“รองโฆษกฯ” สนองด็อกฯ เหลิมสั่งตีปี๊บจำนำข้าว โผล่เรียกร้องสังคมร่วมกดดัน “อาจารย์นิด้า” รับผิดชอบด้วยการลาออก-ขอโทษชาวนา หลังศาล รธน.ไม่รับคำร้อง ยันนโยบายดี ช่วยแก้ปัญหาด้านรายได้ให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 10 ต.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องกรณีนายอดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา และคณะยื่นขอให้ศาลใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อยับยั้งยุติการจำนำข้าวของรัฐบาลว่า วันนี้สังคมต้องช่วยกันให้ความเห็นในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่รับคำร้องนี้ อาจจะต้องถึงขั้นช่วยกันปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการศึกษา หรือตัวอาจารย์ลงจากเดิมหรือไม่ เพราะตอนบุคคลเหล่านี้ลุกขึ้นมาทำเรื่องนี้ เกิดความเห็นต่าง มีความขัดแย้งทางความคิดในวงกว้าง พอผลเป็นเช่นนี้ ต่อไปคณาจารย์เหล่านี้จะไปปฏิบัติหน้าที่ทางวิชาการ จะดำเนินการทางการศึกษากับนิสิต นักศึกษาอย่างไร จะไปสอนนิสิต นักศึกษาให้เขียนคำร้องต่อศาลกันแบบนี้อีกหรือไม่ และเชื่อว่าเมื่อผลเป็นเช่นนี้ก็คงไม่หยุด เพราะหลายครั้งพอเรื่องเก่าเงียบไป เดี๋ยวก็หาเรื่องใหม่ เปลี่ยนตัวเล่นมากล่าวหารัฐบาลอีก ทั้งที่ปัญหาการทุจริตในนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลนั้นชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าไม่มีการทุจริตในเชิงนโยบายแน่นอน
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมารัฐบาลลงไปตรวจสอบในทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด มีการเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดกับผู้บังคับการตำรวจภูธรแต่ละจังหวัด ทำงานบูรณาการร่วมกันตลอดเวลาเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็สะท้อนผ่านโพลมาแล้วว่าเป็นนโยบายที่ดีที่ช่วยแก้ปัญหาด้านรายได้ให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น ชาวนาได้ประโยชน์เต็มๆ ซึ่งในช่วงเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนก็ต้องมีปัญหาทางเทคนิคบ้าง ซึ่งก็ต้องนำไปปรับแก้ในขั้นตอนรายละเอียด ยืนยันว่ารัฐบาลทำเต็มที่ทั้งด้านการป้องกัน และการตรวจสอบ โดยเกษตรกรต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง คณะผู้ก่อการที่ยื่นขอให้ศาลใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อยับยั้งการจำนำข้าวของรัฐบาลทั้งหลาย จะรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือขอโทษชาวนาจากกรณีที่เกือบจะเป็นผู้เสียประโยชน์ในครั้งนี้อย่างไร
