“เทพเทือก” ทำใจอำนาจเปลี่ยน ขรก.บางส่วนเปลี่ยน ไม่หวั่นดีเอสไอแจ้งข้อหาเพิ่ม เชิญใครมีปัญหาสารพัดวิธีมาจัดการ ยันไม่หนีไปต่างประเทศ ย้ำความจริงเปลี่ยนแปลงไม่ได้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เร่งดำเนินคดีต่อตนและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตี ช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ปี 53 โดยระบุว่า จะไปตรวจสอบเรื่องการเบิกกระสุน และการตั้งข้อหาเจตนาฆ่า หรือพยายามฆ่านั้นว่า เป็นอีกเรื่องที่ตนทำใจล่วงหน้าไว้แล้ว เพราะเห็นแล้วว่าเมื่ออำนาจในการบริหารบ้านเมืองเปลี่ยนไป ส่วนราชการและข้าราชการบางส่วนก็เปลี่ยนไปด้วย ขอยืนยันว่าตนเป็นรองนายกฯ มีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบ ความมั่นคงปลอดภัยของบ้านเมือง เมื่อมีคนก่อเหตุร้าย การจลาจล นำเอาอาวุธสงครามมาทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชน ก็ต้องแก้ไขสถานการณ์ แต่ถ้าวันนี้การทำงานในหน้าที่ของตนต้องพลิกกลับมาเป็นจำเลยก็พร้อมที่จะต่อสู้คดีโดยไม่หวั่นไหว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นดีเอสไอหรือตำรวจที่มีปัญญาจะคิดสารพัดวิธีรับใช้ผู้มีอำนาจก็เชิญถาโถมมาได้ ไม่มีปัญหาอะไร ตนพร้อมรับสภาพ ไม่หนีไปต่างประเทศแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงว่าจะมีการสร้างพยานหลักฐานใหม่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่มั่นใจในข้อเท็จจริงและหลักฐานที่มีอยู่ในมือว่าจะสามารถพิสูจน์ความจริงความบริสุทธิ์ได้ เพราะคิดว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าใครจะมีเจตนาบิดเบือนอะไร เช่น กรณีเหตุการณ์เมื่อปี 2552 ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.เคยประกาศผ่านสื่อว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการรุนแรงและมีคนตาย ถึงขนาดมีการทำเทปตัดต่อเสียงของนายกฯ อภิสิทธิ์ว่าสั่งฆ่าประชาชน แต่ที่สุดเมื่อความจริงปรากฏ คนทั้งประเทศก็รู้ว่านายจตุพรโกหก เพราะในปี 52 ไม่มีคนตายจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ มาวันนี้ก็เป็นความพยายามที่เอาเหตุการณ์ชุมนุมปี 53 มาบิดเบือนอีก ก็ต้องเอาความจริงที่มีมาพิสูจน์กัน ไม่มีปัญหา
นายสุเทพยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ออกมาประกาศชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับฝ่ายค้าน ตรงนี้จะมีผลต่อการไปให้ปากคำในคดีต่างๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ที่มีอยู่หรือไม่ว่า ตนไม่รู้สึกกังวลใจอะไรต่อการประกาศท่าทีของ ผบช.น. เขาจะรักใครชอบใครเป็นสิทธิ์ของเขา จะแสดงความรักที่ดูดดื่มแบบไหนก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ขอว่าในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ให้ตรงไปตรงมาก็แล้วกัน ถ้าเขาใช้สิทธิ์ไม่ตรงไปตรงมาเราก็จะใช้สิทธิตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ตนไม่ระแวงไม่กังวลใจอะไรทั้งสิ้น ส่วนการที่รองโฆษกพรรคจะไปยื่นหนังสือต่อ ผบ.ตร.ในเรื่องการมีจริยธรรมของ ผบช.น.นั้น ตนไม่มีความเห็น เพราะไม่ได้ลงไปดูในรายละเอียดเรื่องวินัย เรื่องจริยธรรมว่ามีรายละเอียดอย่างไร ทราบแต่จากสื่อ