ศึกเก้าอี้ “ปลัดกลาโหม”เดือด หลายโผ “บิ๊กขรก.”ยังฝุ่นตลบ

ข่าวปนคน คนปนข่าว

มาถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมแล้ว หากนับจากสัปดาห์นี้ไปก็เหลืออีกแค่ 5 สัปดาห์ ก็ครบปีปฏิทินงบประมาณของภาคราชการคือ 30 กันยายน 2555 อันเป็นวันที่ข้าราชการซึ่งอายุครบ 60 ปี ก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะเกษียณอายุราชการกันแล้ว

ทำให้ช่วงนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายเพื่อจัดทัพข้าราชการระดับสูงในแต่ละหน่วยงาน จึงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังเก้าอี้ใหญ่ๆในแต่ละหน่วยงานระดับหัวแถวถูกฝ่ายการเมืองเห็นชอบกันไปหลายหน่วยแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีข่าวออกมาต่อเนื่องว่า เก้าอี้บิ๊กข้าราชการระดับซี 11 และระดับ 10 หลายกระทรวงยังมีปัญหาเสนอรายชื่อเข้าครม.ไม่ได้ เพราะโผไม่ลงตัว จากเหตุที่มีความขัดแย้งงัดข้อกันเอง ระหว่างฝ่ายการเมืองที่คุมกระทรวงนั้นๆ รวมถึงการเห็นไม่ตรงกันของฝ่ายการเมืองในพรรคเดียวกัน ต่างก็จะดันคนของตัวเองขึ้นเป็นใหญ่

ถึงขั้นโผระดับซี 11 และระดับ 10 หลายกระทรวง มีปัญหาจัดทัพข้าราชการไม่ลงตัว ทั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ต้องโทรศัพท์ไปขอคำปรึกษา และการชี้ขาดจากทักษิณ ชินวัตร ถึงแดนไกล

บางกระทรวงก็มีข่าวว่า บรรดาบิ๊กข้าราชการที่อยากเป็นใหญ่ หรือเป็นใหญ่อยู่แล้วแต่ไม่อยากหลุดจากเก้าอี้ บินไปให้ทักษิณ ชินวัตร ดูตัว ทดสอบใจกันหลายต่อหลายคนมาแล้ว

และมีความเป็นไปได้สูงที่การจัดทัพบิ๊กข้าราชการฤดูกาลนี้อาจได้เห็นการโยกย้ายข้ามหน่วยแบบแหกโผกันหลายกระทรวง เหตุเพราะปัญหาไม่ลงตัวในหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะระดับซี 11

ในช่วงฝุ่นตลบตอนนี้มีกระแสข่าวออกมาว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี จะโยกจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม -พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต จะโยกจาก รอง ผบ.ตร.ไปเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) หรือเลขาธิการ สมช.

นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)พี่สาวประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทย จะออกจากกรุที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กลับถิ่นเก่าที่พม. เพราะ วิเชียร ชวลิต ปลัดพม.คนปัจจุบันจะย้ายกลับไปเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยอีกรอบ แต่ล่าสุด สันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พม. ยังไม่เห็นด้วย เพราะคงทำงานกับนางพนิตาไม่ได้

ขณะที่ข่าวอีกบางกระแสบอกว่า วิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แหกโผมาแรงจ่อนั่งปลัดฯมหาดไทยแบเบอร์แล้ว เพราะได้แรงส่งจากแกนนำพรรคเพื่อไทย จำนวนมาก

ทั้งหมดคาดว่าจะเริ่มนิ่งในช่วงต้นสัปดาห์นี้ เพราะหลายกระทรวงที่มีปัญหาไม่ลงตัวก็มีข่าวว่า ทักษิณ เข้ามาเคาะรายชื่อส่งกลับมาให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง และยิ่งลักษณ์แล้ว

น่าจับตาว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ จะมีการนำรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงหน่วยไหน เข้าสู่การพิจารณาบ้าง

แต่หากหน่วยงานไหน มีข่าวว่าโผไม่นิ่ง มีปัญหาความขัดแย้งในหลายระดับทั้งระดับข้าราชการด้วยกันเองหรือว่าฝ่ายการเมืองกับข้าราชการประจำ ก็เชื่อว่า คงยื้อกันได้อีกไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ ก็ต้องยุติ เพื่อให้กลายเป็นปัญหาบานปลายจนส่งผลไม่ดีต่อรัฐบาล

แต่ที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้ จนเรียกเสียงฮือฮาไปทั่วก็คือ ปัญหาการพิจารณารายชื่อผู้จะมาเป็น “ปลัดกระทรวงกลาโหม” คนใหม่แทน พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม คนปัจจุบัน ที่จะเกษียณ 30 กันยายนนี้

