ข่าวปนคน คนปนข่าว
ข่าวคราวการทุจริตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พุ่งเป้ากระหน่ำกระแทกไปยังรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนเป๋ไปเป๋มาหลายรอบ ข้อกล่าวหานี้พยายามสลัดอย่างไรก็หนีลำบาก คนในรัฐบาลออกมาชี้แจงกันปากเปียกปากแฉะ ไม่ค่อยเห็นมีใครจะเชื่อกัน หรือมันเป็นพฤติกรรมถาวร คล้ายโรคเรื้อรัง ที่กินยาอะไรก็ไม่หาย!!
โครงการรับจำนำข้าว ที่รัฐบาลวาดฝันให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง จ้องบลัฟนโยบายประกันราคาข้าวของรัฐบาลชุดเก่าที่มีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ทำไปทำมากลับโดนถล่มเละเทะ
ต้นตอปัญหาก็สืบเนื่องมาจากการทุจริตคอร์รัปชันนี่แหละ
คนในภาครัฐเองที่สุดก็ต้องยอมรับว่ามันมีอยู่จริง แล้วก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจจับเป็นพิธี เพราะหลับตาก็นึกภาพออกว่าเป็นการหว่านแหจับปลาซิวปลาสร้อย ไม่เคยสาวไปถึงตัวการใหญ่เครือข่ายนักการเมือง
ทั้งๆ ที่ขบวนการทุจริตเป็นโครงข่ายขนาดใหญ่ กินไหลไปตามน้ำเป็นทอดๆ โดยกลุ่มที่สวาปามคำโตจนเลอะปาก หนีไม่พ้นตัวเป้งเครือข่ายการเมือง แต่พอโดนกวาดล้างก็เจอเกมตัดตอน ช่วยเหลือกันเอง “กากี่นั้ง”
รูปแบบการทุจริตภายใต้รัฐบาลชุดนี้ หลายกรณีคล้ายๆ กัน นอกจากเรื่องข้าวที่เห็นกันจะๆ แล้วก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องราวฉาวโฉ่ การไซฟ่อนเงินข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึง ฮ่องกง สืบเนื่องเกี่ยวพันมากับงบประมาณฟื้นฟูเยียวยาและป้องกันน้ำท่วม!!
งบประมาณแต่ละก้อนที่มีข่าวคราวทุจริต เข้าไปชักหัวคิวกินเปอร์เซ็นต์ ล้วนเกี่ยวเนื่องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนรากหญ้าตาดำๆ ที่รัฐบาลชุดนี้เอ่ยอ้างว่าจะรังสรรค์ความสุขให้แก่เขาทั้งหลาย
งามหน้าไหมล่ะ มาหากินบนน้ำตาของคนที่เลือกตั้งเข้ามา ?!?
การทุจริตงบประมาณเยียวยาน้ำท่วม หลายหน่วยงานเคยให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่าทำกันเป็นขบวนการ ชักหัวคิวกันสนุกมือ จนเหลือเพียงเศษเงินจิ๊บจ๊อยไปถึงประชาชน โยงใยไปถึงคนใหญ่โตในรัฐบาลนาม
“เจ๊ ด.” เป็นเจ้าแม่ใหญ่ในการเดินเรื่อง ตัดทอนงบประมาณแต่ละโครงการ 30-40 เปอร์เซ็นต์ มากเป็นประวัติการณ์ยิ่งกว่ายุคไหนๆ ต้องรวยแค่ไหนกันถึงจะพอใจก็ไม่รู้ !!
