“อุดมเดช” อ้างคำแก้ต่าง มท.1 ฟังขึ้น ชี้ช่วงเกิดเหตุมีผล พ.ร.บ.ล้างมลทิน ส่วนเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ปัดไม่สง่างาม อ้างมีหลายวิธี รับมีปั่นกระแสชิงเก้าอี้ ยันมีสิทธิ์ออกความเห็น ไม่หวั่นโดนยื่นศาล รธน. คาด มท.1 นั่ง ปธ.ถก ครม.แทน “ปู”
วันนี้ (24 ก.ย.) ทำเนียบรัฐบาล นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ว่า เป็นเรื่องของคุณสมบัติเมื่อ คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) มีความเห็นมา นายยงยุทธก็ได้ชี้แจงไปแล้ว ส่วนผู้ที่มีความเห็นแย้งก็สามารถทำความเห็นสอบถามได้ อีกทั้งนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความเห็นในข้อกฎหมายไปแล้ว ตนคิดว่าสามารถฟังได้ ส่วนที่มีผู้ไม่เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาว่านายยงยุทธไม่ควรรับอานิสงส์จากการที่มี พ.ร.บ.ล้างมลทินปี 2550 นั้นก็เป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันไป
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านออกมาโจมตีนายยงยุทธว่ายังไม่เคยรับโทษมาก่อน นายอุดมเดชกล่าวว่า ต้องไปดูในระเบียบดูที่วิธีการ เนื่องจากกฎหมายพวกนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องเคยได้รับโทษมาก่อน แต่ถ้าใครที่มีเหตุในช่วงก่อนระยะเวลาที่ออก พ.ร.บ.ฯฉบับนี้มาก็ถือว่าได้รับการยกเว้นและล้างมลทินไปเรียบร้อยแล้ว ถามต่อว่าเพื่อความสง่างามนายยงยุทธต้องถอยออกมาเพื่อให้กระบวนการดำเนินการไปหรือไม่ นายอุดมเดชกล่าวว่า ก็ทำได้หลายวิธี แต่ตามที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยออกมาพูด ตรงนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ตนคิดว่าสามารถฟังได้ ส่วนฝ่ายที่จะเห็นต่างกัน หรือเห็นว่าเป็นข้ออ้างอย่างไร ก็อยู่ในดุลยพินิจของแต่ละบุคคล ที่จะต้องดำเนินการกันต่อไป
เมื่อถามว่า มีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยต้องการให้นายยงยุทธรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้ปัญหาบานปลาย นายอุดมเดชกล่าวว่าปัญหาจะไม่บานปลาย แต่อาจเป็นความเห็นของบุคคลที่อยากจะดำรงตำแหน่งแทน ส่วนจะเกี่ยวเนื่องกับการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ต้องจะพิจารณาคุณสมบัติต่อไป แต่ในการแสดงความเห็นทุกคนสามารถแสดงได้ จะมากหรือน้อยก็ต้องว่ากันไป ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะหารือกันในการประชุมพรรคในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ หากอนาคตฝ่ายค้านอาจนำเรื่องนี้ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น นายอุดมเดชกล่าวว่า เป็นเรื่องของสิทธิ ทุกคนต้องทำตามสิทธิของรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ใครไม่เห็นด้วยก็ใช้ช่องทางโดยสามารถยื่นเรียกร้องได้ ซึ่งก็ต้องว่ากันไป
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันพรุ่งนี้ ที่นายยงยุทธจะนั่งเป็นประธานในการประชุมแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ จะมีผลอย่างไรนั้น นายอุดมเดชกล่าวว่า ก็อยู่ในดุลพินิจในการดำเนินการ ที่หากในส่วนของกฤษฎีกายืนยันว่าไม่มีผล สามารถนั่งเป็นประธานประชุม ครม.ได้ เพียงแต่เป็นประธานอย่างเดียว การลงมติก็คงเป็นเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุม ซึ่งตรงนี้เป็นเพียงความเห็นของตน ไม่แน่ใจว่า ครม.จะมีความเห็นอย่างไร