ครม.อนุมัติ พ.ร.ฎ.การได้เงินประจำตำแหน่งข้าราชการตำรวจ แต่งตั้งข้าราชการและพลเรือน หลังการการประชุม ครม.วันที่ 9 ต.ค.นี้ เห็นชอบกฎหมายเพิ่มมาตรการปราบปรามคนค้ายาเสพติด แผนคุ้มครองสมุนไพร-เสริมสร้างสุขภาพ และแบ่งงาน รมต.ลงพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ชุมพร-สุราษฎร์ฯ-เมืองคอน-พัทลุง ในการประชุม ครม.สัญจรที่เกาะสมุย
วันนี้ (9 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ พ.ศ.... ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอ โดยสาระสำคัญ คือ กำหนดประเภทตำแหน่งและการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ เพื่อให้การได้รับเงินประจำตำแหน่งของตำรวจ เป็นไปตามมาตรา 67 วรรคสามของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554
โดยมาตราดังกล่าวบัญญัติว่า ข้าราชการตำรวจตำแหน่งใดจะได้รับเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชบัญญัตินี้ในอัตราใดให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 6 บัญญัติว่า ในระหว่างที่ยังมิได้ตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 67 วรรค 3 ดังกล่าว ให้นำพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับเงินประจำตำแหน่งที่ออกตาม พ.ร.บ.เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538 มาบังคับใช้กับการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจโดยอนุโลม
ขณะเดียวกัน ครม.เห็นชอบให้แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนประเภทสามัญระดับสูงในกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ดังนี้ 1. ย้ายนายวิจารณ์ สิมาฉายา เลขาธิการ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. ย้ายนายสันติ บุญประคับ ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
3. ย้ายนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมป่าไม้ 4. ย้ายนายนพพล ศรีสุข ข้าราชการพลเรือนสามัญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 5. ย้ายนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทรัพยากรน้ำ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 6. ย้ายนายนิทัศน์ ภู่วัฒนกุล อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทรัพยากรธรณี ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทรัพยากรน้ำ 7. ย้ายนายปราณีต ร้อยบาง อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทรัพยากร
ต่อมาในส่วนของกระทรวงแรงงานได้อนุมัติแต่งตั้งให้ นางปราณิน มุตตาหารัช ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
กระทรวงพลังงานได้แต่งตั้งให้ 1.นายชวลิต พิชาลัย รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน 2) นางพูนทรัพย์ สกุณี รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมธุรกิจพลังงานกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงพลังงาน
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 11 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ 1. นายศุภกร วงศ์ปราชญ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 2. นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง3. นายพินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 4.นางสาวจิรพรรณ ปุณเกษม รองเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
5. นายพิษณุ ตุลสุข รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 6. นายกิตติรัตน์ มังคละคีรี ที่ปรึกษาด้านระบบการศึกษา (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 7. นางรัตนา ศรีเหรัญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง 8. นางสาวจุไรรัตน์ แสงบุญนำ รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
9. นางสุทธศรี วงษ์สมาน ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 10. นายกมล รอดคล้าย ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 11. นางสาวอาภรณ์ แก่นวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ในส่วนของดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ มีดังนี้ 1. นายกมล ศิริบรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 2. นายธวัช ชลารักษ์ รองเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 3. นายโรจนะ กฤษเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 4. นายวัชรินทร์ จำปี รองเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
ด้านกระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งนายทรงยศ ชัยชนะ สาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์) ประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ประเภทบริหารระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายอำนวย กาจีนะ นายแพทย์ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) ประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ประเภทบริหาร ระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ด้านบุคลากรและข้าราชการทางการเมืองให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ และแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ และแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ จำนวน 12 ราย ดังนี้ 1.พลตำรวจโท ฉลอง สนใจ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย 2. นายสุรชัย เบ้าจรรยา เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข 3. นายปรีชา ธนานันท์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม 4. นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน 5.นายวิสา คัญทัพ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน
