“ศรัณยู” สุดงง! ถูกแดงปล่อยข่าวโผล่ขย่มรถที่กองปราบฯ ยันอยู่ที่ทำงานทั้งวัน รับตกใจถูกอ้าง สุดหดหู่ ถามวิทยุชุมชนมั่วข่าวมีมาตรการตรวจสอบยังไง ชี้เรื่องใหญ่ หวั่นเกิดเหตุเกินกว่าคาดคิด เชื่อมีเบื้องหลังป่วนหวังให้วุ่นวาย อย่างนี้สังคมจะอยู่กันยังไง ห่วงนองเลือดครั้งใหญ่ จวก “สุกำพล” พูดเรื่องเล็ก ซัดตำรวจปล่อยบานปลายแล้วจะไปดูแลใครได้
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการสภากาแฟ สภาประชาชน ถึงกรณีที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงปล่อยกระแสข่าวโจมตีว่ามีส่วนร่วมในการชุมนุมของกลุ่มประชาชนที่กองปราบปรามวานนี้ (25 ก.ย.) ว่า ตนรู้เรื่องเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ภรรยาได้โทรศัพท์มาบอก ซึ่งเมื่อวานเป็นวันเกิดมารดา ตนตั้งใจจะพาไปกินข้าว แล้วก็อยู่ที่ทำงานทั้งวัน พอรู้ว่ามีคนปล่อยข่าวก็ไม่รู้จะทำยังไง พอตอนเย็นตามข่าวอีกครั้งพบว่ามีเหตุการณ์รุนแรงตกใจมาก ตนบอกไม่ถูก หดหู่ใจกับสภาพบ้านเมืองที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ตนได้เห็นภาพบุคคลซึ่งถูกกล่าวอ้างว่าเป็นตนบนรถ นปช.แล้ว โดยตนไม่ทราบว่าเป็นคนกลุ่มไหน จึงคาดว่าเป็นการนำไปสู่ปล่อยข่าวว่าเป็นตน ซึ่งจริงๆ แล้วประเด็นไม่ได้อยู่จะเป็นตนหรือเป็นใคร แต่ในสถานการณ์แบบนี้การกระจายข่าวในวิทยุชุมชนมันมาตรการในการให้ความเป็นจริงตรวจสอบกันได้ยังไง ถ้าตรวจสอบไม่ได้ ทำกันแบบนี้ก็อาจจะเกิดอะไรได้หลายอย่าง เกิดอะไรได้มากมายหลายอย่างกว่าที่จะคาดคิด คิดว่าตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ ส่วนตัวก็มีอารมณ์ร่วมให้กำลังใจกับพี่น้องที่ไปร่วมให้กำลังใจอดีตครูสาวที่ถูกนางดารุณี กฤตบุญญาลัยฟ้อง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าอย่างที่เราเห็นมันมีอะไรเบื้องหลัง ถูกจัดวางให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่น่าคำนึงไปหลายๆ อย่าง
“แล้วไอ้ประเด็นที่เห็นคนผิดแล้วคิดว่าเป็นผมมันก็เลยเป็นประเด็นเป็นจุดเล็กๆ ที่เกิดขึ้น แต่พอแยกแยะแล้วมันทำให้รู้สึกว่าสังคมทุกวันนี้มันจะอยู่กันยังไง มันไม่รู้ว่าจะจัดแจงกันยังไง มาตรฐานทางสังคม ความถูกต้องในทุกๆ มุม ในทุกๆ จุดที่เกิดขึ้นในสังคมมันเอามาตรวัดตรงไหน ในขณะที่คนที่มีอำนาจหน้าที่ระดับรัฐมนตรียังบอกว่านี่เป็นเรื่องเล็ก พอพูดถึงจริยธรรมของคนเป็นรองนายกฯ ยังมีการถามว่าจริยธรรมของคนฝ่ายไหน ยังมีการแบ่งแยกอะไรกันขนาดนี้ มันไม่รู้บ้านเมืองมันจะอยู่กันยังไง มันน่ากังวลต่อไปว่ามันจะนำพาไปสู่การนองเลือดครั้งใหญ่อย่างที่ไม่น่าจะมีใครอยากให้เกิด” นายศรัณยูกล่าว
ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงตามมาชุมนุมที่กองปราบฯ นั้น นายศรัณยูกล่าวว่า ถ้าเราคิดแบบมีเหตุผลแล้วจะพบว่ามันเป็นเหตุผลของการไม่มีเหตุผล มันคือความตั้งใจที่จะให้เกิดความวุ่นวายเพราะมันหาเหตุผลอื่นไม่เจอ ไม่รู้ว่าเขาจะมากันทำไม ไม่เห็นประโยชน์ในมุมของเขาที่จะมาให้กำลังใจใครเพราะคนที่เขาสนับสนุนก็ไม่ได้มาไม่ได้เกี่ยวกับกรณีในวันนี้ และการที่เอาเครื่องเสียง เอาคนมาขนาดนั้นมันก็ให้เห็นเจตนาที่ชัดๆ ว่ามันไม่ใช่เจตนาบริสุทธิ์ใจที่จะมาแสดงความรู้สึกอย่างสงบ มันไม่ใช่ ตรงนี้มันก็เลยลุกลาม เลยไปถึงบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงาน เหตุเกิดที่หน้าบ้านของท่านแล้วท่านปล่อยให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วจะไปดูแลใครอะไรได้ มันก็เลย รู้สึกหดหู่ แล้วก็รู้สึกย่ำแย่กับสังคมทุกวันนี้จริงๆ ผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย ไม่ปฏิบัติอะไรที่มันเป็นมาตรฐานที่ถูกต้องของสังคมเลยแล้วประชาชนจะอยู่กันยังไง แล้วก็ไม่เคยจับใครได้เลย ก็คงจะมีเจตนาไม่อยากจับใคร ซึ่งถ้าลงไปในหลายละเอียดก็จะเห็นว่ามีเรื่องอย่างนี้มากมาย
“นี่ยังไม่รวมภาพที่เห็นในคลิปที่มีบุคคลแต่งกายเหมือนตำรวจครึ่งท่อนที่ไปรุมตีประชาชนด้วยนี่มันเกินไปแล้ว แล้วต่อไปคนที่เขามีความรู้สึกแล้วเขาต้องอยู่ในสังคมนี้แล้วเขาจะอยู่กันยังไง ต้องมีอาวุธติดตัวเพื่อป้องกันตัวอย่างนั้นหรือ มันไม่ไหว ในขณะที่มุมกลับกัน คนที่มีอำนาจหน้าที่ตรงนี้ไปทำในสิ่งที่มันไม่เข้าท่า อย่างบางกรณียกตำรวจทั้งกองร้อยไปล้อมบ้านเขา ไปแสดงทัศนะว่าเป็นเรื่องเล็ก ไปใส่ใจในการไปดูรถสูตร 1 แล้วมองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก เป็นสีสัน แล้วไม่ใส่ใจกับความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ไหว” นายศรัณยูกล่าว
นายศรัณยูกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงไปชุมนุมก่อกวนหน้าสถานที่จัดงานของกลุ่มพันธมิตรปะชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 23 ก.ย.นั้น ตนเห็นว่านั่นก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าปัญหาส่วนใหญ่มาจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ดูแลอย่างที่ควรจะเป็นเพื่อไม่ให้เกิดความสงบแก่สังคม แก่ประชาชน ถ้าเป็นแบบนี้มันลำบากสำหรับคนที่ต้องใช้ชีวิต มันทำให้ทุกวันนี้คนซึ่งเจตนาบริสุทธิ์มีความคิดอ่านที่ดีต่อสังคมและบ้านเมืองและสถาบันมันถูกบีบให้จนตรอกมากขึ้น เรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่ ถ้าเผื่อผู้บริหารแสดงเจตนารมณ์ที่จะออกแบบมันสังคมเป็นแบบนี้มันก็มองได้ว่าจะทำให้สังคมมันวุ่นวายถึงขนาดใหญ่หลวงเพื่อนำไปสู่อะไรที่เขาต้องการอย่างนั้นหรือ ตนว่าน่าเป็นห่วงกังวลและอันตรายมาก