xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊ด.”ฤทธิ์แรงยึดเก้าอี้ผู้ว่าฯ ส่งเด็กในสังกัดคุมเมืองใหญ่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง

 ยงยุทธ วิชัยดิษฐ
การที่ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย สถานะการเมืองและข้อกฎหมายในเรื่องคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่มีความชัดเจน จนทำให้เก้าอี้รัฐมนตรีของยงยุทธง่อนแง่น เจียนอยู่เจียนไปแบบนี้

จากผลพวงคำสั่งไล่ออกของกระทรวงมหาดไทย ที่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่ให้เอาผิดย้อนหลังยงยุทธกรณีไปลงนามคำสั่งอุทธรณ์ยกเลิกคำสั่งกรมที่ดินที่สั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ แต่สุดท้ายยงยุทธก็ได้รับการล้างมลทินโดยอ้างการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงเป็นที่มาของการโต้แย้งว่าความเห็นดังกล่าวว่า ถูกต้องหรือไม่

ปมปัญหาของยงยุทธไม่ใช่แค่กระทบกับยงยุทธและตัวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ยังกระทบกับการจัดสรรอำนาจในกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับผลกระทบตามไปด้วย

ที่เห็นชัดไปแล้วก็คือ กระทรวงมหาดไทยไม่ยอมนำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงคือระดับ 10 พวกรองปลัดกระทรวงมหาดไทย-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยเข้าสู่ความเห็นชอบของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา หลังมีคำสั่งการจากทักษิณ ชินวัตรและยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ยงยุทธเลี่ยงไปตรวจน้ำท่วมด่วนที่ปราจีนบุรี เพื่อจะได้ไม่เข้าประชุมครม.วันดังกล่าว จะได้ไม่มีปัญหาข้อกฎหมายตามมา

แม้ยงยุทธจะอ้างว่ามีการมอบบัญชีรายชื่อให้ ชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย(มท.2) ถือแฟ้มส่งชื่อเข้าครม.แต่เมื่อเกิดปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวขึ้นกับตัวยงยุทธ จนมท. 1 เข้าประชุมครม.ไม่ได้ ก็ทำให้มหาดไทยเองก็เบรคบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าว ด้วยการไม่เสนอเรื่องเข้าครม.

ทั้งที่รายชื่อทุกตำแหน่งทำเรียบร้อยแล้ว คือเป็นบัญชีรายชื่อโยกย้ายระดับ 10 ประมาณ 24 ตำแหน่ง ที่เป็นการย้ายสลับกันเองในระดับ 10 เช่นพ่อเมืองจังหวัดเล็กไปจังหวัดใหญ่ หรือจากผวจ.เข้ามาเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงโยกผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยออกไปเป็นผวจ.

ผลก็คือ ทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายระดับ 10 ดังกล่าวค้างเติ่งมาเป็นสัปดาห์ที่สอง หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้คือการประชุมครม.เมื่อ 18 ก.ย. เดิมทีก็มีข่าวบัญชีรายชื่อดังกล่าวก็จะเข้าครม.แต่ก็ต้องระงับไปเพราะหลายรายชื่อไม่ลงตัวจากปัญหาเรื่องสารพัดกลุ่มในพรรคเพื่อไทยแย่งกันดันเด็กของตัวเองไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นฐานเสียงของกลุ่มตัวเองหรือในจังหวัดใหญ่ๆ

ข่าวบอกว่า กว่าจะเคลียร์กันลงตัวได้ก็หลังผ่านวันที่ 18 ก.ย.มาอีกหลายวัน กว่าจะได้ข้อยุติเอาในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อสุดท้ายคนที่เห็นชอบภาพรวมส่วนใหญ่ก็คือ ทักษิณ ชินวัตรที่ลงมาดูรายชื่อหลายจังหวัดด้วยตัวเอง ทว่าสุดท้ายทุกอย่างก็ต้องเลื่อนออกไปอีกตามที่อธิบายข้างต้น

อย่างไรก็ตาม “ทีมข่าวการเมือง”ประเมินแล้วเชื่อว่า การประชุมครม.วันที่ 2 ตุลาคมนี้ ซึ่งยิ่งลักษณ์ เดินทางกลับจากต่างประเทศแล้ว จะมีการนำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายเข้าที่ประชุมครม.แน่นอน ไม่ว่ายงยุทธ จะเข้าประชุมครม.ด้วยหรือไม่ก็ตาม เพราะหากเลื่อนออกไปอีก ก็จะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของมหาดไทยตามมาระดับหนึ่ง

เพราะในหลายจังหวัดที่ผวจ.เกษียณอายุราชการแล้วไม่ได้ตั้งใครไปแทน ก็จะไม่มีผวจ.ตัวจริงทำงาน ที่แม้จะมีรองผวจ.รักษาการแทนได้ แต่หากยังไม่มีการนำรายชื่อเข้าที่ประชุมครม.อังคารที่ 2 ตุลาคมนี้ คงไม่ดีแน่นอนถ้าไม่มีผู้ว่าฯตัวจริงนั่งทำงาน

