xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อไทยเริ่มรวน รุมแทง ยงยุทธ แย่งเก้าอี้ มท.1 !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ยงยุทธ วิชัยดิษฐ
ผ่าประเด็นร้อน

นอกจากมีคำถามเรื่องจริยธรรมทางการเมืองจากกรณีถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ชี้มูลความผิดอย่างร้ายแรง กับ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้งรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยเมื่อปี 2545 กรณีทุจริตฉ้อฉลไปรับรองการซื้อขายที่ดิน “ธรณีสงฆ์” และต่อมาคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน(อ.ก.พ.) กระทรวงมหาดไทยได้มีมติให้ไล่ออก

แม้ว่าการไล่ออกดังกล่าวของ อ.ก.พ.ถูกมองว่ามีเจตนาซ่อนเร้น เพื่อหวังให้กฎหมายล้างมลทินมีผลครอบคลุมไปถึง เป็นการช่วยเหลือให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อไป ทั้งที่ในแง่มุมของกฎหมายยังมีเรื่องที่ถกเถียงและหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดและขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญในการเป็นรัฐมนตรีและ ส.ส.ก็ตาม แต่ก็ใช้วิธีการแบบศรีธนญชัยอ้างเหตุผลไปเรื่อย

ทั้งที่ปัญหาหลักของ ยงยุทธ ในตอนนี้ก็คือปัญหาเรื่องจริยธรรมของนักการเมืองที่ต้องมีมาตรฐานเหนือกฎหมาย

ขณะเดียวกันความหมายก็เห็นกันอยู่แล้วว่า “มีความผิดอย่างร้ายแรง จน อ.ก.พ.ต้องมีมติ “ไล่ออก” ถามว่าในองค์กรไหนก็ตาม จะยังรับคนที่ทำผิดร้ายแรงแบบนี้กลับมาทำงานอีกหรือไม่

นี่ว่ากันเฉพาะหลักการ ไม่ต้องไม่พูดถึงเรื่องอื่นให้มากความ

อย่างไรก็ดีแม้ว่าเจ้าตัว และพลพรรคเพื่อไทย และคนในรัฐบาลบาลต่างเรียงหน้าออกมาช่วยกันยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ยงยุทธ ได้ล้างมลทินตามกฎหมายแล้ว จนเป็นเสมือนหนึ่งไม่เคยมีความผิดมาก่อน และสามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไปได้ แต่สิ่งที่เห็นก็คือ เวลานี้เขาไม่กล้าเซ็นเอกสาร ไม่กล้าเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มั่นใจผลกระทบทางกฎหมายที่ตามมา ทำให้ทุกอย่างค้างเติ่ง หยุดนิ่ง เท่าที่เห็นก็คือการแต่งตั้งโยกย้ายระดับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศจากเดิมที่ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ตัวเองจะต้องนั่งเป็นประธานก็ต้องเลื่อนออกไป และแม้ว่าในที่สุดแล้วการแต่งตั้งดังกล่าวจะต้องเดินหน้า แต่ตัวเองจะผลักดันออกหน้าไม่ได้

นอกจากนี้งานบริหารในกระทรวงมหาดไทยอื่นๆ รวมทั้งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีจะต้องหยุดชะงักตามไปด้วย เพราะไม่มั่นใจว่าจะทำผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าผิดนอกจากตัวเองที่ซวยคนอื่นๆจะพลอยซวยไปด้วย เพราะในสถานภาพปัจจุบัน ยงยุทธ ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอีกด้วย มันอาจยุ่งนุงนังตามมาก็เป็นได้

ด้วยความไม่แน่ใจดังกล่าวทำให้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา เขาต้องส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ให้ตีความคุณสมบัติว่าสามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไปได้หรือไม่ นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่ชัวร์ แต่ระหว่างที่รอ ซึ่งเชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ งานราชการจะต้องรอไปด้วยหรือไม่ ซึ่งจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ดีปัญหาของ ยงยุทธ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของมาตรฐานจริยธรรมของนักการเมืองและเรื่องกฎหมายแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาและเห็นร่องรอยค่อนข้างชัดเจนว่าได้เกิดความขัดแย้งแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันภายในพรรคเพื่อไทยกันอย่างดุเดือดเข้มข้น แม้ว่าฉากหน้าจะดูเหมือนช่วยกันโอบอุ้มก็ตามที แต่เบื้องหลังกลับมองเห็นเงาคนกันเองไหววูบวาบมีลักษณะไม่ต่างจากการรุมจ้วงแทงข้างหลังกันจนมิดด้าม

เริ่มจากกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดงสุรินทร์ ที่ชื่อ เทพพนม นามลี ยื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ยงยุทธ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และระบุว่าหากลาออกแล้วคนที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยแทนก็คือ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตปลัดกระทรวงและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยที่เพิ่งพ้นโทษแบนในกลุ่มบ้านเลขที่ 111 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ออกมายอมรับว่ามีคนในพรรคเพื่อไทยอยากนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีจนก่อเรื่องขึ้น

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่เกิดขึ้นมันก็ย่อมเห็นภาพชัดเจนว่าเวลานี้การแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีโดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญในมหาดไทย รวมไปถึงเก้าอี้ตัวอื่น เพราะใกล้ถึงเวลาต้องปรับคณะรัฐมนตรีกันแล้ว ดังนั้นเมื่อ ยงยุทธ กำลังซวนเซ มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องฉวยโอกาสรุมกระหน่ำไม่ยั้ง และมีมาหลายรูปแบบบางคนอาจมาในคราบหวังดีพูดจาชื่นชม แต่มองให้ดีนั่นคือความประสงค์ร้าย เพราะตัวเองก็อยากจะนั่งเก้าอี้ตัวนี้เหมือนกัน

หากให้ถามให้ลึกในใจ ถามว่าคนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อยากมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อีกสักครั้งในชีวิตหรือไม่ เชื่อว่าเจ้าตัวนั่นแหละน่าจะรู้ดีที่สุด แต่บางครั้งอาจต้องเนียนเอาไว้ก่อน !!
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช
กำลังโหลดความคิดเห็น