“สมบัติ” จวกสื่อเมินสะท้อนจริยธรรมการเมือง ชี้ อ.นิด้าร้องศาล รธน.เบรกจำนำข้าวเป็นสิทธิ

“อธิการบดีนิด้า” ไม่วิจารณ์ “ยงยุทธ” เชื่อคงตัดสินใจในความรับผิดชอบได้ จวกสื่อเฉยสะท้อนจริยธรรมทางการเมือง ชี้เสื้อสีต่างๆ เป็นความสวยงามอย่านำเป็นปฏิปักษ์ ปล่อยอาจารย์ในสังกัดร้องศาล รธน.ระงับจำนำข้าว บอกเป็นเสรีภาพทางวิชาการ ไม่ยุ่ง

วันนี้ (28 ก.ย.) ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ถูกคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ิกระทรวงมหาดไทย มีมติลงโทษไล่ออกจากราชการว่า เรื่องนี้ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะมีนักวิชาการออกมาให้ความเห็นหลายคนแล้ว หากตนพูดไปก็คงไม่มีอะไรแตกต่างกัน ทั้งนี้คิดว่าแต่ละคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองก็น่าจะสามารถตัดสินใจในเรื่องความรับผิดชอบทางการเมืองได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในกรณีนายยุงยุทธนั้นควรจะลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองก่อน เพื่อรอการคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดูจะสง่างามกว่าหรือไม่ นายสมบัติกล่าวว่า ระบบสังคมในประเทศไทย ประชาชนและสื่อมวลชนไม่ค่อยตระหนักถึงเรื่องจริยธรรมทางการเมือง โดยเฉพาะสื่อมวลชนน่าจะสะท้อนในเรื่องดังกล่าวให้มากกว่านี้ ตนเชื่อว่าหากเราช่วยกันส่งเสริมค่านิยมของจริยธรรมทางการเมืองก็จะทำให้คนที่คิดไม่ดีทำไม่ดี มีความละอายใจมากยิ่งขึ้น แต่หากสังคมยังให้ความชื่นชมเฉพาะคนที่มีเงินอยู่ คนเหล่านี้ก็จะไม่ใส่ใจเรื่องจริยธรรม

เมื่อถามว่า มองว่าประเทศไทยในขณะนี้ถึงจุดวิกฤติแล้วหรือไม่ นายสมบัติกล่าวว่า เรามีวิกฤตมานานแล้ว และสังคมก็ต้องปรับตัว หากปรับตัวไม่ได้ก็จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ และเชื่อว่าประเทศไทยเจอวิกฤติมาแล้วหลายครั้ง คงจะสามารถปรับตัวให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ทั้งนี้ มองว่าสีเสื้อต่างๆ เป็นความสวยงาม อย่านำมาเป็นปฏิปักษ์ทางการเมือง เนื่องจากมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม หากจะนำมาเป็นปัจจัยทำลายเอกภาพของคนในชาติ ซึ่งถือว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่ระบบประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะระบบประชาธิปไตยต้องเคารพทุกฝ่าย แต่หากมีเลือกฝักเลือกฝ่ายก็ถือว่าเป็นเผด็จการทั้ง 2 ฝ่าย

อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณาจารย์นิด้าร่วมกับอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักศึกษาร่วมกันล่ารายชื่อเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งยุติโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 43 และ 84 (1) ว่า เรื่องนี้ถือเป็นเสรีภาพทางวิชาการ ตนในฐานะอธิการบดีไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว หากบุคคลใดจะเคลื่อนไหวในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เราก็จะไม่ไปก้าวก่าย เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ และในอดีตเคยมีอธิการบดีบางคนเข้าไปยุ่งในเรื่องทำนองดังกล่าวนั้น ทำให้ถูกส่งพวงหรีดดำไปวางหน้าบ้านมาแล้ว อีกทั้งส่วนตัวไม่สามารถให้ความเห็นในเรื่องนี้ได้ เพราะได้สวมหัวโขนอธิบดี แต่หากเป็นนักวิชาการปกติก็สามารถแสดงความเห็นได้