“ชัชชาติ” เผย “เหลิม” ตั้งอนุฯ แก้จราจร กทม.แล้ว อ้างน้ำขังทำรถติดหนัก ยกสถิติรถเพิ่มแค่ 2 หมื่นคัน ยันรถคันแรกไม่ใช่ปัญหาหลัก
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีที่ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ดูแลแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบนท้องถนน และปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ กทม.ว่า เบื้องต้นรัฐบาลโดยคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้การมอบอำนาจให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการจราจรเร่งด่วนใน กทม. โดยให้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม เป็นประธาน ร่วมทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมทางพิเศษ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน รวมไปถึงให้มีหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินและ บก.02 มีมาตรการในการสั่งการข้ามหน่วยงานเพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและบูรณาการ คาดว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะเรียกประชุมสั่งการคณะกรรมการภายในสัปดาห์หน้าและคงจะได้มติข้อสรุปออกมาเพื่อที่จะได้เร่งดำเนินการต่อไป
นายชัชชาติ ล่าวต่อว่า ปัญหาน้ำท่วมขังถือเป็นปัญหาหนักที่สุด เพราะทำให้เกิดการจราจรติดขัด โดยในพื้นที่ กทม.จะมีจุดน้ำท่วมขังซ้ำซากอยู่ 6-7 จุด ตรงจุดนี้ต้องขอความร่วมมือจากทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อหาวิธีในการระบายน้ำและหาพื้นที่แก้มลิงข้างเคียง โดยจะต้องใช้เครื่องสูบน้ำจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือของกรมโยธาธิการทั้งหมด 40 เครื่องติดตั้งตามพื้นที่ต่างๆ ใน กทม. และจะต้องมีการประสานงานกับสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สอบช.) ในการพยากรณ์และวิเคราะห์สถานการอย่างละเอียดและจะแจ้งเตือนในทุกๆ 3 ชั่วโมงผ่านทางวิทยุ สวพ.91 และ จส.100 เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลทั่วถึงในระยะเวลาที่แน่นอน
รมช.คมนาคมกล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นที่มีผู้กล่าวหาว่าปัญหาการจราจรติดขัดเป็นเพราะโครงการรถคันแรกของรัฐบาลนั้นขอชี้แจงว่าปี 54 มีรถที่จดทะเทียน 414,000 คัน ส่วนปี 55 มีรถจดทะเบียน 430,000 คัน เพิ่มมา 20,000 คันจากปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นปัญหารถติดอาจจะมีเพียงบางส่วนที่เป็นเหตุจากกรณีโครงการรถคันแรกของรัฐบาล
“สาเหตุหลักของปัญหาน้ำท่วมขัง คือ เจ้าหน้าที่ยังทำงานกันไม่เต็มที่ ส่วนมาตราการให้หน่วยงานราชการเหลื่อมเวลาการเข้าทำงานในช่วง 07.00-09.00 น.ตามมติ ครม.สัปดาห์ก่อนนั้น ต้องพิจารณาก่อนนำเข้าที่ประชุม คจร.อีก 1 สัปดาห์ แต่ยืนยันว่าไม่มีนโยบายให้เข้าทำงานสายและออกงานเร็วอย่างแน่นอน หากจะเข้างานสายก็ต้องออกงานสายระยะเวลาในการทำงานต้องเท่าเดิม” นายชัชชาติกล่าว
นอกจากนี้ นายชัชชาติยังได้แจ้งด้วยว่า ล่าสุดได้มีพื้นผิวถนนยุบตัวบริเวณถนนงามวงศ์วานที่มาจากด้านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริเวณถนนขาเข้าโรงพยาบาลวิภาวดี จึงต้องเร่งดำเนินการแก้ไขด้วยการปิดถนนช่องริมซ้ายสุด จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนหากหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางสายดังกล่าวได้ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น เช่น ถนนแจ้งวัฒนะ หรือถนนลาดพร้าว