xs
xsm
sm
md
lg

กลาโหมสั่งเหล่าทัพระดมช่วยเหลือน้ำท่วม ทบ.ส่งนายทหารประสาน กบอ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม (ภาพจากแฟ้ม)
โฆษกกลาโหมเผย รมว.กลาโหมห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม สั่งระดมทหาร รถ และเรือช่วยเหลือ ด้านรองโฆษก ทบ.เผยกองทัพภาคที่ 3 ช่วยซ่อมและอุดรอยรั่วใต้พนังกั้นน้ำที่ชำรุดต่อเนื่อง ส่วนจังหวัดอื่นให้ความช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมส่งนายทหารเข้าประสานงาน กบอ.สนับสนุนรัฐบาลเต็มที่

วันนี้ (12 ก.ย.) พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนที่ประสบสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ทั้งพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง โดยได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม, ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทยและเหล่าทัพ ระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สุโขทัย, จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยปัจจุบันศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพจัดกำลังพล และนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) กว่า 1,000 นาย รถบรรทุกและรถขุดตัก 30 คัน เรือท้องแบน 10 ลำ เข้าช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนส่วนราชการ เช่น กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, อบต.ในพื้นที่ประสบภัย ฯลฯ

“การปฏิบัติงานขณะนี้เราจัดรถบรรทุก, เรือท้องแบน, เสื้อชูชีพ อพยพประชาชนและพระสงฆ์, ขนย้ายสิ่งของสัมภาระไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมอำนวยความสะดวกเรื่องการสัญจรไปมา แจกจ่ายถุงยังชีพ, น้ำดื่ม และยาเวชภัณฑ์ รวมทั้งจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการตรวจรักษาพยาบาล กรอกกระสอบทราย, สร้างคันกั้นน้ำ และจัดชุดช่างเทคนิค, รถยนต์บรรทุกสนับสนุนการขนย้ายและวางบิ๊กแบ็ก จัดรถขุดตัก, รถลากจูง, เครื่องสูบน้ำ ดำเนินการขุดดินถมคอสะพาน พร้อมทั้งขนย้ายดินโคลน กิ่งไม้ ขยะ ออกจากเส้นทางการระบายน้ำ และจัดเครื่องจักรกลหนักซ่อมแซมพนังกั้นน้ำ การปฏิบัติงานของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพมุ่งเน้นการบรรเทาความเดือดร้อนและดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมทั้งพยายามรักษาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ไฟฟ้า, ประปา, การติดต่อสื่อสาร และการจราจร เพื่อดำรงและอำนวยความสะดวกไม่ให้กระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนโดยทั่วไป” โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว

ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สุโขทัยที่แม่น้ำยมยังไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองนั้น กองทัพภาคที่ 3 ยังคงนำหน่วยทหารช่างเข้าช่วยซ่อมและอุดรอยรั่วใต้พนังกั้นน้ำที่ชำรุดอย่างต่อเนื่อง โดยประสานการทำงานร่วมกับจังหวัดเพื่อให้การซ่อมแซมสำเร็จโดยเร็ว ล่าสุดใช้รถแบ็กโฮนำก้อนหินบรรจุลงในกล่องลวดตระแกรงเหล็กหย่อนลงบริเวณพนังกั้นน้ำเพื่อลดความรุนแรงของกระแสน้ำ นอกจากนี้ กองพลพัฒนาที่ 3 และจังหวัดทหารบกพิษณุโลกนำรถบรรทุก รถปิกอัพ เรือท้องแบนออกบริการรับส่งประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยแล้ว ส่วนที่ จ.นครสวรรค์ระดับน้ำยังคงสูงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.เมือง, อ.ลาดยาว และ อ.แม่วงก์ ทำให้เส้นทางการสัญจรหลายเส้นถูกตัดขาด โดย ต.บางพระหลวง บ้านเรือนประชาชนริมคลอง 20 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมขัง ทางมณฑลทหารบกที่ 31 (มทบ.31) ร่วมกับ อบต.บางพระหลวง นำเรือท้องแบนเข้าช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูงและอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร นอกจากนี้ยังร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 2 นำเครื่องสูบน้ำเข้าเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังบริเวณ บ.สร้อยละคร อ.ลาดยาว ลงสู่ลำคลองและอ่างเก็บน้ำในพื้นที่แล้ว

ส่วนที่ จ.อุตรดิตถ์ จากที่มีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ลับแลทำให้มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนนั้น ทางกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 20 ได้นำกระสอบทรายเสริมแนวพนังกั้นน้ำ ณ วัดเจดีย์คีรีวิหาร ต.ฝายหลวง เพื่อป้องกันพื้นที่ ส่วนที่ จ.เพชรบูรณ์ ฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้น้ำในแม่น้ำป่าสักมีระดับสูงขึ้น ส่วนพื้นที่เชิงเขา อ.เขาค้อ ดินอุ้มน้ำเต็มที่หลังฝนตกสะสม และมีโอกาสเสี่ยงเกิดดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก ซึ่งกองพลทหารม้าที่ 1 (พล.ม.1) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสักอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระวังน้ำป่า ดินถล่ม รวมทั้งได้จัดเตรียมชุดบรรเทาสาธารณภัยพร้อมออกช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ส่วน จ.อ่างทอง น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งใน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ซึ่งกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) ได้ส่งทหารพร้อมเรือท้องแบนเข้าช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง กรอกกระสอบทรายวางเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม และเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด

ส่วนที่ จ.สระแก้ว ที่มีน้ำท่วมขังใน ต.บ้านแกง, ต.สระแก้ว, ต.สระขวัญ อ.เมือง และ ต.พระเพลิง, ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ ขณะนี้กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ได้นำรถบรรทุกขนาดใหญ่พร้อมเรือท้องแบนเข้าอำนวยความสะดวกด้านการสัญจรให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้าออกในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกได้กำชับให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบในจังหวัดต่างๆ แจ้งเตือนและให้ข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศ ปริมาณฝน พื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติ เช่น ชุมชนที่อาศัยในที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ริมแม่น้ำ จังหวัดที่เป็นเส้นทางการไหลของน้ำ และจังหวัดที่เป็นพื้นที่รับน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน กองทัพบกได้ส่งนายทหารเข้าประสานงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เพื่อประสานข้อมูลและให้การสนับสนุนรัฐบาลอย่างเต็มที่
กำลังโหลดความคิดเห็น