้ประกอบการว่าราคาประมูลต่ำจะทำให้ค่าบริการถูกลง และเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะทุกวันนี้เอกชนได้คลื่น 3G ไปทดลองใช้ฟรีๆ ประชาชนยังไม่ได้ใช้บริการฟรีหรือถูกลงเลย ที่สำคัญ กสทช.ไม่ได้กำหนดมาตรการในการคุ้มครองผู้บริโภคไว้ก่อนประมูล เช่น เพดานค่าบริการ การครอบคลุมพื้นที่ คุณภาพคลื่น หรือการเข้าถึงของผู้ด้อยโอกาส ลองคิดกลับกัน ถ้าการประมูลรอบนี้ได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยเราก็สามารถนำเงินจำนวนนี้ไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสได้มากมาย ซึ่งคนที่อยากใช้ 3G ก็ควรพิจารณาประเด็นนี้ด้วย ไม่ใช่ถือเอาแต่ความสะดวกสบายตัวเองเป็นหลัก
นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า หลังจากนี้ต้องจับตาดูว่าผลการประมูลรอบนี้จะต้องนำไปพิจารณารับรองและประกาศผลโดย กสทช.ชุดใหญ่ หรือเฉพาะกรรมการฝ่ายโทรคมนาคม ทางกลุ่มกรีนกำลังดูข้อเท็จจริงและกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจยื่นกล่าวโทษ ต่อ ป.ป.ช.ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในส่วนของศาลปกครองที่ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ลงมา หลังจากที่เราร้องให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งศาลแจ้งให้ตนทราบแค่ว่ามีคำสั่งใดๆ จะแจ้งมาโดยเร็ว ตนเข้าใจว่าศาลท่านอาจรอดูเหตุในวันนี้ก่อนก็ได้ว่าการประมูลจะออกมาแบบไหน
“ผมกำลังปรึกษานักกฎหมาย อาจร้องให้ศาลท่านไต่สวนฉุกเฉินอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เพราะข้อเท็จจริงปรากฏแล้วว่าการประมูลครั้งนี้ไม่ชอบมาพากล” นายสุริยะใสกล่าว