เป็นข่าวคราวทุจริตข้ามชาติ แม้แต่หน่วยงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือ ป.ป.ช. ของฮ่องกง เคยเปิดเผยข้อมูลว่า "เจ๊ ด." คือตัวการใหญ่ “ไซฟ่อน” ยักย้ายถ่ายเทเงินงบประมาณผลประโยชน์ชาติเข้ากระเป๋าส่วนตัวและพวกพ้อง มูลค่านับหมื่นล้าน
จนถึงวันนี้ก็ยังเคลียร์ข้อหาไม่ได้ นอกจากการออกตัวปฏิเสธจนแผ่นเสียงตกร่อง ลิ้นพันจุกปาก ยากที่คนจะเชื่อถือโดยสนิทใจ ยังคงเป็นระเบิดเวลารอวันติดชนวนรวมกับลูกอื่นๆ
ขบวนการดังกล่าวอาจเกี่ยวพันกับกรณีที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ถูกพิษการเมืองเล่นงาน เตะโด่งพ้นเก้าอี้ เคยปูดข้อมูลเชิงลึกไว้ว่า
มีการทุจริตงบประมาณโครงการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้าน ทั้งการการทุจริตโครงการขุดลอกคูคลอง ขุดทางระบายน้ำ ซ่อมถนน ทำถนนลาดยาง ขุดสระน้ำสำหรับหน้าแล้ง กินกันเช็ดเม็ดทุกโครงการ นอกจากนั้นยังพบการทุจริตหลบเลี่ยงภาษีการนำเข้ารถยนต์หรู และการทุจริตอนุมัติปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้กับบริษัทเพรสซิเดนท์ อะกริ จำกัด เหล่านี้อาจเกี่ยวพันนัวเนียในขบวนการไซฟ่อนเงิน
ล่าสุดทางด้านวุฒิสมาชิก โดย สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เปิดเผยว่าคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาชิกภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) พบข้อมูลการไซฟ่อนเงินจากประเทศไทยไปยังฮ่องกง จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท
ทราบว่าโอนจากแถวเยาวราช โดย ป.ป.ช.ฮ่องกงได้ประกาศอายัดเงิน และตามหาเจ้าของ แต่ไม่พบเจ้าของเงินไปแสดงตัว!!
อย่างไรก็ตาม เมื่อประสานเรื่องไปเพื่อขอตรวจสอบ ปรากฏว่าทางฮ่องกงปฏิเสธ เนื่องจากคนที่จะขอเข้าไปตรวจสอบคือ ภตช. ไม่ใช่หน่วยงานภาครัฐ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ของเขา เบื้องต้นจึงส่งเรื่องต่อมายังคณะกรรมธิการวุฒิสภาในฐานะหน่วยงานนิติบัญญัติของไทยให้ดำเนินการแทน
กระนั้นก็ยังไม่แน่ใจว่า จะสามารถเข้าไปตรวจสอบได้เองหรือไม่ เพราะไม่ใช่หน่วยงานภาครัฐโดยตรง จึงพยายามประสานต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหาช่องทางเข้าไปสืบสวนต่อ แต่ดูท่าว่าเรื่องนี้จะเป็นการจุดไต้ตำตอของรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศอาจเล่นเกม เพิกเฉย เตะถ่วงกันแบบหน้าไม่อายเหมือนเคย
เรื่องนี้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการ ภตช. เป็นหัวหอกตามกัดติดมาอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นไปสอบสวนแลกเปลี่ยนกับทางฮ่องกง ก่อนหน้านี้ก็มีการปูดข้อมูลฉาวโฉ่ออกมาเป็นระยะว่ามีการทุจริตงบเยียวยาน้ำท่วม มีคนในรัฐบาลเกี่ยวข้อง “เจ๊ ด.” เป็นตัวการใหญ่พร้อมคนในขบวนการไม่ต่ำกว่า 30 คน
แต่พูดไปก็เหมือน “สีซอให้ควายฟัง” ไม่มีเทคแอ๊คชั่น ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวจากฝ่ายรัฐบาลอย่างจริงจังในการตรวจสอบสิ่งที่ผู้คนสงสัย ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ กลัวหยิกเล็บแล้วต้องเจ็บเนื้อ ปล่อยให้ขบวนการกรรโชกทรัพย์ประชาชนโจ๋งครึ่มกระหึ่มเมือง เหมือนปล่อยให้ปล้นกันกลางแดด!!
