xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ส่ง มทภ.3 คุมท่วมสุโขทัย จ่อขุดทางน้ำปิดรูรั่ว ถามชาวริมคลองยังอยู่อีกหรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (แฟ้มภาพ)
ผู้บัญชาการทหารบก เผยนายกฯ ขอทหารดูน้ำท่วม ยันสั่งกองทัพลุยตั้งกองอำนวยการติดตามสถานการณ์ตั้งแต่ตอนปล่อยน้ำแล้ว ชี้มรสุม-ในหนักทำท่วม ส่งให้ มทภ.3 คุมสุโขทัย แต่รับเข้าพื้นที่ลำบาก จ่อขุดทางน้ำปิดรูรั่ว ยันพนังยังไม่พัง บอกงบมาทำให้ทันทีไม่ต้องห่วง ระบุสิงห์บุรี-อยุธยายังโอเค เล็งคุยชาวบ้านจะยังอยู่ริมคลองหรือไม่ บอกแก้ปัญหาต้องใช้เวลาเป็นสิบปี


วันนี้ (11 ก.ย.) ที่วิทยาลัยการทัพบก เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการขอให้ทหารเข้าไปดูแล ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำที่ทหารได้ทำไปแล้ว ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยงานของกองทัพบกเข้าไปดูแล ตั้งกองอำนวยการติดตามสถานการณ์ ตั้งแต่ห้วงที่มีการปล่อยน้ำลงมาแล้ว เพื่อจะดูว่าตรงไหนมีปัญหาบ้างจะได้นำไปแก้ไขปัญหาในอนาคต ที่ผ่านมามีมรสุมพัดผ่านภาคเหนือ และมีฝนตกมาก น้ำจึงไหลตกมาจาก จ.เชียงราย ลำปาง แพร่ จนทะลุถึง จ.สุโขทัยลงมา ซึ่งในพื้นที่ จ.สุโขทัย ได้มอบหมายให้ พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่3 ให้เข้าไปดูแลตั้งแต่เบื้องต้นด้วยตนเอง

“ปัญหาใน จ.สุโขทัยนั้น เมื่อน้ำเหนือไหลลงมา ฝนตกมากขึ้น ลงมาสู่ที่แม่น้ำยม ลงไปรวมที่ จ.แพร่ ปริมาณน้ำที่แพร่ จะเคลื่อนมาที่ จ.สุโขทัย ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นมา 7 เมตรกว่า ซึ่งขณะนี้ยังไม่ท่วมพนังกั้นน้ำ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1 เมตร แต่น้ำเจาะข้างใต้ดินขึ้นมา เพราะข้างล่างมีท่อระบายน้ำเป็นโพรงอยู่ข้างใต้ เมื่อปริมาณน้ำมากจะเจาะตามดิน ตามท่อระบายน้ำขึ้นมา วันนี้น้ำท่วมในสุโขทัยประมาณ 1 เมตร แต่ปัญหาคือกองทัพภาคที่ 3 นำเครื่องมือเข้าไปในพื้นที่ลำบากเพราะพื้นที่แคบ จึงต้องให้ประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยก่อน และให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ถ้าฝนหยุดตก ก็จะไปขุดทางน้ำข้างล่างเพื่อไปปิดรูดังกล่าว ขณะนี้ยืนยันได้ว่าพนังกั้นน้ำยังไม่พัง โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย ติดต่อขอให้กองทัพประสานการปฏิบัติกับผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดที่เดือดร้อน เมื่อมีงบประมาณเราจะทำให้ทันที ไม่ต้องกังวล” ผบ.ทบ.กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องคำนวณน้ำที่จะไหลมาจากข้างบนว่าผ่านจังหวัดใดบ้าง ดูระดับน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาด้วย แต่อย่าสูงเกิน 2 พันล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากมรสุมลูกที่แล้ว แต่ถ้าระบายได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าฝนตกต้องมีการเตรียมความพร้อม อย่างไรก็ตาม ได้มีการแจ้งเตือนและมีพลเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ มีกองร้อยช่วยเหลือประชาชนหลายกองร้อย ส่วนพื้นที่ภาคกลาง เช่น จ.สิงห์บุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จากที่ตนให้ไปตรวจสอบทราบว่าประชาชนยังโอเคอยู่ เพราะพื้นที่ตรงนี้น้ำท่วมทุกปี ตราบใดที่มีการปลูกบ้านเรือนขวางเส้นทางน้ำ หรือปลูกบ้านในพื้นที่ที่มีน้ำท่วม ถึงอย่างไรน้ำก็ท่วม จนกว่าเราจะแก้ไขปัญหาแบ่งเบาน้ำก้อนใหญ่ที่ลงมาจาก แม่น้ำ ปิง วัง ยม น้ำ ออกไปด้านข้าง ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ต่อไปควรจะไปอยู่ริมคลองกันอีกหรือไม่ เพราะถ้าไปไล่ชาวบ้านออกไปเขาอาจไม่เข้าใจ ตอนนี้รัฐบาลมีแนวคิดให้คนที่อยู่ริมน้ำมีที่อยู่ใหม่ที่ดีกว่าเดิมจะได้ดูแลกันง่ายขึ้น ทุกวันนี้ขุดคลองทำได้แต่ตรงกลาง ขุดริมๆ ไม่ได้ เพราะถ้าขุดก็ต้องรื้อบ้าน เช่น คลองลาดพร้าว ที่ผ่านมาบางคลองรื้อบ้าน และสร้างคืนให้เขาใหม่

