xs
xsm
sm
md
lg

จำนำข้าว-สารพัดประชานิยมถอยไม่ได้ต้องฉิบหายกันไปข้าง!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

จำนำข้าวเกวียนละ 15,000 บาท ค่าแรงวันละ 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรีเดือนละ 15,000 บาท โครงการบ้านหลังแรก รถคันแรก ฯลฯ

สารพัดประชานิยมของพรรคเพื่อไทยในนาม “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ที่ประกาศเอาไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งกำลังถูกนำมาใช้หลังจากที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งกลายเป็นรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้ว่านโยบายประชานิยมดังกล่าวกำลังมีปัญหาก็ตาม บางนโยบายปฏิบัติได้ไม่เต็มร้อย เพราะมีปัญหาในเรื่องงบประมาณ มีปัญหากับภาคเอกชน แต่ในเมื่อเป็นนโยบายหลักที่ได้ประกาศเอาไว้ ก็ต้องเดินหน้าถอยไม่ได้เป็นอันขาด

เพราะถ้าถอยนั่นเท่ากับว่าตัวเอง “ล้มเหลว” ดังนั้นสำหรับพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลแน่นอนว่าต้องดันทุรังต่อไป ไม่สนแม้ว่าจะฉิบหายคามือก็ตาม

ดังนั้นเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนและยกเลิกนโยบายประชานิยมหลักๆ ในเวลานี้ เป็นเรื่องที่เสียเวลาเปล่า เพราะพวกเขาไม่ฟังอย่างแน่นอน และกำลังถูกทำให้เป็นเรื่องการเมืองไปเสียอีก

สำหรับนโยบายประชานิยมหลักๆ ของรัฐบาลที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักว่ากำลังจะสร้างความฉิบหายกับบ้านเมืองในอนาคต ทำลายตลาดค้าข้าว ก่อหนี้สาธารณะมหาศาล เกิดการทุจริต และที่สำคัญไม่ได้ก่อประโยชน์ให้กับชาวนาในระยะยาวก็ คือนโยบายจำนำข้าว เพราะจากตัวเลขที่ออกมาจากผลวิจัยขององค์กรต่างๆ ล้วนออกมาตรงกันว่าทำให้รัฐต้องขาดทุน เสียงบประมาณไปแล้วกว่าแสนล้านบาท เพียงแค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้น

หากรัฐบาลยังไม่ยอมถอยเปิดรับจำนำข้าวทุกเมล็ดเหมือนกับปีที่แล้ว ยอดขาดทุนจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไหร่ ลองหลับตานึกภาพเอาเอง

อย่างไรก็ดี การคัดค้านเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนั้นก็ต้องเดินหน้าคู่ขนานกันไป โดยเฉพาะกรณีของคณาจารย์จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และธรรมศาสตร์ รวมไปถึงนักวิชาการจากสถาบันอื่นๆโดยร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความนโยบายดังกล่าว ว่าเป็นการทำลายระบบการค้าเสรี เป็นการผูกขาดเป็นการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน

แต่สิ่งที่น่าจับตาก็คือ นอกจากรัฐบาลจะไม่ฟังเสียงคัดค้านแล้ว ยังมีความพยายามบิดเบือนให้เห็นอีกด้วยนั่นคือ การปลุกระดมทั้งชาวนาจริง ชาวนาเทียมให้ออกมาต่อต้าน โดยกล่าวหาว่าพวกที่ออกมาคัดค้านนั้น เป็นพวกที่ขัดขวางไม่ให้ชาวนามีรายได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันหากไปสอบถามชาวนาในพื้นที่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าพวกเขายังพอใจกับนโยบายดังกล่าวจริงๆ เพราะทำให้ข้าวมีราคาดี แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วชาวนาเหล่านั้นยังไม่ได้รับเงินเข้ากระเป๋ามานานกว่า 3 เดือนแล้วก็ตาม

สิ่งที่เห็นก็คือ มีความพยายามปลุกระดมให้ฝ่ายที่คัดค้านโครงการรับจำนำข้าวเป็น “ศัตรู” กับชาวนา บอกว่าเป็นการขัดขวางไม่ให้ชาวนาลืมตาอ้าปากไปแล้ว ทำท่าจะกลายเป็นว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลกำลังจะกลายเป็นขวัญใจของชาวนา กำลังสร้างผลสะเทือนทางการเมืองรอบใหม่ จะกลายเป็นว่าหากนโยบายจำนำข้าวต้องล้มไปก็เป็นเพราะถูกขัดขวางจากพวกไม่หวังดีพวกนี้แหละ หรือเลยเถิดไปถึงขั้นเป็นวิชามารของพวก “อำมาตย์” ไปเสียอีก

นี่ว่ากันเฉพาะโครงการจำนำข้าวเท่านั้น ยังไม่ต้องพูดถึงนโยบายปรับค่าแรงวันละ 300 บาท ที่กำลังจะบังคับใช้พร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งกรุงเทพมหานคร หรือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ต้องมีรายได้เท่ากันไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งมองดูเผินๆ เป็นเรื่องดีเพราะพี่น้องที่ใช้แรงงานจะมีรายได้เพิ่ม

แต่ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่า คนที่รับภาระที่แท้จริงคือผู้ประกอบการ และกล่าวไม่ผิดนักหากจะบอกว่าพรรคการเมืองหาเสียงได้หน้า ขณะที่ภาคเอกชนต้องจ่าย หากไม่พร้อม หรือไม่มีปัญญาจ่าย ก็จะกลายเป็นผู้ร้ายไม่ให้ความร่วมมือ เหมือนกับที่ได้ยินเสียงโวยวายมาจากผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบนก่อนหน้านี้ และกำลังเคลื่อนไหวคัดค้านในราวกลางเดือนนี้

หากพิจารณาจากโครงการประชานิยมสารพัดโครงการที่รัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้า เพราะมีการหาเสียงรับปากเอาไว้ แม้ว่าจะรับรู้กันว่ากำลังมีปัญหาทำไม่ได้จริง และไม่มีประโยชน์ ซึ่งที่ผ่านมาหลายประเทศที่เคยนำมาใช้ก่อน ทักษิณ ชินวัตร เช่น ที่ในอเมริกาใต้ ยังปั่นป่วนล้มละลายกันไม่จบสิ้นจนต้องยกเลิกกันไปตั้งนานแล้ว แต่ของไทยนาทีนี้ ก็ได้แต่กัดฟันมองดูความหายนะที่กำลังจะบังเกิดในอีกไม่นานข้างหน้า ประกอบกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่กำลังรุมเร้าเข้ามาในปีหน้า มันก็ยิ่งน่าเป็นห่วง แต่การไปขัดขวางขณะนี้ก็ถูกมองว่าเป็นศัตรูกับคนจน กลายเป็นพวกอำมาตย์ไม่หวังดี

แต่ขณะเดียวกันก็ต้องชี้ให้เห็นความชัดเจนว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่นั้นกำลังนำไปสู่ความวิบัติ ต้องบันทึกเอาไว้ วันหน้าจะได้ดิ้นไม่ออก จะได้รุมกันกระทืบให้จมดินว่ามีใครบ้างที่เกี่ยวข้อง จะได้ไม่ผิดตัว!!
กำลังโหลดความคิดเห็น