ประธานคณะทำงานพรรคร่วมแก้รัฐธรรมนูญ เผยที่ประชุมเน้นศึกษาฉบับ 40 จ่อเชิญก๊วนปรองดองพระปกเกล้า-โคทม-ดิเรก-อธ.นิด้า-ม.เที่ยงคืน ปรึกษา 10 ก.ย. “วราเทพ” แย้มกลางเดือนหน้าเริ่มรณรงค์เลย
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล ประธานคณะทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ แถลงหลังการประชุมครั้งที่ 3 ที่พรรคเพื่อไทยว่า หลังจากมอบหมายให้นายวราเทพ รัตนากร เลขานุการคณะทำงานฯ รับผิดชอบกรอบการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ที่ประชุมมีข้อสรุปว่าจะศึกษารูปแบบการรณรงค์โดยเทียบเคียงกับการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 40 เป็นหลัก ทั้งนี้ ทางคณะทำงานฯ จะเชิญตัวแทนนักวิชาการ 5 กลุ่มเข้ามาให้คำปรึกษาในการประชุมครั้งหน้าของคณะทำงานฯ ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ เพื่อร่วมกันวางกรอบรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ที่ประชุมยังมอบหมายให้ตัวแทนของทุกพรรคที่มาร่วมประชุมไปสรุปความคืบหน้าให้แต่ละพรรครับทราบด้วย
ทั้งนี้ นักวิชาการทั้ง 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. นักวิชาการจากสถาบันพระปกเกล้าที่เคยศึกษาวิจัยเรื่องแนวทางการสร้างความปรองดอง 2. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีนายโคทม อารียา เป็นผู้อำนวยการ 3. นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี 4. นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในฐานะอดีตประธานพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และ 5. นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
“การรณรงค์รับร่างรัฐธรรมนูญปี 40 ต่างจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะเมื่อ ส.ส.ร.ยกร่างเสร็จก็ส่งให้สภาเห็นชอบ โดยไม่ต้องผ่านการลงประชามติ แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดขึ้นจากการร่างของ ส.ส.ร.ที่มาจากประชาชนและได้รับความเห็นชอบจากประชาชนอีกครั้งผ่านการทำประชามติ ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันอย่างดี เพราะเป็นครั้งแรกในรอบ 80 ปีที่มีรัฐธรรมนูญที่ยกร่างโดยประชาชนและเห็นชอบโดยประชาชน” นายโภคินกล่าว
นายโภคินกล่าวต่อว่า ผลสำเร็จจากการรณรงค์จะต้องมีการวัดผลว่าประชาชนมีเสียงตอบรับอย่างไร โดยอาจจะมีการวัดผลจากโพลสำรวจความเห็นของประชาชนและการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน แต่อาจประเมินได้ในภาพกว้างเท่านั้น แต่ไม่สามารถวัดผลในเชิงลึกได้ ซึ่งจะต้องหารืออีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะหากต้องฟังความเห็นของคนทั้งประเทศนั้นมีการจัดทำประชามติอยู่แล้ว
ด้าน นายวราเทพกล่าวว่า การรณรงค์นั้นจะทำความเข้าใจกับประชาชน โดยจะเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1- 2 สัปดาห์ในการจัดทำแผนการรณรงค์แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าช่วงกลางเดือน ก.ย.จะเริ่มมีการรณรงค์ได้ทันที อย่างไรก็ตาม อาจมีการประสานงานไปยังกระทรวงมหาดไทยด้วยว่าจะสามารถปรับแนวทางการรณรงค์ซึ่งทางกระทรวงรับงานไปก่อนหน้านี้นำมาปรับเข้ากับการรณรงค์ของคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลได้อย่างไร