“คิดว่าปีนี้เราได้ทำกันมากที่สุดแล้ว แต่ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะการลงทุนหรือการแก้ไขปัญหา ไม่ได้ทำแค่ปีเดียว แต่ต้องทำเป็นสิบปี ถือว่าตอนนี้เราได้เริ่มต้นการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำอย่างยั่งยืน รัฐบาลต่อไปในอนาคตก็ต้องทำอย่างนี้ต่อไป เท่าที่ผมทราบต้องใช้เงินจริงๆ 4-5 แสนล้านบาท เพราะปริมาณน้ำฝนมากขึ้นทุกปี แต่เราไม่รู้จะบริหารจัดการน้ำอย่างไร เพราะระบบบริหารจัดการไม่สมบูรณ์ ถ้าสมบูรณ์ต้องใช้เงินมาก แต่ประเทศเราเงินน้อย ต้องทยอยทำ มันต้องทุ่มเททั้งก้อนลงไป แก้ไขปัญหาทั้งระบบ ทุกวันนี้ผมสั่งการให้ติดตามสถานการณ์ไม่ใช่รอฟังเขาอย่างเดียว ต้องรู้จักประมาณการณ์ ทหารวันนี้ต้องเป็นทหารมืออาชีพ ต้องรู้งานของคนอื่นเขาบ้างแต่ไม่ใช่ไปแย่งงานเขาหมด ทั้งนี้คิดว่าน่าจะมีการแจ้งเตือนประชาชนว่า น้ำอยู่ที่ไหน มีปริมาณน้ำเท่าไหร่ ถ้าเมื่อไหร่น้ำในเขื่อนเจ้าพระยาสูงเกิน2พันล้านลูกบาศก์เมตร ทุกคนต้องเฝ้าระวัง ถ้า 2.5 พันล้านลูกบาศก์เมตรก็ท่วมแน่นอน ซึ่งรัฐบาลก็พยายามแก้ไขเรื่องระบายน้ำอยู่แล้ว ถ้าดีขึ้นก็จะท่วมน้อยลง เรื่องนี้เป็นหลักการทางธรรมชาติ ไม่ใช่ข้อบกพร่องของใคร แต่ต้องทำให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่ จ.สุโขทัยที่ทะลักลอดพนังกั้นน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและเขตเศรษฐกิจ ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัย ระดับน้ำทรงตัวที่ประมาณ 50 เซนติเมตร - 1 เมตรนั้น ทางกองทัพภาคที่ 3 โดยจังหวัดทหารบกพิษณุโลกได้ส่งทหาร 100 นาย เข้าสนับสนุนการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำและการวางบิ๊กแบคชะลอความแรงของน้ำตั้งแต่ 10 ก.ย. 55 และวันนี้แม่ทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมและกำกับดูแลการช่วยเหลือประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัย โดยเฉพาะการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำให้แล้วเสร็จ ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ได้จัดชุดทหารช่างเทคนิคจาก กองพลพัฒนาที่ 3 เข้าให้คำแนะนำในการวางบิ๊กแบ็ก และการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำด้วยวัตถุที่เหมาะสมกับสถานการณ์

รองโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า นอกจากนี้ได้เพิ่มเติมเรือท้องแบนติดเครื่อง 4 ลำ และรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ 4 คัน พร้อมกำลังทหารอีก 50 นาย เข้าช่วยอำนวยความสะดวกในการสัญจรในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งได้ส่งชุดแพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ออกให้บริการตรวจรักษาประชาชนด้วย อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่จ.สุโขทัย จะไหลไปสู่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ในเวลาอันใกล้ อาจทำให้ อ.บางระกำประสบปัญหาอุทกภัย ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 โดย กองพลทหารราบที่ 4 ได้ส่งทหารเข้าแจ้งเตือนประชาชนพร้อมช่วยอพยพสิ่งของไปไว้บนที่สูง เพื่อเตรียมรับสถานการณ์อย่างเต็มที่แล้วสำหรับประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก (กทม.) โทร. 0-2297-7648, ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 โทร. 0-5524-2859
กำลังโหลดความคิดเห็น