คนในเครือข่ายรัฐบาลหลับหูหลับตาอออกมาร้องเพลงคอรัส แบบไม่มีผิดคีย์ ยืนยันนอนยันเหมือนท่องสคริปต์ไม่มีทุจริต โดยไม่คิดเข้าไปตรวจสอบความจริง
เด็กใคร ลูกน้องใคร ก็มีหน้าที่ออกมาปกป้องนายกันตามหน้าที่ “วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็ออกหน้าชนแทน “เจ๊ ด.” นพดล ปัทมะ ทนายหน้าหอก็ออกมาสอพลอตามสเต็ป รีบตัดไฟต้นลม ดักคอว่ามีความพยายามโยงไปถึง ทักษิณ ชินวัตรนายใหญ่นักโทษหลบหนีคดี
แต่ข้อกล่าวหาทั้งหมดทั้งมวลก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์จนวันนี้ ไอ้ครั้นจะตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงคงหนีไม่พ้นจบลงด้วยข้อสรุปเดิมๆ จับปลาซิวปลาสร้อยมาตัดหัวคั่วแห้ง ตัวการใหญ่ลอยนวล หากมีความจริงจังจริงใจในเรื่องนี้ ก็ลองไปร่วมสอบสวนกับฮ่องกงนั่นปะไร เขาชี้จำเพาะเจาะจงมาแล้วว่าให้ภาครัฐเข้าไปร่วมสอบสวน น่าจะประสานไปเป็นเรื่องเป็นราวเอาให้ชัด
หรือว่ากลัวอะไรอยู่ กลัวว่ามันจะเป็นจริงตามที่เขาตั้งแง่กล่าวหาหรือไม่ กลัวว่าการทุจริตมันจะลามมาบ่อนเซาะเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่
ชั่งน้ำหนักแล้วทุกเรื่องราวรัฐบาลล้วนรับมือไหว เรื่องน้ำท่วมที่ดูว่าหนักหนาก็เหมือนจะผ่านพ้นไปแบบไม่ค่อยเจ็บตัว ข้อหาเดียวที่ฉกาจฉกรรจ์ เป็นชนวนให้รัฐบาลพังพินาศมากที่สุดก็คือเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น คงเป็นเรื่องที่รัฐบาลอยากหลีกลี้หนีให้ไกล
เกรงว่าไปจับต้องเมื่อไหร่ ภัยร้ายก็จะติดตามมาถึงตัว มันเหมือนฟ้องกันในทีว่าเรื่องพวกนี้ คุมกันไม่อยู่จริงๆ !!
ข่าวคราวการทุจริตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พุ่งเป้ากระหน่ำกระแทกไปยังรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนเป๋ไปเป๋มาหลายรอบ ข้อกล่าวหานี้พยายามสลัดอย่างไรก็หนีลำบาก คนในรัฐบาลออกมาชี้แจงกันปากเปียกปากแฉะ ไม่ค่อยเห็นมีใครจะเชื่อกัน หรือมันเป็นพฤติกรรมถาวร คล้ายโรคเรื้อรัง ที่กินยาอะไรก็ไม่หาย!!
โครงการรับจำนำข้าว ที่รัฐบาลวาดฝันให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง จ้องบลัฟนโยบายประกันราคาข้าวของรัฐบาลชุดเก่าที่มีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ทำไปทำมากลับโดนถล่มเละเทะ
ต้นตอปัญหาก็สืบเนื่องมาจากการทุจริตคอร์รัปชันนี่แหละ
คนในภาครัฐเองที่สุดก็ต้องยอมรับว่ามันมีอยู่จริง แล้วก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจจับเป็นพิธี เพราะหลับตาก็นึกภาพออกว่าเป็นการหว่านแหจับปลาซิวปลาสร้อย ไม่เคยสาวไปถึงตัวการใหญ่เครือข่ายนักการเมือง
ทั้งๆ ที่ขบวนการทุจริตเป็นโครงข่ายขนาดใหญ่ กินไหลไปตามน้ำเป็นทอดๆ โดยกลุ่มที่สวาปามคำโตจนเลอะปาก หนีไม่พ้นตัวเป้งเครือข่ายการเมือง แต่พอโดนกวาดล้างก็เจอเกมตัดตอน ช่วยเหลือกันเอง “กากี่นั้ง”
รูปแบบการทุจริตภายใต้รัฐบาลชุดนี้ หลายกรณีคล้ายๆ กัน นอกจากเรื่องข้าวที่เห็นกันจะๆ แล้วก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องราวฉาวโฉ่ การไซฟ่อนเงินข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึง ฮ่องกง สืบเนื่องเกี่ยวพันมากับงบประมาณฟื้นฟูเยียวยาและป้องกันน้ำท่วม!!
