ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเอกฉันท์ 389 เสียงรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน วาระที่ 1 หลังค้างในสภามานาน ไม่มีผู้ว่าฯ สตง.ตัวจริง เตรียมตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณากำหนดแปรญัตติ 7 วัน
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ในวาระ 1 โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) 7 คน แบ่งเป็นผู้ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ด้านการบัญชี ด้านการตรวจสอบภายใน และด้านการเงินการคลัง ด้านละ 1 คน, ผู้ชำนาญและประสบการณ์ด้านนิติศาสตร์ จำนวน 2 คน และผู้ที่ชำนาญและประสบการณ์ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านรัฐศาสตร์ ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือด้านอื่นที่เป็นประโยชน์แก่งานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน 2 คน
ส่วนกระบวนการสรรหามาจากคณะกรรมการสรรหา 7 คน ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา, ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, ประธานศาลปกครองสูงสุด, ประธานสภาผู้แทนราษฎร, ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, บุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือก จำนวน 1 คน และ บุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดคัดเลือก จำนวน 1 คน
อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ค้างในชั้นการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวลานาน ทำให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่มีผู้ว่าฯ สตง.ตัวจริงนับตั้งแต่คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้พ้นจากตำแหน่งก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปีเนื่องจากการสรรหาผู้ว่าฯ สตง.จะต้องผ่านการพิจารณาของ คตง.ด้วย ส่งผลให้นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าฯสตง.ต้องทำหน้าที่รักษาการณ์แทนชั่วคราวไปก่อนจนกว่าจะมีผู้ว่าฯ สตง.คนใหม่
หลังจากสมาชิกได้อภิปรายแสดงความเห็น ที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์ 389 เสียงรับหลักการในวาระที่ 1 พร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาจำนวน 389 คนกำหนดแปรญัตติ 7 วัน