ยิ่งบางจังหวัดมีความสำคัญอย่างมากต้องมีผู้ว่าฯตัวจริงทำงานเช่นปัตตานี ซึ่งมีปัญหาเรื่องความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ ก็ปรากฏว่า นายธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ.ปัตตานีก็เกษียณอายุราชการ หรือบางจังหวัดที่ประสบปัญหาอุทกภัยหรือกำลังจะเริ่มมีปัญหาน้ำท่วมอย่าง แพร่ ตัวนายเกษม วัฒนธรรม ผวจ.แพร่ ก็เกษียณอายุราชการ 30 กันยายนนี้

ดังนั้นอย่างไรเสียก็ต้องนำรายชื่อเข้าครม.ค่อนข้างแน่นอน เพื่อให้มีพ่อเมืองตัวจริงไปนั่งทำงาน เพื่อที่ว่าพอเสร็จจากวันที่ 2 ตุลาคมนี้แล้ว จากนั้นมหาดไทยจะได้เร่งเสนอบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายในรอบสุดท้ายเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.ต่อไปโดยเร็ว อันมีการคาดกันว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์หลังจาก 2 ตุลาคม มหาดไทยก็จะมีการชงบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายของมหาดไทยรอบที่ 3เข้าที่ประชุมครม.

ซึ่งในรอบที่ 3 ที่จะเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ 10 รอบสุดท้ายประจำปี จะเป็นการแต่งตั้งเลื่อนชั้นจากระดับ 9 พวกรองผู้ว่าราชการจังหวัด-รองอธิบดี ขึ้นเป็นระดับ 10 ในตำแหน่งผวจ.-ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เพื่อไปแทนพวกระดับ 10 ที่เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ที่มีเกือบยี่สิบคน อย่างในส่วนของผวจ.ที่เกษียณอายุราชการปีนี้ก็มี 16 คนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขนาดว่าการแต่งตั้งโยกย้ายล็อต2ที่เป็นการย้ายในระนาบเดียวกัน ยังคลอดไม่ได้เลื่อนมาแล้วสองสัปดาห์ แต่ปรากฏว่า การแต่งตั้งรอบที่3 ก็มีข่าวแพร่สะพัดไปทั้งกระทรวงมหาดไทยว่า หลายเก้าอี้

ล็อกไว้หมดแล้ว

จากฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะพวกแกนนำพรรคเพื่อไทย-ส.ส.เพื่อไทยในแต่ละจังหวัดที่มีการร้องขอให้ดันคนของตัวเองขึ้นจากระดับ 9 มาเป็นผวจ.ในการแต่งตั้งโยกย้ายล็อตสาม

เห็นหรือยังว่า มหาดไทย กระทรวงนี้ ใครกำลังภายในไม่แน่จริง อย่าหวังขึ้นมาใหญ่ หากแบ็คอัพการเมืองไม่แน่นจริง ก็โตยาก

อย่างที่ ทีมข่าวการเมือง ได้ยินมาว่ามีการวางโผมหาดไทยบางส่วนจากระดับ9ขึ้นระดับ10ไว้แล้วก็เช่น นายภัครธรณ์ เทียนไชย รองผู้ว่าชลบุรี เป็นผวจ.สระแก้ว ที่ตามข่าวบอกว่ารายนี้ กลุ่มเทียนทอง ของเสนาะ เทียนทอง ที่มีหลานชาย ฐานิสร์ เทียนทอง เป็นรมช.มหาดไทยผลักดัน -นาย สุภัทร ศรีสุนทรพินิจ รอง ผวจ.สุพรรณบุรี เป็นผวจ.สุพรรณบุรี อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้กัน อย่างไรเสียเพื่อไทยก็ต้องเกรงใจและทำตามที่บรรหาร ศิลปอาชา ร้องขอมาว่าจะดันใครขึ้นมาเป็นผวจ.สุพรรณบุรี

นายวัชระ ทิพย์พิลา รองผวจ.ลพบุรี เป็นผวจ.ลพบุรี ,นายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ รองผวจ.นราธิวาส เป็นผวจ.บุรีรัมย์ , นายนพวัชร สิงห์ศักดา รองผวจ.อุดรธานี เป็น ผวจ.นครพนม ,นายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผวจ.เชียงราย เป็น ผวจ.ลำพูน