6. นางฉวีวรรณ คลังแสงเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ 7. นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 8. นายวิชัย เทียนถาวร เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข 9. นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 10. นายเอนก หุตังคบดี เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 11. นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย 12. นายสมบัติ คุรุพันธ์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งรายที่ 1 ถึงรายที่ 7 ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี วันที่ 7 กันยายน 2555 รายที่ 8 ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี วันที่ 19 กันยายน 2555 รายที่ 9 ถึงรายที่ 10 ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี วันที่ 20 กันยายน 2555 และรายที่ 11 ถึงรายที่ 12 ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี วันที่ 4 ตุลาคม 2555
พร้อมกันนี้แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีใหม่ จำนวน 4 ราย ดังนี้ 1) นายธนะ ดวงรัตน์ 2) นายธานี ยี่สาร3) นายสุวัฒน์ ตันพิพัฒน์ 4) นายดิฐ อัศวพลังพรหม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประเทศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป
อีกด้านหนึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด(ฉบับที่...) พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยกระทรวงยุติธรรมแจ้งว่า พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มีบทบัญญัติบางประการไม่เอื้ออำนวยต่อการปราบปรามองค์กรค้ายาเสพติด และการดำเนินการทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงสมควรปรับปรุงพระราชบัญญัติดังกล่าว เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน โดยแก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่มเติม กำหนดหลักเกณฑ์การนำทรัพย์สินของกลางมาใช้ประโยชน์หรือขายทอดตลาด รวมทั้งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและทรัพย์สินที่เป็นของกลางตกเป็นของกองทุนในกรณีที่ไม่อาจดำเนินคดีต่อไปได้
สาระสำคัญคือ ปรับปรุงบทกำหนดโทษกรณีความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและพนักงานเจ้าหน้าที่ กำหนดหลักเกณฑ์ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับความผิดยาเสพติดทั้งก่อนและหลัง ตามที่คณะกรรมการหรือเลขาธิการมีคำสั่งให้ตรวจสอบ และปรับปรุงระยะเวลาในการยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับความผิดยาเสพติด ตกเป็นของกองทุนและระยะเวลาในการยื่นคำร้องเพิ่มเติม เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการ ร่างแผนจัดการเพื่อคุ้มครองสมุนไพรในพื้นที่เขตอนุรักษ์ พ.ศ. 2556-2558 (แผนระยะสั้น) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ประกอบด้วยพื้นที่เขตอนุรักษ์ 5 แห่ง ได้แก่ 1. พื้นที่ป่าชุมชนทุ่งสูง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ 2. พื้นที่ป่าภูคำบก อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด 3. พื้นที่ป่าดอยม่อนฤา อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ 4. พื้นที่ป่าชุมชนขุนน้ำวอง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และ 5. พื้นที่ป่าแม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ เพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและบริเวณถิ่นของสมุนไพร ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของมนุษย์
นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2555-2559 โดยแผนฉบับนี้มีวิสัยทัศน์ คือ ประชาชนมีสุขภาพดี ร่วมสร้างระบบสุขภาพพอเพียง เป็นธรรม นำสู่สังคมสุขภาวะ โดยมีพันธกิจพัฒนาระบบสุขภาพพอเพียง ยึดหลักธรรมาภิบาล สร้างภูมิคุ้มกันต่อภัยคุกคาม และสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงการใช้ภูมิปัญญาไทย โดยมียุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพ กำหนดไว้5ยุทธศาสตร์ ดังนี้ 1. เสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคีสุขภาพในการสร้างสุขภาพ ตลอดจนการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพบนพื้นฐานภูมิปัญญาไทย 2. พัฒนาระบบเฝ้าระวังเตือนภัย และการจัดการภัยพิบัติ อุบัติเหตุและภัยสุขภาพ 3. มุ่งเน้นส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน ควบคุมโรค และคุ้มครองผู้บริโภค 4. เสริมสร้างระบบบริการสุขภาพให้มีมาตรฐานในทุกระดับ 5. สร้างกลไกกลางระดับชาติในการระบบสุขภาพ และพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ
ส่วนรายงานความก้าวหน้าในการแจ้งความประสงค์การลงพื้นที่ของ ครม. ที่จะไปประชุมนอกสถานที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้นำเสนอโครงการให้ ครม.ได้ลงพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย จำนวน 4 จังหวัด คือ จ.สุราษฎร์ธานี จ.ชุมพร จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง โดยที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง ลงไปดูโครงการศึกษาความเป็นไปได้ และการสำรวจออกแบบเบื้องต้น ท่าอากาศยานนานาชาติดอนสัก นอกจากนี้ มีโครงการปรับปรุงทางหลวงย่านชุมชน การปรับปรุงสภาพแวดล้อมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่ดูแลโดย นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ส่วน นายศักดา คงเพชร รมช.ศึกษาธิการ ก็จะไปดูโครงการอาชีวะศึกษาชุมพร เชิงบูรณาการสู่ประชาคมอาเซียน นอกจากนี้ ที่ อ.เกาะสมุย ก็จะมีโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ท่องเที่ยว โดย นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ และนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เข้าไปดูแล เป็นต้น
