นักข่าวทำเนียบฯ งุนงง รปภ.ทำเนียบล็อกประตูตึกนารีสโมสร ห้ามเข้าไปหารองโฆษกรัฐบาล เผยระหว่างประชุม ครม. “ศันสนีย์” อ้าง “สุรนันทน์” สั่งคาดโทษห้ามให้ข้อมูล หลังตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวหลุดไปถึงสื่อ พบเมื่อวันศุกร์ฟ้องเอง หาว่ารองโฆษกฯ ไม่ให้ความร่วมมือ น้อยใจไม่ให้ความสำคัญจึงถูกสื่อเมิน “ภักดีหาญส์” รับถูกจัดระเบียบการให้ข่าว อ้างสักพักคงเข้าที่
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่าบริเวณตึกนารีสโมสร ซึ่งเป็นสถานที่ใช้แถลงข่าวรัฐบาล และเป็นสถานที่ทำงานของทีมโฆษกรัฐบาล ซึ่งโดยปกติหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้นลง ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะต้องแถลงข่าวหลังการประชุม ครม.ตามปกติ พร้อมกับเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามประเด็นที่สงสัย และเผยแพร่เอกสารในส่วนที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ แต่ปรากฏว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยประจำทำเนียบรัฐบาลได้ปิดล็อกประตูทางเชื่อมเข้าสู่ห้องทำงานทีมโฆษกฯ พร้อมกับคลี่ม่านปิดบังสภาพภายใน โดยมีเจ้าหน้าที่นั่งเฝ้าระวังอยู่บริเวณด้านนอก และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสอบถามประเด็นที่สงสัยเพิ่มเติมจากทีมโฆษกรัฐบาล สร้างความงุนงงให้สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล จากการสอบถามเจ้าหน้าที่สำนักโฆษกฯ แจ้งว่า ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่มีการแจ้งว่าห้ามข้าราชการให้ข่าวกับสื่อมวลชน เพราะตามกฎหมายข้าราชการพลเรือนในเรื่องการให้ข้อมูลข่าวสารต้องเป็นอำนาจของข้าราชการระดับ 10 หรือ ระดับอธิบดีขึ้นไป
ทั้งนี้ ระหว่างการประชุม ครม. น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คน คือ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด, นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา และนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ โดยอ้างว่านายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี บอกว่า รู้แล้วว่าข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวหลุดไปยังสื่อมวลชน ออกมาจากคนใดคนหนึ่งใน 3 รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ไม่รู้ว่าเป็นคนไหน จึงขอความร่วมมือไม่ให้มีการเปิดเผยข้อมูลให้กับสื่อมวลชน
มีรายงานว่า สืบเนื่องจากวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ศันสนีย์ได้รายงานนายสุรนันทน์ว่า ทีมรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ให้ความร่วมมือ และไม่ให้ความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ น.ส.ศันสนีย์ไม่ได้รับความสนใจจากสื่อในการเผยแพร่ อย่างการให้ข่าวผ่านทางเอสเอ็มเอส นายสุรนันทน์จึงสั่งการเป็นการภายในว่า ห้ามสื่อมวลชนเข้าห้องรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนนอกจากจะได้รับอนุญาต ที่ผ่านมานายสุรนันทน์ไม่สามารถสั่งการรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนได้ เนื่องจากนายชลิตรัตน์เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่มาจากโควตาพรรคชาติพัฒนา นายอนุสรณ์มาจากโควตากลุ่มคนเสื้อแดง และนายภักดีหาญส์ ที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทยส่งมา
ด้าน นายภักดีหาญส์ยอมรับว่า ได้รับรายงานว่าที่ผ่านมามีข้อมูลข่าวสารรัฐบาลรั่วไหลเยอะ โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลข จึงมีคำสั่งให้มีการจัดระเบียบการให้ข้อมูลข่าวสาร อีกสักพักคงเข้าที่เข้าทาง ทั้งนี้ ตนเองและรองโฆษกฯ อีกสองท่านก็จำเป็นต้องสนองนโยบาย ที่ผ่านมาทีมรองโฆษกฯ ก็ทำหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสารตามปกติ ซึ่งเป็นหน้าที่อยู่แล้วในการทำงานร่วมกับสื่อมวลชน ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขที่เพิ่มเติมจากการแถลงของทีมโฆษกฯ ก็เป็นความสามารถของสื่อในการหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวที่ต่างๆ ในส่วนของทีมโฆษกก็แถลงตามที่ได้รับมอบหมาย