ครม.เงาประชาธิปัตย์ เตรียมล่าชื่อ 50 ส.ส.ยื่นศาล รธน.วินิจฉัยคุณสมบัติ “ยงยุทธ” คดีอัลไพน์ พร้อมเล็งกระทู้ถามสด “ปู” ดักคออย่าชิ่งหนีเหมือนที่ผ่านมา
วันนี้ (26 ก.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รมว.ต่างประเทศเงา กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ว่า ที่ประชุมมีความเห็นที่จะต้องดำเนินการกรณีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่ามีความผิดทาวินัยร้ายแรงในคดีที่ดินอัลไพน์ โดยจะรวบรวมรายชื่อ ส.ส.50 คนยื่นเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติการดำรงตำแหน่ง ส.ส., รมว.มหาดไทย และรองนายกรัฐมนตรีของนายยงยุทธ ซึ่งในขณะนี้คณะทำงานด้านกฎหมายกำลังรวบรวมข้อมูล
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือเรื่องการยื่นกระทู้ถามสด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว ที่ก่อนหน้านี้ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านมีมติจะยื่นกระทู้ถามสดในวันที่ 27 กันยายนนี้ แต่เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ที่ประชุม ครม.เงาจึงมีความเห็นให้ยื่นกระทู้สดถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ในวันที่ 4 ตุลาคมหลังจากนั้นจึงจะมีการรวมรวมรายชื่อ ส.ส.ยื่นต่อประธานสภาต่อไป
“อยากขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์จัดเวลาในการมาตอบกระทู้สดในเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะมีความจำเป็นที่จะสอบถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์หลายเรื่องที่จะมอบหมายให้คนอื่นมาตอบแทนได้ อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดีนี้ที่ประชุมก็มีความเห็นที่จะยื่นกระทู้ถามสดในกรณีดังกล่าวต่อกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากเห็นว่ามีประเด็นที่ต้องสอบถามผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยด้วย”
นายองอาจกล่าวว่า การที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดของนายยงยุทธนั้น มีการเกี่ยวพันกับอีกหลายคนในคณะรัฐบาล และพรรคการเมืองที่มีส่วนสำคัญในรัฐบาล ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้มีหลายคนสงสัยว่าทำไม อ.ก.พ.มหาดไทยจึงพยายามอุ้มนายยงยุทธให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป แต่หากย้อนดูจะเห็นว่ามีบุคคลในรัฐบาลเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นในบริษัทที่ซื้อที่ดินจากวัด โดยบริษัท อัลไพน์เรียลเอสเตท จำกัด ที่มีผู้มีบทบาทสำคัญในรัฐบาลบางคนเป็นคนในบ้านเลขที่ 111 และพี่ของนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย ส่วนบริษัท อัลไพน์กอล์ฟแอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ก็มีการเอาชื่อแม่บ้าน คนขับรถ และยามของครอบครัวอดีตนายกฯ ถือหุ้น แต่ภายหลังก็มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นภรรยาและลูกอดีตนายกฯ จึงไม่แปลกใจเลยที่ อ.ก.พ.และรัฐบาลพยายามหาช่องว่างเพื่ออุ้มนายยงยุทธต่อไป