“ยิ่งลักษณ์” เผยกำลังใจคนชายแดนใต้ยังดี เล็งเสริมงบฯ-คนลงพื้นที่ เน้นการมีส่วนร่วมให้ชาวบ้านดูแลกันเองด้วย ยันโครงสร้างทำงานผ่าน กอ.รมน.-ศอ.บต.เหมือนเดิม แต่ ศปก.จชต.แค่ตัวประสานให้มีเอกภาพ อ้าง ปชช.แฮปปี้รัฐเยียวยาเหยื่อไฟใต้ วอนสื่อนำเสนอเรื่องดีให้กำลังใจชาวบ้าน บ่ายเบี่ยงร่วมวงถกไฟใต้กับ ปชป.
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 18.50 น. ที่สนามบินกองการบิน ขส.ทบ. ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการลงพื้นที่ จ.นราธิวาสว่า วัตถุประสงค์การเดินทางครั้งนี้เพื่อไปรับฟังปัญหาและให้กำลังใจประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของการรับฟังปัญหานั้นก็จะไปดูว่ามีส่วนใดบ้างที่ส่วนกลางจะร่วมสนับสนุนหรือส่งเสริม ทั้งนี้ ตนและคณะ ทั้งรองนายกฯ และผู้นำเหล่าทัพก็ได้มีโอกาสพบปะพูดจาให้กำลังใจพระสงฆ์และผู้นำศาสนา รวมทั้งประชาชนชาวไทยพุทธ และไทยมุสลิมที่อยู่ในพื้นที่ด้วย โดยรวมแล้วเห็นว่าบรรยากาศต่างๆ และกำลังใจของพี่น้องประชาชนชาวไทยที่นั่นค่อนข้างดี และมีความรักต่อกัน เมื่อได้เห็นก็รู้สึกดีใจ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า ทางคณะยังได้มีโอกาสหารือรับฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ทั้งในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยยืนยันว่าการทำงานยังทำภายใต้โครงสร้างเดิมของ กอ.รมน.ภาค 4 และ ศอ.บต.เป็นหลัก หรือยังคงอยู่ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ที่ได้มีการแถลงไว้ต่อรัฐสภา ส่วนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) ที่มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น ก็เป็นคณะกรรมการที่จะเข้ามาช่วยเสริมและสนับสนุนขับเคลื่อนให้พื้นที่ทำงานได้อย่างเป็นเอกภาพ
นายกฯ กล่าวด้วยว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ก็ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ทำงานกันค่อนข้างเป็นเอกภาพ สิ่งที่ต้องเข้าไปเสริมนอกจากการดูแลสนับสนุนให้เป็นเอกภาพ ต้องทำให้การทำงานคล่องตัวขึ้น โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ กำลังคน และส่วนอื่นๆ ที่สำคัญยังต้องคำนึงถึงงานด้านการพัฒนาเรื่องความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้เชิญรัฐมนตรีและผู้แทนจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงไปในพื้นที่เพื่อที่จะรับฟังปัญหาด้วย ต่อจากนี้จะเร่งรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อที่จะมาดูว่าในแต่ละพื้นที่มีความต้องการอย่างไรบ้าง
ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า นอกจากการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารแล้ว เราจะสนับสนุนการมีส่วนร่วมโดยเฉพาะในส่วนของตัวแทนภาคประชาชนที่เข้าร่วมทำงาน ทั้งชุดคุ้มครองหมู่บ้าน (ชคบ.) และชุดคุ้มครองตำบล ที่จะเข้าไปช่วยกันดูแลความเป็นอยู่ ทั้งยังให้เข้ามาร่วมในส่วนของการพัฒนา ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมในการดูแลประชาชนในเรื่องของทรัพย์สิน ความเป็นอยู่ และความปลอดภัย รวมไปถึงแนวทางพัฒนาคุณภาพชีวิตของจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีสันติสุข มีความมั่นคง รวมทั้งได้ไปดูเพิ่มเติมในเรื่องของการศึกษา และสาธารณสุขต่างๆ ทั้งหมดนี้จะรวบรวมมาเป็นแผนงานอยู่ภายใต้คณะกรรมการ ศปก.จชต.ที่จะติดตามการทำงานเพื่อส่งเสริมในส่วนของพื้นที่ให้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการหารือถึงเรื่องการข่าว ที่บางครั้งทราบว่าจะเกิดเหตุแต่ยังไม่สามารถควบคุมได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวตอบว่า จากปัญหาที่ผ่านมาอาจต้องดูองค์ประกอบ เพราะบางครั้งในพื้นที่เองก็ต้องเห็นใจว่าต้องการอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ และบุคลากรยังไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเสริมเข้าไปเพราะบางพื้นที่มีพื้นที่กว้างมาก วันนี้ก็รับทราบปัญหาเบื้องต้น และเห็นว่าต้องเสริมในส่วนของภาคประชาชนและฝ่ายพลเรือนเข้าไป ซึ่งจะเป็นหนทางให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย และสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้