งบประมาณแต่ละก้อนที่มีข่าวคราวทุจริต เข้าไปชักหัวคิวกินเปอร์เซ็นต์ ล้วนเกี่ยวเนื่องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนรากหญ้าตาดำๆ ที่รัฐบาลชุดนี้เอ่ยอ้างว่าจะรังสรรค์ความสุขให้แก่เขาทั้งหลาย
งามหน้าไหมล่ะ มาหากินบนน้ำตาของคนที่เลือกตั้งเข้ามา ?!?
การทุจริตงบประมาณเยียวยาน้ำท่วม หลายหน่วยงานเคยให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่าทำกันเป็นขบวนการ ชักหัวคิวกันสนุกมือ จนเหลือเพียงเศษเงินจิ๊บจ๊อยไปถึงประชาชน โยงใยไปถึงคนใหญ่โตในรัฐบาลนาม
“เจ๊ ด.” เป็นเจ้าแม่ใหญ่ในการเดินเรื่อง ตัดทอนงบประมาณแต่ละโครงการ 30-40 เปอร์เซ็นต์ มากเป็นประวัติการณ์ยิ่งกว่ายุคไหนๆ ต้องรวยแค่ไหนกันถึงจะพอใจก็ไม่รู้ !!
เป็นข่าวคราวทุจริตข้ามชาติ แม้แต่หน่วยงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือ ป.ป.ช. ของฮ่องกง เคยเปิดเผยข้อมูลว่า "เจ๊ ด." คือตัวการใหญ่ “ไซฟ่อน” ยักย้ายถ่ายเทเงินงบประมาณผลประโยชน์ชาติเข้ากระเป๋าส่วนตัวและพวกพ้อง มูลค่านับหมื่นล้าน
จนถึงวันนี้ก็ยังเคลียร์ข้อหาไม่ได้ นอกจากการออกตัวปฏิเสธจนแผ่นเสียงตกร่อง ลิ้นพันจุกปาก ยากที่คนจะเชื่อถือโดยสนิทใจ ยังคงเป็นระเบิดเวลารอวันติดชนวนรวมกับลูกอื่นๆ
ขบวนการดังกล่าวอาจเกี่ยวพันกับกรณีที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ถูกพิษการเมืองเล่นงาน เตะโด่งพ้นเก้าอี้ เคยปูดข้อมูลเชิงลึกไว้ว่า
มีการทุจริตงบประมาณโครงการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้าน ทั้งการการทุจริตโครงการขุดลอกคูคลอง ขุดทางระบายน้ำ ซ่อมถนน ทำถนนลาดยาง ขุดสระน้ำสำหรับหน้าแล้ง กินกันเช็ดเม็ดทุกโครงการ นอกจากนั้นยังพบการทุจริตหลบเลี่ยงภาษีการนำเข้ารถยนต์หรู และการทุจริตอนุมัติปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้กับบริษัทเพรสซิเดนท์ อะกริ จำกัด เหล่านี้อาจเกี่ยวพันนัวเนียในขบวนการไซฟ่อนเงิน
ล่าสุดทางด้านวุฒิสมาชิก โดย สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เปิดเผยว่าคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาชิกภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) พบข้อมูลการไซฟ่อนเงินจากประเทศไทยไปยังฮ่องกง จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท
ทราบว่าโอนจากแถวเยาวราช โดย ป.ป.ช.ฮ่องกงได้ประกาศอายัดเงิน และตามหาเจ้าของ แต่ไม่พบเจ้าของเงินไปแสดงตัว!!