ใครจะนึกว่า พลเอกเสถียร ที่เห็นเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดจา เอาแต่ทำงานอย่างเดียว แต่ตอนนี้กลับมีข่าวว่าเกิดปัญหางัดข้อกับ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เพื่อนรักทักษิณ ชินวัตร ในเรื่องการตั้งปลัด กห.คนใหม่

เพราะ”บิ๊กโอ๋”จะดัน พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ให้ข้ามห้วยจากทบ. มาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมให้ได้

แต่พลเอกเสถียร ขอไว้ลายก่อนอำลาชีวิตข้าราชการทหาร ด้วยการไม่ยอมทำตามใบสั่งของรมว.กลาโหม ที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง เพราะพลเอกเสถียร เห็นว่า พล.อ.ชาตรี ทิตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เหมาะสมกว่า

ถึงขั้นมีข่าวปรากฏว่าออกมาว่า พลเอกเสถียร ทำหนังสือถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อยืนยันการใช้อำนาจของตัวเอง ในการพิจารณาแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม ตามพ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551

โดยหนังสือดังกล่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอระบุว่า ปลัดกระทรวงกลาโหมได้ทำหนังสือลงวันที่ 24 สิงหาคม 2555 ถึง นายกรัฐมนตรี เรื่องขออนุญาตเข้าพบ เพื่อชี้แจงการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม

พร้อมกับระบุด้วยว่า หนังสือดังกล่าวอ้างว่าเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2555 พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ได้เชิญผู้นำเหล่าทัพเช่น พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เข้าหารือเกี่ยวกับการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหมประจำปี ณ ห้องทำงานสำนักงานรัฐมนตรี

ตามข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนออ้างว่า หนังสือฉบับดังกล่าว ระบุว่า รมว.กลาโหม สั่งการด้วยวาจาให้เสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม หากไม่มีผู้ใดคัดค้าน ให้ถือว่าเห็นชอบตามสั่งการนี้ และจะไม่มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ของกระทรวงกลาโหมอีก

และหากปลัดกระทรวงกลาโหมเสนอชื่อ พล.อ.ชาตรี ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ก็จะเปลี่ยนรายชื่อเป็น พล.อ.ทนงศักดิ์ รวมถึงจะไม่ให้ พลเอกเสถียร เป็นผู้รับผิดชอบจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แต่จะมอบหมายให้ พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นผู้จัดทำบัญชีรายชื่อร่วมกับ รมว.กลาโหม

จึงทำให้พลเอกเสถียร เห็นว่า รมว.กลาโหม ก้าวก่าย แทรกแซงการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล จนทำหนังสือดังกล่าวส่งถึงนายกรัฐมนตรี

ศึกนี้จะบานปลาย หรือมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่ ให้จับตาดูกันให้ดี หากไม่มีมวยล้มเสียก่อน เชื่อว่าหลายคนเชียร์ พลเอกเสถียรให้ชนกับฝ่ายการเมือง “บิ๊กโอ๋” แน่นอน

และล่าสุดตัวพลเอกเสถียร ก็ให้สัมภาษณ์ยอมรับแล้วว่า มีการทำหนังสือดังกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีจริง เพื่อยืนยันอำนาจการพิจารณาแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ ส่วนเบื้องหน้าเบื้องหลังของการหักกันครั้งนี้ ระหว่างปลัดกลาโหม กับรมว.กลาโหม จะมีอะไรกันหรือไม่ ช่างน่าติดตามอย่างยิ่ง

จะว่าไป ในบรรดาบิ๊กทหารยุคนี้ พลเอกเสถียร กับพล.อ.อ.สุกำพล น่าจะเป็นพวกเดียวกันเสียด้วยซ้ำ แม้มองกันถึงขั้นว่าเป็นแผนดิสเครดิต พล.อ.อ.สุกำพล ในช่วงที่จะมีการปรับครม. แต่หลายคนก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะแม้จะมีข่าวว่าพลเอกเสถียร เองก็มีสิทธิ์จะเป็นแคนดิเดต รมว.กลาโหม ได้ในยุครัฐบาลเพื่อไทย แต่พลเอกเสถียร ก็ไม่จำเป็นต้องออกตัวแรงขนาดนี้หากคิดจะแซะเก้าอี้ พล.อ.อ.สุกำพล

ถ้าไม่มีมวยล้มกันหรือเล่นละครตบตา จูบปากกันเสียก่อน ไม่รู้เหมือนกันว่า ยิ่งลักษณ์ จะยืนข้างใคร