รัฐตำรวจ-รัฐอันธพาลเต็มขั้น !!

เกาะกระแส

00 นาทีนี้ต้องบอกว่าสำหรับ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” ถือว่าตกที่นั่งลำบากจะเดินหน้าก็ไม่ได้ถอยหลังก็ไม่ได้ ติดๆขัดๆไปหมด โดยเฉพาะการลงนามเซ็นเอกสารทางราชการในฐานะมท.1 หรือแม้แต่ตำแหน่งรองนายกฯก็ยังไม่กล้าเข้าประชุมในฐานะรักษาการนายกฯแทน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะกลัวทำผิดซ้ำเข้าไปอีก สะท้อนให้เห็นถึงความ “กลัว” ไม่มั่นใจว่าผลที่จะตามมาจะพาพังกันทั้งแก๊ง

00 ปัญหาชนักปักหลังจาก ปปช.ชี้มูลความผิดเรื่องทุจริต “ธรณีสงฆ์” เมื่อครั้งเป็นรักษาการปลัดมท.ปี 2545 มาถึงวันนี้วันที่มาเป็น มท.1 วิญญาณ “คุณยายเนื่อม” เจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวที่ต้องการทำบุญยกให้วัดแล้วมาเล่นแร่ฉ้อฉลกลายมาเป็นสนามกอล์ฟนอนตาไม่หลับ แต่คนที่สุมหัวกันกระทำก็อยู่ไม่เป็นสุขเป็นบาปติดตัวมาถึงปัจจุบัน หลายคนที่เกี่ยวข้องหากสังเกตให้ดีมีแต่ตกต่ำลงทุกที เช่น เสนาะ เทียนทอง และครอบครัว หรือแม้แต่ ทักษิณ ชินวัตรก็ตามเถอะ มีความสบายใจเสียที่ไหน และกรณีของ ยงยุทธ ก็เหมือนกันเท่าที่เห็นมีแต่ความกังวลไม่กล้าตัดสินใจลงนามอะไรให้เป็นข้อผูกพันทางกม.เพราะถ้าชี้ผิดกันภายหลังคราวนี้จะยิ่งหนักกว่าเดิมหลายเท่า และรับรองว่าต้องมีคนไปร้องเรียนเอาผิดแน่

00 น่าจับตาก็คือ การไปร้องกับ กกต.และไล่บี้ให้ลาออกจากจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ของหัวโจก “เสื้อแดงสุรินทร์” ที่ชื่อ “เทพพนม นามลี” แม้ชื่อชั้นจะ “โนเนม” ไร้ความหมาย แต่รับรองว่าหากเพ่งพิจารณาให้ดีจะเห็นความ “ผิดปกติ” ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเบื้องหลังที่ว่ากันว่า โยงไปถึง “คนกันเอง” “แทงกันเอง” จากภายในพรรคเดียวกันนั่นแหละ และหากสืบค้นไปลึกๆก็ได้เห็นหลังไวๆของ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อีกก๊วนหนึ่งที่ฝันจากนั่ง มท.1 สักครั้งในชีวิตเหมือนกัน และไม่ใช่มีแน่รายนี้เท่านั้น บางทีคนที่กำลังทำตัวเป็นกูรูในทุกเรื่อง และพยามเป็น “ขาใหญ่” แบบไม่ลงทุนที่ “ร้องก๊าบๆ” อยู่ทุกวันนี้ ก็ต้องจับตาดูอย่าวางตาเป็นอันขาด เพราะถ้าได้กลับมาคุมมหาดไทยอีกรอบ ดูแลผู้ว่าฯทั่วประเทศมันก็มีความสุขใช่มั๊ย ของแบบนี้ต้องไปถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าใช่หรือเปล่า !!

00 เวลานี้หากพูดว่าเรากำลังอยู่ใน “รัฐตำรวจ-รัฐอันธพาล” แบบเต็มขั้นก็คงไม่ผิดเพี้ยนนัก เพราะจากหลายเหตุการณ์ไม่ใช่แค่เฉพาะกรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่กองปราบฯเท่านั้นที่มีกลุ่มคนเสื้อแดง และก็หัวโจกคนเดียวกันที่มักจะเดินสายไปก่อกวน ก่อความรุนแรงไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นการขัดขวางการทำกิจกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ ทำตัวไม่ต่างจากพวก “เรดการ์ด” ในจีนคอมมิวนิสต์ “ยุคเหมา” ขณะเดียวกันเราก็ได้เห็นตำรวจที่ไม่ทำหน้าที่เป็นผู้รักษากม.ไม่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่ไปพิทักษ์รับใช้โจร อันธพาล และภาพที่เห็นตำตาชวนอัปยศที่สุดก็คือมีหลักฐานภาพถ่ายที่ปรากฏว่ามีคนคนแต่งตัวคล้ายตำรวจสวมชุดครึ่งท่อนผสมโรงกับคนเสื้อแดงรุมตีฝ่ายที่เห็นว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามหน้าตาเฉย นี่มันอะไรกัน ทำไมบ้านเมืองถึงได้เลวร้าย กันถึงขนาดนี้

00 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ กองปราบฯเมื่อวันก่อนจะเรียกว่า “เหลืองปะทะแดง” ไม่ได้ เพราะวันนั้นมีเพียงกลุ่มที่รักสถาบันฯไปแสดงออกด้วยการไปให้กำลังใจกับอดีตครูสาวคนหนึ่งที่ไปต่อว่า ดารุณี กฤตบุญญาลัย ว่า “ด่าทำไม” เป็นเรื่องของผู้ที่ถูกแจ้งความที่ได้รับหมายเรียก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายผู้ร้องหรือผู้แจ้งความ แต่เพราะความแส่ และถือดีจนกลายเป็นสันดาน นึกว่า “พ่อกูใหญ่” จึงต้องไปอวดศักดายั่วยุด้วยอาการถ่อยเถื่อน จนเกิดเรื่องอย่างที่เห็น และก็เกิดขึ้นที่กองปราบฯเสียด้วย มันน่าอดสูมั๊ยละ และหนักไปกว่านั้นหลังจากเกิดเหตุ คนอย่าง รมว.กลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ก็ออกมากล่าวว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่คนไทยตีกัน ทุด !!

00 ตบท้ายด้วยการบอกบุญมายังพ่อแม่พี่น้องที่มีจิตใจเป็นกุศล และมีความสะดวกที่จะร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อหาทุนในการบูรณะสำนักสงฆ์บ่อม่วง เกาะแตน หมู่ที่ 2 ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในวันอาทิตย์ที่ 30 ก.ย.2555 รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ นพ.ธีระศักดิ์ วิริยานนท์ โทร. 089 8664867 คุณ อรรพงศ์ เมืองนิล โทร.089 8665106 คุณ สง่า ภู่สกุล โทร.0814153195 คุณพรทิพย์ วิริยานนท์ 0898140219