ส.ส.ชายแดนใต้ ประชาธิปัตย์ แถลงจวกรัฐทิศทางแก้ปัญหาแย่ “สุรเชษฐ” ซัด “เฉลิม” พูดเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทำชาวบ้านขาดความมั่นใจ แถมปูดตั้งกองทุนซื้อที่ดินยิ่งสับสน เผยเลขาฯ ปปง.การันตีไม่มีเส้นทางการเงินโยงตอลิบาน จวกทำโรงเรียนสอนศาสนาเสียหาย ชี้เจรจาโจรถ้าผิดกลุ่มยิ่งมีปัญหา “ประเสริฐ” แนะรวม 4 อำเภอสงขลาตั้งเป็นจังหวัดนาทวี แก้ กม.ศอ.บต.
วันนี้ (11 ก.ย.) นายประเสริฐ พงศ์สุวรรณศิริ นายอับดุลการิม เด็งระกีนา ส.ส.ยะลา และนายสุรเชษฐ แวอาแซ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงตำหนิรัฐบาลถึงการกำหนดทิศทางการแก้ปัญหาไม่ชัดเจนสร้างความสับสนให้ประชาชนในพื้นที่ทำให้เป็นกังวลขาดความมั่นใจต่อการแก้ปัญหาภาคใต้
นายสุรเชษฐกล่าวว่า ข่าวที่เกิดขึ้นสร้างความสับสนกับคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมาก โดยเฉพาะความเห็นของ ร.ต.อ.เฉลิม อยุ่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่จะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ในพื้นที่ 3 จังหวัด ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนในแนวทางแก้ปัญหา เพราะเสนอรายวันจนประชาชนขาดความมั่นใจ นอกจากนี้ กรณีที่จะมีการตั้งกองทุนซื้อที่ดินตามข่าวที่ว่ามีการขับไล่ชาวพุทธโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเพื่อบังคับซื้อที่ดินนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนสับสนเพราะไม่รู้เกิดในพื้นที่ใด ซึ่งพวกตนได้หารือกันในส่วนของ ส.ส.ว่าเกิดขึ้นในพื้นที่พบว่าเป็นเรื่องเก่า 2 ปีที่่ผ่านมา โดยมีพี่น้องไทยพุทธบางรายซึ่งไม่ใช่คนในพื้นที่ไม่อยากอยู่เพราะสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจอยากขายที่เพื่อกลับภูมิลำเนาเดิม โดยเฉพาะพี่น้องที่อยู่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี แต่คนในพื้นที่ไม่มีหวาดกลัวถึงขนาดจะย้ายออก ส่วนกรณีที่นายเจะอามิง โต๊ะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ามีชื่ออักษรย่อว่า ว.แหวนกว้านซื้อที่ดินนั้น คิดว่าน่าจะเป็นการซื้อขายปกติ รวมถึงมีกลุ่มค้ายาเสพติดที่ใช้การซื้อที่ดินมาฟอกเงินด้วย ทั้งนี้ยังได้รับการยืนยันจาก พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. ว่าไม่เคยระบุว่ามีมีเส้นทางการเงินที่อายัดจากโรงเรียนอิสลามบูรพาโยงใยถึงกลุ่มตอลิบานแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อโรงเรียนสอนศาสนาในพื้นที่ที่ดำเนินการอย่างถูกต้องให้รับความเสียหาย เพราะก่อนหน้านี้มีการระบุว่า เชื่อมโยงไปถึงกลุ่มก่อการร้ายต่างประเทศ
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะเจรจากับกลุ่มก่อความไม่สงบนั้น นายสุรเชษฐกล่าวว่า เดิมมี 6 กลุ่ม เช่น พูโล บีอาร์เอ็น เบอร์ซาตู เป็นต้น แต่กลุ่มเหล่านี้ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบหลังมีการก่อเหตุ หากจะเจรจาต้องทำทุกกลุ่มและต้องได้รับการยอมรับของทุกกลุ่มด้วย การเจรจาเป็นส่วนหนึ่งที่จะมีผล แต่เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดรายวันในพื้นที่ยังไม่มีใครแสดงตนว่าเป็นผู้กระทำ เว้นแต่การให้ข่าวจากเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น ทั้งนี้หากเจรจาผิดกลุ่มปัญหาก็จะไม่ยุติ ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต.ได้ใช้ข้อมูลจาก กอ.รมน.พูดถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงในพื้นที่ 3 จังหวัด มีเพียง 15% นราธิวาส พื้นที่ได้รับผลกระทบ 12% ยะลา 12-14% ส่วนปัตตานีไม่เกิน 20% ดังนั้น ถ้ารัฐบาลศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดจะไม่ส่งผลกระทบภาพรวมให้ระบุเป็นพื้นที่อย่างชัดเจน
นายประเสริฐกล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่ามีผู้ทำผิดจะมอบตัวโดยมีการเสนอเงื่อนไขมอบตัว ซึ่งยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร ตนเป็นห่วงว่าการพูดแล้วไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้ รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจัง ซึ่งที่ผ่านมามีการเสวนาทางวิชาการในพื้นที่ก็มีการหารือกันว่าถ้า ร.ต.อ.เฉลิมต้องการเลือกผู้ว่า ให้แก้กฎหมาย ศอ.บต.ให้ดูแลเฉพาะพื้นที่ที่มีปัญหา เช่น สะบ้าย้อย เนื่องตำรวจส่วนหน้าทำงานไม่ได้เพราะเป็นพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 แต่กว่าตำรวจภูธรภาค 9 จะเดินทางมาถึงก็ใช้เวลานานไม่ทันต่อเหตุการณ์ จึงเสนอให้เอาสี่อำเภอของจังหวัดสงขลาตั้งใหม่เป็นจังหวัดนาทวี และแก้กฎหมาย ศอ.บต.ไม่ใช่ 5 จังหวัด แต่เป็นสามบวกหนึ่งแทน ทั้งนี้ยังเป็นห่วงว่าข้าราชการมีความสับสนเพราะรัฐบาลไม่ให้นโยบายที่ชัดเจน
ส่วนการตั้งกองทุน 1,200 ล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินนั้น นายประเสิรฐกล่าวว่า ยืนยันว่า ส.ส.ในพื้นที่ไม่ได้คัดค้าน เพราะถ้ามีกลุ่มมีอิทธิพลจริงและแก้ปัญหาได้ก็ดี แต่ต้องตั้งคำถามว่าเงินพอหรือไม่ต่อการข่มขู่ มีระเบียบมาตรการอะไรที่ซื้อที่ดินแล้วไม่เกิดการทุจริต ซื้อของพวกตัวเองในราคาสูงหรือเปล่า และจะซื้อตรงกับความเดือดร้อนจริงหรือไม่ อีกทั้งหากนำเงินดังกล่าวมาซื้อมีมาตรการที่จะให้เจ้าของที่ดินได้อยู่ในพื้นที่ต่อไปหรือไม่ เพราะถ้าซื้อที่ดินแล้ว้คนออกนอกพื้นที่ก็ไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหา