รองโฆษกเพื่อไทยเผย พรรคถก กก.บห.เตี๊ยมประชุมร่วมรัฐสภา พีอาร์จำนำข้าวจันทร์นี้ อ้างชาวนาจี้อาจารย์นิด้าหุบปากเลิกด่าโครงการ ไล่ “อภิสิทธิ์” ลาออกแสดงสปิริตบ้างหากกลาโหมถอดยศ เย้ยประชาธิปัตย์จัดแรลลีชายชุดดำแค่ดิ้นเฮือกสุดท้ายก่อนเข้าหลักประหาร เปิดตัวทีมสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลัง “สุขุมพันธุ์” หมดวาระ
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในวันจันทร์ที่ 15 ต.ค.นี้พรรคเพื่อไทยเตรียมประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค ประธานโซน และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือการประชุมร่วมรัฐสภาในหัวข้อความร่วมมือร่วมไทย-พม่า พร้อมทั้งพูดคุยถึงโครงการรับจำนำข้าวเพื่อประชาสัมพันธ์ผลดีโครงการดังกล่าว รวมถึงเตรียมการเพื่อแถลงผลงานของรัฐบาลในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วยว่ามีการแบ่งหมวดหมู่และการพัฒนาประเทศอย่างไร โดยพรรคเพื่อไทยเตรียมจัดทำคู่มือเพื่อให้ ส.ส.ลงพื้นที่อธิบายโครงการต่างๆ ของรัฐบาลว่าการทำวันนี้จะเห็นผลวันไหน
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงอีกว่า ตนขอเรียกร้องให้ นายอดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หุบปากและหายใจลึกๆ อยากให้นึกถึงหน้าชาวนาที่กำลังเอาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน อย่าออกมาต่อว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเลย เนื่องจากโครงการดำเนินมาได้ร้อยละ 70 แล้ว และพบว่าเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างมาก ขณะที่โครงการเช็คช่วยชาติ โครงการประกันราคาข้าว ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ทำกลไกตลาดเสียหาย ทำไมอาจารย์นิด้าไม่ออกมาต่อว่าบ้าง ตนไม่อยากถามหาความรับผิดชอบจากอาจารย์นิด้าภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง เพราะคนเหล่านี้ถามหาจริยธรรมยากใช่หรือไม่ ขณะที่อาจารย์นิด้าพยายามเรียกร้องให้คนอื่นมีจริยธรรม จรรยาบรรณ แต่พอเรื่องตัวเองกลับเงียบ
นายจิรายุยังแถลงถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหมเตรียมดำเนินการขอพระราชทานถอดยศ และเรียกคืนเงินเบี้ยหวัด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีใช้เอกสารปลอมในการสมัครเข้ารับราชการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) ว่า นายอภิสิทธิ์ควรแสดงสปิริต และรีบลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีในแวดวงการเมือง เพราะหากนายอภิสิทธิ์ใช้เอกสารปลอมตามที่กระทรวงกลาโหมชี้มูล และมีการถอดยศเรียกเงินเดือน และเบี้ยหวัดต่างๆ คืนจริง ย่อมหมายความว่าที่ผ่านมากว่า 20 ปีของนายอภิสิทธิ์ในหน้าที่การงานก็จะเป็นโมฆะทั้งหมดด้วยใช่หรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านพยายามถามหาสปิริตของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ขณะที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายยงยุทธก็แสดงสปิริตแล้ว ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ควรปรับมากที่สุดคือ ครม.เงา และพิจารณาจริยธรรม จรรยาบรรณ และคำว่าสปิริตต่อการลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จัดกิจกรรมแรลลีตามหาชายชุดดำว่า พรรคเพื่อไทยถือว่าเป็นการดิ้นเฮือกสุดท้ายก่อนเข้าหลักประหารของชายหน้าดำ และชายดีแต่พูด ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้คนตาย 98 ศพ เจ็บอีกกว่า 2,000 คนมากกว่า เพราะการจัดกิจกรรมเช่นนี้ไม่เป็นประโยชน์อะไรให้สังคม นอกจากจะตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับญาติผู้สูญเสีย และเป็นความพยายามตามหาสารฟอกขาวให้ชายหน้าดำที่อยู่เบื้องหลังการสั่งการ ให้ทหารขนอาวุธหนักและอุปกรณ์สงครามมาขอกระชับพื้นที่กลางกรุงมากกว่า ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะอดีตผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) น่าจะใช้เงินตรงนี้ออกมาจัดงานทำบุญครบรอบ 2 ปีให้กับผู้ตาย และขออโหสิกรรมให้กับผู้บาดเจ็บและญาติของเขาจะดีกว่า ที่ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
นายจิรายุแถลงถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่มีมติว่าจะส่งใครเป็นตัวแทนพรรค ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และประชุม 3 โซนที่ได้แบ่งไว้เพื่อระดมความคิดเห็นนั้น มีมติแนวคิดตรงกันว่าจะใช้นโยบายเป็นที่ตั้งก่อน และจะเข้าสู่โหมดเลือกตั้งในวันที่ 10 พฤศจิกายน เพราะเป็นวันสิ้นทุกกระบวนการของผู้ว่าฯ กทม. ปี 2555 หลังจากนั้นพรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวชุดผู้บริหารกทม.ว่าคณะทำงานจะมีใครบ้าง หลังจากนั้นถึงจะเปิดตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเบื้องต้นพรรคมีตัวเลือกจาก 1. คนในพรรค 2. คนที่เคยทำงานในพรรคและมีตำแหน่งอยู่แล้ว และ 3. คนนอก แต่คนนอกนั้นคงไม่ใช่ที่รู้จักมักคุ้นกับพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เตรียมสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย นายจิรายุกล่าวว่า เท่าที่ทราบพรรคเพื่อไทยได้มีการคุยกันว่าการสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ถึงไม่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และหากจริงก็เป็นเรื่องที่ไม่แปลก เพราะท่านมีเจตนาชัดเจนว่าชื่นชอบการทำงานของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น การสมัครเข้าเป็นสมาชิกคงไม่ได้ตื่นเต้นในเรื่องนี้ จะตื่นเต้นหากมาสมัครลงผู้ว่าฯ กทม. หรือมาสมัครทำงานให้กับพรรคหรือเป็นรัฐมนตรีมากกว่า
ส่วนกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์จะเป็นตัวแทนลงสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.ด้วยหรือไม่นั้น นายจิรายุกล่าวว่า ตอนนี้มีแต่ข่าวที่มาจากข้างนอกพรรคเพื่อไทย จากเหตุผลที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.ประกาศลงชิงผู้ว่าฯ กทม. โพลทำการสำรวจว่าพรรคเพื่อไทยควรส่งตำรวจลงสู้หรือไม่ โดยมีการโฟกัสไปที่ 2 คน คือ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้หาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ลงสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้วอาจไม่ลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็ได้ อาจเป็นผู้บริหารพรรคเพื่อไทยหรือรัฐมนตรี โดยเรื่องนี้ขึ้นอยู่การปรับคณะรัฐมนตรี