อย่างไรก็ตาม พบว่าบางพื้นที่ก็มีปัญหาไม่ลงตัว เพราะส.ส.เพื่อไทยแม้จะอยู่จังหวัดเดียวกัน แต่ก็มีบางคนไม่ถูกกันอยู่กันคนละก๊ก ก็เลยพากันดันคนของตัวเองขึ้นเพราะตกลงกันไม่ได้ ก็เลยทำให้มีปัญหาไม่ลงตัวกันอยู่ ขณะที่บางจังหวัด ส.ส.เพื่อไทยหรือฝ่ายการเมืองในพรรค พยายามดันคนในสายตัวเองขึ้นแต่ก็โดนพวกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลร้องขอมา แถมบางจังหวัดไม่ใช่แค่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลธรรมดาแต่เป็นระดับแกนนำพรรคก็เลยต้องเกรงใจกันเป็นธรรมดา ก็เลยทำให้ยังตกลงกันไม่ได้

อย่างเช่นที่จ.พิจิตร ที่มีข่าวว่าพวกเพื่อไทยพยายามดันนายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผวจ.พิจิตรแต่ชื่อที่เสนอมาไม่ตรงกับความต้องการของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา

พอเจอปัญหาไม่ลงตัวแบบนี้ ก็เลยทำให้ต้องมีการแขวนเอาไว้ก่อน แล้วพอถึงเวลาต้องเสนอชื่อเข้าครม.ค่อยไปแก้ปัญหากันอีกทีว่าจะเอาอย่างไร

ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายรอบใหม่ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.วันที่ 2 ตุลาคมนี้ คาดว่ารายชื่อก็จะเป็นไปตามที่มีการเสนอข่าวคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้

อาทิ นายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงราย เป็นผวจ.เชียงใหม่ ,นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผวจ.น่าน เป็นผวจ.เชียงราย ,นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผวจ.ร้อยเอ็ด เป็นผวจ.นครปฐม,นายประมุข ลมุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.ปัตตานี ,นายคณิต เอี่ยมระหงส์ ผวจ.บุรีรัมย์ เป็นผวจ.สมุทรปราการ ,นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.อุบลราชธานี ,นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นผวจ.ขอนแก่น ,นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.ปทุมธานี ,นายจรินทร์ จักกะพาก ผวจ.สกลนคร เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย แทนประชา เตรัตน์ ที่ขอย้ายตัวเองไปเป็นหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ,นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯเพชรบุรีย้ายไปเป็นผวจ.นครราชสีมา,นายเสนีย์ จิตตเกษม ผวจ.ระยอง เป็น ผวจ.อุดรธานี , นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ตรวจราชการ เป็น ผู้ว่าฯร้อยเอ็ด

นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าฯอำนาจเจริญ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย,นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง เป็น ผู้ว่าฯสกลนคร-,นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าฯลำพูน เป็น ผู้ว่าฯจันทบุรี ,นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าฯพะเยา เป็น ผู้ว่าฯภูเก็ต-พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าฯระนอง เป็น ผู้ว่าฯชุมพร เป็นต้น

วิจารณ์กันว่า หลายรายชื่อที่ได้ดี ทั้งในการแต่งตั้งโยกย้ายรอบ 2 และรอบ 3 โดยเฉพาะพวกที่ได้ขยับจากพ่อเมืองจังหวัดเล็กไปเป็นพ่อเมืองจังหวัดใหญ่ หรือพวกได้ขึ้นจากรองผวจ.ไปเป็นผวจ. ได้รับแรงหนุนจาก “เจ๊ด.”รวมถึงเครือข่ายการเมืองผู้ใกล้ชิดของ “เจ๊ด.”

กระนั้นก็มีหลายคนที่ได้ดีเพราะแกนนำกลุ่มการเมืองในเพื่อไทยอีกบางกลุ่มที่ช่วยผลักดันให้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นสาย “เจ๊ด.”หมด เป็นไปไม่ได้ เพราะบางตำแหน่ง ตัวยงยุทธ มท. 1 และวิบูลย์ สงวนพงศ์ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยหลัง 30 ก.ย. 55 ก็เลือกมาเองเพื่อให้มาทำงานใกล้ชิดหรือทำงานตอบสนองนโยบายรัฐบาลเพื่อไทยให้ขับเคลื่อนออกมามีผลงานให้ได้ จึงเลือกเอาคนที่ตัวเองไว้ใจมาไว้ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสำคัญๆ ก็มีหลายคน

ขณะเดียวกัน ก็มีอีกบางคน ซึ่งก็ได้ดี เพราะฝีมือและผลงานล้วนๆ อันนี้ เท่าที่รู้มาก็มีเหมือนกัน ส่วนนี้ก็ต้องให้กำลังใจเพราะก็ยังดีกว่าเติบใหญ่เพราะวิ่งเข้าหานักการเมือง
พงษ์ศักดิ์ วังเสมอ
 เสนีย์ จิตตเกษม
ธานินทร์ สุภาแสน
วินัย บัวประดิษฐ์
วันชาติ วงษ์ชัยชนะ
สมศักดิ์ สุวรรณสุจริต
กำลังโหลดความคิดเห็น