พท.อ้างเฉย “นช.แม้ว” นักโทษหนีคดีติดยศ “พลตำรวจโท” ให้ “คำรณวิทย์” เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ปัดลูก “เจ๊ ด.” ทำธุรกิจนำเข้ารถยนต์ เหตุ เด้ง “ดุษฎี” พ้นเลขาฯ ป.ป.ท. หลังตรวจสอบรถนำเข้าหนีภาษี ฝ่าย กม.พท. บอกเลขาฯ ป.ป.ท.แค่ตำแหน่งแม่บ้าน การย้ายไม่มีผลต่อคดีตรวจสอบทุจริต
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตามที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามโยงว่า “เจ๊ ด.” อยู่เบื้องหลังการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการว่า จากการตรวจสอบการโยกย้ายสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่ามีการแต่งตั้งโยกย้ายทั้งในและนอกฤดูกาลกว่า 100 ตำแหน่ง เมื่อมาถึงยุคของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็เข้ามาดูแลและย้ายบุคคลที่ไม่มีคุณภาพ ผลงานไม่เป็นที่ประจักษ์ในยุคที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่เลขาธิการ ป.ป.ท.ถูกย้ายขึ้นไปนั่งเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม หากเป็นตนคงจะไปยกมือไหว้ขอบคุณคนย้ายที่ทำให้มีตำแหน่งใหญ่ขึ้น และไม่ได้เป็นการย้ายข้ามห้วยแต่อยู่ในสายงานเดียวกัน และยังมีอำนาจดูแล ป.ป.ท. การที่ฝ่ายค้านพยายามโยงบุคคลอักษรย่อต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ถือเป็นงานถนัดของพรรคประชาธิปัตย์
ส่วนที่มีการพูดถึงลูก “เจ๊ ด.” หรือลูกของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ทำธุรกิจนำเข้ารถยนต์อิสระนั้น จากการตรวจสอบพบว่าทั้งบุตรชายหรือบุตรสาวของนางเยาวภาไม่ได้มีธุรกิจนำเข้ารถยนต์
นายจิรายุกล่าวว่า ที่ปรากฏภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประดับยศให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.นั้นเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะในสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถ่ายรูปคู่กับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้แต่กับนายอภิสิทธิ์ แต่พรรคประชาธิปัตย์พยายามหันซ้ายหันขวาหาประเด็นมาโจมตีทั้งที่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่เรื่องสำคัญอยู่ที่ว่า ผบช.น.จะทำให้ กทม.ปราศจากอาชญากรรม ปัญหายาเสพติด หรือสร้างความสงบสุขใน กทม.ได้อย่างไรมากกว่า
ด้าน นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อและฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติโยก พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการ ป.ป.ท. ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อคดีทุจริตคอร์รัปชั่นให้เป็นปัญหานั้น ขอชี้แจงว่าโครงสร้างและหน้าที่ตามกฎหมาย ตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ท.คือหัวหน้าหน่วยงานธุรการ เปรียบเหมือนกับแม่บ้าน การจะสั่งดำเนินคดีใดๆ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาไต่สวนคณะกรรมการ ป.ป.ท. ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเลขาธิการ ป.ป.ท. ดังนั้น การอ้างแหล่งข่าวพร้อมวิพากษ์วิจารณ์ว่าการโยกย้ายเลขาธิการ ป.ป.ท.จะสร้างปัญหาต่อการเอาผิดคดีทุจริตจึงไม่เป็นความจริง แต่เป็นการสร้างภาพให้ข้าราชการบางคนว่าเป็นผู้ตงฉินเท่านั้น