รายงานการเมือง
นึกว่าแน่จริง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย สุดท้ายก็ถอย ไม่กล้าเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อนั่งเป็นประธานการประชุม ครม.แทนยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันอังคารที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ปล่อยให้ เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่แทน
แบบนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่ใช่แค่ยงยุทธ แต่ตัวทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมถึงพวกแกนนำพรรคเพื่อไทย ชักลังเลไม่แน่ใจว่าคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของยงยุทธจะขัดต่อรัฐธรรม 2550 มาตรา 174 (4) ที่เป็นบทบัญญัติว่าด้วยคุณสมบัติและการไม่มีลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรี ประกอบมาตรา 102 (6) ที่ต้องไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
รัฐบาลเลยต้องอ้างว่า ยงยุทธได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ด่วนจากยิ่งลักษณ์ ให้รีบไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและร่วมวางแผนป้องกันและการเยียวยาหลังน้ำลด ที่ จ.ปราจีนบุรี เลยเข้าประชุมครม.ไม่ได้
ลูกไม้เด็กๆ แบบนี้อย่ามาใช้เลยดีกว่า นึกว่าว่าประชาชนกินแกลบหรือยังไง
ไม่กล้าเข้าเพราะกลัวจะมีปัญหาข้อกฎหมายภายหลังก็บอกมาดีกว่า หลังฝ่ายต่างๆ เริ่มเคลื่อนไหวจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งตีความคุณสมบัติของยงยุทธ รวมถึงที่ยื่นไปแล้วอย่างผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อวินิจฉัยว่าคุณสมบัติของยงยุทธว่าเข้าข่ายได้รับการล้างมลทินตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ และหากยงยุทธไม่ยอมลาออก คุณสมบัติจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
ก็เลยทำให้รัฐบาลชักหวั่น เกรงจะเกิดปัญหาขึ้นภายหลังหากมีการตีความแล้วพบว่ายงยุทธ พ้นสภาพการเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว แล้วดันไปนั่งเป็นประธานการประชุม ครม.-อนุมัติเรื่องต่างๆ ในที่ประชุม ครม. ก็จะเกิดปัญหาข้อกฎหมายตามมาไม่จบสิ้น เช่นอาจเป็นมติ ครม.ที่ขัดกฎหมาย แล้วพวก ครม.ทั้งหลายจะโดนเอาผิดไปด้วย ก็เลยใช้วิธีกันตัวยงยุทธออกไป มันก็แค่นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ก็เลยส่งผลให้บัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายระดับ10 ของกระทรวงมหาดไทยพวกรองปลัดกระทรวงมหาดไทย-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยก็เลยสะดุดไปด้วย หลังบัญชีรายชื่อเสร็จหมดรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา พิมพ์เอกสารอะไรทุกอย่าง จัดใส่เข้าแฟ้มหมดแล้ว แต่เมื่อยงยุทธไม่เข้าประชุม ครม.และเกรงว่าบัญชีรายชื่อดังกล่าวที่ตัวยงยุทธจะนำเสนอจะมีปัญหาภายหลัง ก็เลยทำให้ไม่มีการเสนอวาระดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.