อย่างไรก็ตาม เมื่อประสานเรื่องไปเพื่อขอตรวจสอบ ปรากฏว่าทางฮ่องกงปฏิเสธ เนื่องจากคนที่จะขอเข้าไปตรวจสอบคือ ภตช. ไม่ใช่หน่วยงานภาครัฐ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ของเขา เบื้องต้นจึงส่งเรื่องต่อมายังคณะกรรมธิการวุฒิสภาในฐานะหน่วยงานนิติบัญญัติของไทยให้ดำเนินการแทน
กระนั้นก็ยังไม่แน่ใจว่า จะสามารถเข้าไปตรวจสอบได้เองหรือไม่ เพราะไม่ใช่หน่วยงานภาครัฐโดยตรง จึงพยายามประสานต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหาช่องทางเข้าไปสืบสวนต่อ แต่ดูท่าว่าเรื่องนี้จะเป็นการจุดไต้ตำตอของรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศอาจเล่นเกม เพิกเฉย เตะถ่วงกันแบบหน้าไม่อายเหมือนเคย
เรื่องนี้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการ ภตช. เป็นหัวหอกตามกัดติดมาอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นไปสอบสวนแลกเปลี่ยนกับทางฮ่องกง ก่อนหน้านี้ก็มีการปูดข้อมูลฉาวโฉ่ออกมาเป็นระยะว่ามีการทุจริตงบเยียวยาน้ำท่วม มีคนในรัฐบาลเกี่ยวข้อง “เจ๊ ด.” เป็นตัวการใหญ่พร้อมคนในขบวนการไม่ต่ำกว่า 30 คน
แต่พูดไปก็เหมือน “สีซอให้ควายฟัง” ไม่มีเทคแอ๊คชั่น ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวจากฝ่ายรัฐบาลอย่างจริงจังในการตรวจสอบสิ่งที่ผู้คนสงสัย ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ กลัวหยิกเล็บแล้วต้องเจ็บเนื้อ ปล่อยให้ขบวนการกรรโชกทรัพย์ประชาชนโจ๋งครึ่มกระหึ่มเมือง เหมือนปล่อยให้ปล้นกันกลางแดด!!
คนในเครือข่ายรัฐบาลหลับหูหลับตาอออกมาร้องเพลงคอรัส แบบไม่มีผิดคีย์ ยืนยันนอนยันเหมือนท่องสคริปต์ไม่มีทุจริต โดยไม่คิดเข้าไปตรวจสอบความจริง
เด็กใคร ลูกน้องใคร ก็มีหน้าที่ออกมาปกป้องนายกันตามหน้าที่ “วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็ออกหน้าชนแทน “เจ๊ ด.” นพดล ปัทมะ ทนายหน้าหอก็ออกมาสอพลอตามสเต็ป รีบตัดไฟต้นลม ดักคอว่ามีความพยายามโยงไปถึง ทักษิณ ชินวัตรนายใหญ่นักโทษหลบหนีคดี
แต่ข้อกล่าวหาทั้งหมดทั้งมวลก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์จนวันนี้ ไอ้ครั้นจะตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงคงหนีไม่พ้นจบลงด้วยข้อสรุปเดิมๆ จับปลาซิวปลาสร้อยมาตัดหัวคั่วแห้ง ตัวการใหญ่ลอยนวล หากมีความจริงจังจริงใจในเรื่องนี้ ก็ลองไปร่วมสอบสวนกับฮ่องกงนั่นปะไร เขาชี้จำเพาะเจาะจงมาแล้วว่าให้ภาครัฐเข้าไปร่วมสอบสวน น่าจะประสานไปเป็นเรื่องเป็นราวเอาให้ชัด
หรือว่ากลัวอะไรอยู่ กลัวว่ามันจะเป็นจริงตามที่เขาตั้งแง่กล่าวหาหรือไม่ กลัวว่าการทุจริตมันจะลามมาบ่อนเซาะเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่
ชั่งน้ำหนักแล้วทุกเรื่องราวรัฐบาลล้วนรับมือไหว เรื่องน้ำท่วมที่ดูว่าหนักหนาก็เหมือนจะผ่านพ้นไปแบบไม่ค่อยเจ็บตัว ข้อหาเดียวที่ฉกาจฉกรรจ์ เป็นชนวนให้รัฐบาลพังพินาศมากที่สุดก็คือเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น คงเป็นเรื่องที่รัฐบาลอยากหลีกลี้หนีให้ไกล
เกรงว่าไปจับต้องเมื่อไหร่ ภัยร้ายก็จะติดตามมาถึงตัว มันเหมือนฟ้องกันในทีว่าเรื่องพวกนี้ คุมกันไม่อยู่จริงๆ !!