เมื่อถามว่า มีความเป็นห่วงอย่างมากถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลกว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ รัฐบาลได้มีแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า วันนี้คงต้องดูปัญหาในภาพรวมเป็นหลัก โดยไม่ทิ้งปัญหาในเชิงรายละเอียดของพื้นที่ แต่ต้องทำให้มีการบูรณาการความมั่นคง ส่วนนี้ก็จะเป็นทางด้านแม่ทัพภาคที่ 4 ที่รับผิดชอบดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่งานพัฒนาก็จะให้ทางด้าน ศอ.บต.ที่ประกอบไปด้วยกระทรวงมหาดไทย และกรรมการของกระทรวงอื่นๆ มาร่วมกันวางแผนถึงความต้องการของพื้นที่ และจะออกมาเป็นนโยบาย โดยการประสานรายละเอียดในพื้นที่กันมากขึ้น
เมื่อถามต่อถึงแนวทางหลังจากนี้ว่ารัฐบาลจะวางแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้รายวันอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า สำหรับปัญหารายวันก็จะมีศูนย์กลางในการเชื่อมข้อมูลที่จะประสานงานกัน ที่ผ่านมาก็มีการรายงานผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติอยู่แล้ว แต่ก็จะมีการติดตามมากขึ้น และนำปัญหาต่างๆ มาวิเคราะห์และบูรณาการกับ ศปก.จชต.ที่จะเชื่อมความร่วมมือจากทุกกระทรวงเข้ามา
ผู้สื่อข่าวยังสอบถามถึงการลงพื้นที่ว่ามีโอกาสพูดคุยกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในส่วนของมาตรการเยียวยาของรัฐบาลหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็มีโอกาสได้พูดคุยบ้าง ซึ่งพบว่าประชาชนพึงพอใจและสบายใจ ที่สำคัญเราต้องสร้างความเข้าใจในสถานการณ์และการดูแลประชาชน ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี ประชาชนมีความสุขมากขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ระบุว่ามีเส้นทางการเงินของโรงเรียนปอเนาะเชื่อมโยงกับกลุ่มตอลิบาน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เรื่องนี้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แจ้งว่าเป็นเพียงการรายงานเบื้องต้นของ ปปง.เท่านั้น ยังคงต้องมีการไปทำความเข้าใจในรายละเอียดอีก ดังนั้นขอให้ ปปง.ได้ทำงานตามกระบวนการเสียก่อน
“ขอฝากสื่อมวลชนว่าอย่าลืมสิ่งที่ดีๆ ที่เกิดขึ้น และการให้กำลังใจพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย เพราะสิ่งหนึ่งที่เราได้พบคือ ประชาชนบอกว่าอยู่ที่นั่นมีความรู้สึกเป็นเหมือนพี่น้องกัน มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ด้วยพลังตรงนี้ที่ทำให้กำลังใจของจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเข้มแข็งได้” นายกฯ ระบุ
เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคฝ่ายค้านจะให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแนวทางแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ขอให้นายกฯ เข้าร่วมหารือด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในความเป็นจริงตนยินดีเปิดรับทุกคำแนะนำ เพราะการแก้ปัญหานี้ไม่ได้เป็นเรื่องของรัฐบาลเท่านั้น แต่เป็นวาระแห่งชาติที่ทุกคนต้องร่วมกัน เมื่อถามย้ำว่า ฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯ ร่วมหารือทุกครั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า เราเน้นในเรื่องการมีส่วนร่วมและยินดีรับฟังหากสามารถเข้าร่วมได้ในเวลาที่ตรงกัน อย่างไรก็ตามตนต้องใช้เวลาในการที่จะติดตามภารกิจอื่นๆ และการลงพื้นที่ต่างๆ ด้วย
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังได้กล่าวถึงผลการทดสอบการระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของ กทม.ในวันนี้ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าการทดสอบเรียบร้อยดี และพบว่าการระบายน้ำออกทางคูคลองต่างๆ ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยทุกอย่างอยู่ภายใต้การวางแผนตั้งแต่ต้น ซึ่งถือว่าการทดสอบเป็นที่น่าพอใจ