ส่งผลให้บรรดาพวกบิ๊กคลองหลอดทั้งหลายที่หวังจะได้ดีในการแต่งตั้งรอบนี้ วืดไปอีกหนึ่งสัปดาห์หลังก่อนหน้านี้ก็วืดมาแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะจริงๆ จะมีการเสนอบัญชีแต่งตั้งดังกล่าวเข้าที่ประชุมครม.ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแต่ว่าโผไม่ลงตัว เพราะมีปัญหาหลายอย่างโดยเฉพาะการผลักดันเด็กของตัวเองจากพวกแกนนำพรรคเพื่อไทยและ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย เลยทำให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกันหลายรอบจนได้ข้อสรุปไปเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 24 ก.ย.หลังทักษิณ ชินวัตร เคาะรายชื่อรอบสุดท้าย แต่สุดท้ายพอมีปัญหากับยงยุทธกรณีนี้ก็เลยทำให้บัญชีสะดุดไปดังกล่าว
การที่โผมหาดไทยเลื่อนออกไปแบบนี้ ก็เลยทำให้บางจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ก็เลยจะยังไม่มี ผวจ.ตัวจริง แต่ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงเพราะก็มีรองผวจ.รักษาราชการแทนได้
แต่ที่บรรดาบิ๊กคลองหลอดหวั่นกันก็คือการที่โผเลื่อนนำเข้าที่ประชุม ครม.ออกไปแบบนี้สองสัปดาห์แล้ว มันอาจทำให้โผมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อได้อีกในสัปดาห์หน้าก็เป็นไปได้ พวกที่จะได้ขยับออกจากจังหวัดเล็กไปจังหวัดใหญ่ในรอบนี้ก็เลยเกรงจะโดนเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายชื่อนั่นเองหากสุดท้ายฝ่ายการเมืองเห็นชอบให้แก้ไขโผอีกรอบ
พบว่าที่มีตามข่าว รายชื่อหลายจังหวัดนิ่งหมดแล้วและพบว่าส่วนใหญ่ก็มีแรงผลักดันจากฝ่ายการเมืองจากแกนนำพรรคเพื่อไทยดันคนของตัวเองไปรับตำแหน่งในจังหวัดสำคัญๆ เกือบทั้งสิ้น
ที่ปรากฏตามข่าวก็อาทินายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงราย เป็น ผวจ.เชียงใหม่ ที่มีข่าวว่าชื่อนี้ พี่น้องตระกูลชินวัตร ทั้งทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เห็นชอบตรงกันหมดเพื่อให้มาเป็นผวจ.เชียงใหม่ พื้นที่สำคัญของตระกูลชินวัตร-นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผวจ.น่าน เป็นผวจ.เชียงราย รายนี้ก็มีข่าวเช่นกันว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช หัวหน้ากลุ่มเชียงรายของเพื่อไทยเสนอชื่อมา, นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผวจ.ร้อยเอ็ด เป็น ผวจ.นครปฐม, นายประมุข ลมุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.ปัตตานี
หรือนายคณิต เอี่ยมระหงส์ ผวจ.บุรีรัมย์ เป็นผวจ.สมุทรปราการ ที่ตามข่าวบอกว่ามีเจ๊ด.คอยสนับสนุนโดยไปงัดกับกลุ่ม ส.ส.สมุทรปราการ ของพรรคเพื่อไทย ที่เสนอชื่ออื่นแต่ไม่ผ่าน ,นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.อุบลราชธานี ซึ่งได้แรงหนุนจากนายสุพล ฟองงาม อดีตรมช.มหาดไทย, นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นผวจ.ขอนแก่น, นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.ปทุมธานี
นายจรินทร์ จักกะพาก ผวจ.สกลนคร เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย แทนประชา เตรัตน์ ที่ขอย้ายตัวเองไปเป็นหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย หลังก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจรินทร์จะได้เป็น ผวจ.นครราชสีมา ส่วนคนที่เป็นตัวเต็งจะได้เป็นผวจ.นครราชสีมาคือ นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯ เพชรบุรี, นายเสนีย์ จิตตเกษม ผวจ.ระยอง เป็น ผวจ.อุดรธานี เป็นต้น
แต่ละคนล้วนมีแบ็กอัพทางการเมืองหนุนหลังทั้งสิ้น โดยเฉพาะคนไหนที่แบ็กใหญ่ก็น่าจะมั่นใจว่าชื่อจะไม่มีพลิกอีกแล้ว แม้บัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายจะไม่เข้าที่ประชุม ครม.เมื่ออังคารที่ผ่านมาก็ตาม แต่การที่กระทรวงมหาดไทยยังไม่นำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวเข้าที่ประชุมครม.และเลื่อนออกไปแบบนี้ แถมสถานภาพของยงยุทธก็ง่อนแง่น เจียนอยู่เจียนไป
จึงทำให้บิ๊กคลองหลอดหลายคนชักหวั่นๆ กันแล้วว่าจะมีอะไรพลิกโผหรือไม่