เสื้อแดงจัดม็อบเผชิญหน้ากลุ่มให้กำลังใจครูสาวสู้คดีหมิ่น “เจ๊ดา” หน้ากองปราบฯ จนเกิดเหตุกระทบกระทั่ง รถวิทยุเสื้อแดงลำลูกกาถูกปากระจกพัง ขณะสาวเสื้อแดงหัวแตก 1 ราย ด้านหนุ่มใหญ่ฝ่ายให้กำลังใจครูสาวถูกตีท้ายทอยเลือดอาบ แถมถูก ตร.ค้นอ้างสงสัยพกอาวุธ สุดท้ายไม่พบอะไร ฝ่ายแดงไม่ยอมจบ ขนพวกรุมทำร้ายฝ่ายหนุนครูสาว บาดเจ็บเพิ่มอีก 3 ราย สุดถ่อย! ต่อยนักข่าวแล้วหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้ากองปราบปราม ถนนพหลโยธิน เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (25 ก.ย.) ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มที่มาให้กำลังใจครูสาวที่ไปถามนางดารณี กฤตบุญญาลัย หรือเจ๊ดา อายุ 63 ปี ไฮโซนักธุรกิจ และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กลางห้างสยามพารากอน หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาคดีหมิ่นประมาทด้วยการป่าวประกาศในวันนี้
ขณะเดียวกันได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 100 คนทยอยมาด้านหน้ากองปราบปรามโดยได้เขียนป้ายโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาให้กำลังใจครูสาว กระทั่งมีการด่าทอและขว้างขวดน้ำดื่มใส่กันซึ่งทำให้รถติดอย่างหนัก ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณด้านในต่างทยอยออกมาหลังครูสาวคนดังกล่าวเลื่อนมารับทราบข้อกล่าวหา เมื่อมาสมทบกับกลุ่มที่อยู่ด้านหน้ากว่า 500 คน สถานการณ์ยิ่งวุ่นวายขึ้นมีการด่าทอกันไปมาและหวิดที่จะลงไม้ลงมือกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดประมาณ 50 นายพร้อมโล่เข้ามาระงับเหตุและแยกคนทั้งสองกลุ่มออกจากกัน โดยให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปอยู่ภายในรั้วกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พร้อมทั้งขอร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่มหยุดการยั่วยุกันไปมา กระทั่งผ่านไปชั่วโมงครึ่งทั้งสองฝ่ายต่างทยอยกลับกันออกไป
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นอีกเมื่อรถขยายเสียงของวิทยุชุมชนคนเสื้อแดง ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จำนวน 1 คัน ได้ขับมาบริเวณที่กลุ่มผู้ให้กำลังใจครูสาวทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังทยอยกลับไม่พอใจเกิดการขว้างก้อนหินจนทำให้รถขยายเสียงกระจกหน้าแตก นอกจากนี้ น.ส.วิศรแดง ไตรสุวรรณ อายุ 35 ปี กลุ่มคนเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ส่วนนายชัชชัย สุธีโสณ อายุ 48 ปี กลุ่มผู้ให้กำลังใจครูสาวได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเพื่อตรวจค้นเนื่องจากต้องสงสัยว่าจะพกพาอาวุธมานุมนุม ระหว่างนั้นก็เกิดชุลมุนวุ่นวายขึ้นโดยนายชัชชัยถูกตีด้วยไม้เข้าที่ท้ายทอยจนแตก อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
จากนั้นเมื่อเวลา 12.30 น. สถานการณ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้งเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยกันมาหลายร้อยคนโดยมารวมตัวอยู่ที่หน้าอาคารรสา ฝั่งตรงข้ามกองปราบปรามได้กรูข้ามฝั่งตรงเข้ามาทำร้ายกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตอาจารย์โรงเรียนนานาชาติที่มีจำนวนน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากทยอยกลับบ้านไปแล้วบางส่วน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน ตำรวจปราบจราจล บก.น.2 จำนวน 150 นายต้องรีบเข้ามาระงับเหตุและแยกทั้งสองกลุ่มออกจากกัน
แต่เหตุการณ์ยังไม่ทันได้คลี่คลายดีก็เกิดการปะทะกันอีกระลอก เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ใกล้ๆ โรงเรียนหอวังซึ่งเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มใหญ่ได้บุกเข้ามาทำร้ายกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตอาจารย์โรงเรียนนานาชาติที่รอรถตู้มารับออกจากพื้นที่บริเวณหน้าศูนย์รถยนต์ฮอนด้าทำให้มีคนเจ็บอีก 1 คน รวมแล้วจากทั้งสองเหตุการณ์มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน ตำรวจต้องรีบนำรถกระบะและรถตู้มาเพิ่มเพื่อนำกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตอาจารย์นานาชาติออกจากพื้นที่ ซึ่งขณะนี้สามารถนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนอดีตอาจารย์โรงเรียนนานาชาติออกจากพื้นที่ได้หมดแล้ว ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงที่รวมตัวกันอยู่ฝั่งข้ามซึ่งมีจำนวนมากเป็นหลักหลายร้อยคนนั้นตำรวจต้องกันให้อยู่รวมกันที่หน้าอาคารรสา จากนั้นตำรวจ บก.ป.ได้นำกลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ภายใน บก.ป. ออกมาสมทบจากนั้นได้ขอความร่วมมือให้แยกย้ายกันกลับไปทำให้สถานการณ์ทั้งหมดคลี่คลายลงไปได้
ด้าน นายเผด็จโชค อภิสิทธิ์นิรันดร์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่ไปรายงานข่าวเหตุการณ์ปะทะกันของผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่มที่ด้านหน้ากองปราบปราม กล่าวว่า ระหว่างที่เกิดการชุลมุนของกลุ่มคนทั้งสองกลุ่ม ตนได้พยายามหนีออกห่างจากจุดที่เกิดการปะทะกันแล้ว แต่ปรากฎว่ามีชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดงได้ปรี่เข้าหาแล้วถามว่าเป็นพวกเสื้อเหลืองหรือเปล่า โดยที่ตนยังไม่ไม่ทันได้ตอบ ชายคนดังกล่าวก็ตรงเข้าล็อคคอแล้วต่อยเข้าที่ศีรษะหนึ่งครั้งโดยไม่ฟังเสียง แต่หลังจากต่อยไปแล้วก็มีคนที่ไม่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ตะโกนบอกว่าเป็นผู้สื่อข่าว ชายคนดังกล่าวก็รีบขอโทษแล้ววิ่งหนีไปทันที
