ASTVผู้จัดการ - ครูสาวโพสต์คลิปชี้แจงกรณีถามดารุณีกลางห้าง “ด่าในหลวงทำไม” ยืนยันไม่ได้หนี แค่มาทำงานที่เกาหลี โดยจะกลับไปรับข้อกล่าวหาในอีก 2 เดือน ยืนยันไม่ได้ทำผิดและทำไปด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นสีไหน และไม่มีพวก ยันต้องออกมาแจงเพราะกลัวเกิดความรุนแรงอีก กลัวแม่-น้องได้รับผลกระทบ แต่ไม่กลัวในสิ่งที่ได้ทำลงไป ขอโทษที่เป็นสาเหตุความขัดแย้ง
แสดง FLASH VIDEO (ขนาดใหญ่จอ 550 pixel)
วันนี้ (10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2555 ได้มีผู้โพสต์คลิปวิดีโอ น.ส.มนัสนันท์ หนูดำ อดีตครูโรงเรียนนานาชาติ เดินเข้าไปถาม นางดารุณี กฤตบุญญาลัย แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2553 ที่หลบหนีออกนอกประเทศหลังเหตุการณ์เสื้อแดงเผาเมืองในเดือน พ.ค. 2553 ว่า “ด่าในหลวงทำไม?” ในห้างสรรพสินค้าดังกลางกรุง ต่อมาในวันที่ 25 ก.ย. 2555 หลังจากที่กองปราบปรามได้ออกหมายเรียกครูสาววัย 31 ปีให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยมีกลุ่มพันธมิตรฯ และแนวร่วมจำนวนหนึ่งไปให้กำลังใจ ทว่า กลับมีคนเสื้อแดงเดินทางไปก่อกวนจนทำให้เกิดการปะทะกันนั้น ล่าสุด ครูสาวได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวผ่านคลิปที่โพสต์ลงในเว็บไซต์ยูทิวบ์แล้ว
สำหรับคลิปวิดีโอดังกล่าว ถูกโพสต์โดยผู้ที่ใช้ชื่อบัญชีว่า Honest Ladyland ลงวันที่วานนี้ (9 ต.ค.) เป็นคลิปที่ใช้ชื่อว่า “ชี้แจงโต้กรณีด่าดารุณีกลางห้าง” มีความยาว 3.25 นาที โดย น.ส.มนัสนันท์ระบุ ตนไม่คิดว่าสิ่งที่ตนทำจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตและลุกลามไปขนาดนี้ โดยปัจจุบันตนเองเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้หนีการรับทราบข้อกล่าวหา และจะกลับมารับทราบข้อกล่าวหาแน่นอนในอีก 2 เดือนข้างหน้า
ส่วนกรณีวันเกิดเหตุ เธอระบุว่า รับทราบข่าวสารจากทางเว็บไซต์ต่างๆ และได้ยินว่านางดารุณีและพวกชอบกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่างๆ นานา แม้จะไม่ได้เป็นการพูดถึงโดยตรง แต่ผู้ที่มีการศึกษาโดยปกติก็ทราบดีว่า สิ่งที่นางดารุณีและพวกกล่าวถึงนั้นหมายถึงใคร ด้วยเหตุนี้ในวันเกิดเหตุเมื่อตนเองบังเอิญไปเจอ นางดารุณีจึงเดินเข้าไปถาม แต่เนื่องด้วยธรรมชาติของตนเองที่มีเสียงค่อนข้างดังและด้วยอารมณ์ในวันนั้นจึงทำให้ดูรุนแรง
“เมื่อหนูได้เจอคุณดารุณีที่ห้างแห่งหนึ่ง หนูเกิดอารมณ์ หนูเลยเดินเข้าไปถามเธอว่า “ว่าในหลวงทำไม?” แต่เนื่องจากว่าหนูเป็นคนที่เสียงดัง และก็อารมณ์ในวันนั้นมันเลยทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างเลยดูรุนแรง หนูไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์ที่หนูทำในวันนั้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่หนูกลัวที่สุดก็คือ แม่ น้องของหนูจะเดือดร้อน หนูไม่อยากให้เขาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้” ครูสาวระบุ พร้อมทั้งยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นสีใด ไม่มีพรรคพวก และไม่มีกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม เธอกลับยืนยันว่า สิ่งที่เธอกระทำไปในวันนั้นเป็นการกระทำโดยบริสุทธิ์ใจ และไม่กลัวในสิ่งที่ตัวเองทำ ทว่า สาเหตุที่ต้องออกมาชี้แจงเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างกรณีเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่หน้ากองปราบฯ อีก ทั้งกล่าวขอบคุณคนที่ให้กำลังใจ และขอโทษที่เป็นสาเหตุของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
