ที่ประชุม ครม.ห้ามส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ เพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนไปสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ อนุมัติใช้เงินงบกลางให้กรมสรรพสามิตชำระหนี้คดีไทยลู้บเบส เสนอให้รัฐสภาเห็นชอบอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร กำหนดแผนยุทธศาสตร์กำกับกิจการพลังงาน ขณะเดียวกันอนุมัติขยายเวลา-เพิ่มงบฯ ผันน้ำเจ้าพระยาตะวันออก-บางพระ และท่อส่งน้ำคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้อาวุธและยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะเป็นสินค้าที่ต้องห้ามการส่งออกไปสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ และกำหนดให้เพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าจากสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ พ.ศ. .... จากมาตรการคว่ำบาตรอาวุธต่อสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ขณะเดียวกันคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กรมสรรพสามิตสำหรับเป็นค่าถอนคืนรายได้แผ่นดิน เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลฎีกา รายบริษัท ไทยลู้บเบส จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 144,897,409.90 บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
อีกด้านหนึ่ง ครม.มีมติรับทราบแผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2556-2560 และผลการดำเนินงาน การจัดเก็บรายได้ และการใช้จ่ายงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 และเห็นชอบแผนการดำเนินงานงบประมาณรายจ่ายและประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร และให้เสนออนุสัญญาฯ เพื่อขอความเห็นชอบของรัฐสภา และให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้สัตยาบันอนุสัญญาฯ เมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้สัตยาบันพิธีสารเพื่อป้องกัน ปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก เสริมอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กรพร้อมกันกับการให้สัตยาบันอนุสัญญาฯ
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ได้แก่ 1. อนุมัติการขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการผันน้ำจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก-อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี จากเดิม 5 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ.2552-2556) เป็น 7 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-2558) 2. อนุมัติการขยายวงเงินค่าก่อสร้างโครงการผันน้ำจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก-อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี จากเดิม 4,936,330,000 บาท เป็น 5,190 ล้านบาท
3. อนุมัติการเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายงานระบบท่อส่งน้ำคลองพระองค์ไชยานุชิต-อ่างเก็บน้ำบางพระและอาคารประกอบ สัญญาที่ 1 โดยให้เพิ่มวงเงินจากเดิม 1,978,800,000 บาท เป็น 2,270,126,200 บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-2555 เป็นปีงบประมาณ 2553-2557 และ 4. อนุมัติการเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายงานระบบท่อส่งน้ำคลองพระองค์ไชยานุชิต-อ่างเก็บน้ำบางพระและอาคารประกอบ สัญญาที่ 2 โดยให้เพิ่มวงเงินจากเดิม 2,116,900,000 บาท เป็นวงเงิน 2,347,115,800 บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-2555 เป็นปีงบประมาณ 2553-2557