“แล้วก็อยากจะฝากถึงคนไทยทุกคนที่มีความจงรักภักดีในหลวง ขอให้คุณแสดงความรักออกมาโดยไม่มีสีเสื้อ ไม่มีพวก ไม่มีกลุ่ม แสดงความรักที่บริสุทธิ์เถอะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” ครูสาวกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ คำชี้แจงผ่านสื่อของ น.ส.มนัสนันท์ทั้งหมดมีดังนี้
“สวัสดีค่ะ มนัสนันท์ หนูดำค่ะ หนูดูข่าวจากทางเว็บไซต์ หนูตกใจและกลัวมาก เพราะไม่คิดว่าเรื่องจะลุกลามใหญ่โตได้ขนาดนี้ ตัวหนูเองไม่ได้หนีไปไหน หนูออกจากทางโรงเรียนต้นเดือนสิงหาคม เพราะหนูได้งานที่ประเทศเกาหลี รายได้ดีกว่า หนูเลยตัดสินใจเดินทางมาทำงานที่นี่ เพราะหนูจะได้มีเงินดูแลครอบครัว
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หนูไม่เคยคิดว่าจะทำให้ตัวเองเด่นดัง หรือจะเป็นวีรสตรี สร้างชื่อเสียงใดๆ ก็ตาม หนูทำเพราะหนูเป็นคนไทยคนนึง ที่มีความรักในหลวง หนูไม่มีสีเสื้อ ไม่มีพวก ไม่มีกลุ่ม หนูทำเพราะใจบริสุทธิ์เพราะหนูรักในหลวง เรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณดารุณี หนูไม่เคยรู้จักเธอเป็นการส่วนตัว แต่หนูติดตามข่าวจากทางเว็บไซต์ต่างๆ ได้ยินว่าคุณดารุณีและพวกชอบว่าในหลวงต่างๆ นาๆ ถึงแม้จะไม่ได้ใช้คำพูดว่าโดยตรงเหมือนใครก็ตามแต่คนที่มีการศึกษาฟังก็รู้ว่าหมายถึงใคร ตัวหนูเองฟังหนูก็รู้ว่าหมายถึงใคร ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงเอย คำพูดเปรียบเปรย คำเปรียบเทียบต่างๆ
“เมื่อหนูได้เจอคุณดารุณีที่ห้างแห่งหนึ่ง หนูเกิดอารมณ์ หนูเลยเดินเข้าไปถามเธอว่า “ว่าในหลวงทำไม?” แต่เนื่องจากว่าหนูเป็นคนที่เสียงดัง และก็อารมณ์ในวันนั้นมันเลยทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างเลยดูรุนแรง หนูไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์ที่หนูทำในวันนั้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่หนูกลัวที่สุดก็คือ แม่ น้องของหนูจะเดือดร้อน หนูไม่อยากให้เขาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
แล้วก็หนูก็อยากจะฝากขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้กำลังใจ คอยให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม หนูขอขอบคุณด้วยความจริงใจ แต่หนูอยากจะบอกเลยว่า หนูไม่เคยกลัวในสิ่งที่หนูทำเพราะหนูไม่ได้ทำอะไรผิด หนูแค่กลัวว่า สิ่งที่หนูทำจะทำให้คนไทยต้องมาตีกัน มาทะเลาะกัน เหมือนเหตุการณ์ที่หน้ากองปราบฯ วันที่ 25 (กันยายน 2555) หนูไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นอีก
หนูต้องขอโทษที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง หนูหวังว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับใคร มันเป็นเรื่องของหนูเพียงคนเดียว แล้วหนูอยากจะฝากเรื่องนี้ถึงคุณตำรวจว่า หนูขอเวลาให้หนูได้หมดสัญญาการทำงาน อีกสองเดือนหนูจะกลับไปรับข้อกล่าวหา
แล้วก็อยากจะฝากถึงคนไทยทุกคนที่มีความจงรักภักดีในหลวง ขอให้คุณแสดงความรักออกมาโดยไม่มีสีเสื้อ ไม่มีพวก ไม่มีกลุ่ม แสดงความรักที่บริสุทธิ์เถอะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”