“รสนา” ชี้ต้องรู้จักโครงสร้างคอร์รัปชันถึงจะแก้ปัญหาได้

“รสนา” ชี้คอร์รัปชันเป็นโครงสร้าง ต้องรู้จักว่าจะหยุดที่จุดไหนถึงแก้ปัญหาได้ ลั่นแม้ไม่ง่ายแต่ต้องอย่าหมดหวัง ด้าน “ณรงค์” มองว่านักการเมืองตัวการสำคัญสุด ถ้าประชาชนยังขาดจิตสำนึกเลือกโจรเข้าสภา ก็ไม่มีทางแก้โกงได้

วานนี้ (5 ก.ย.) น.ส.รสนา โตสิตระกูล ประธานกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา และ ส.ว.กทม. พร้อมด้วย นายณรงค์ โชควัฒนา นักธุรกิจอิสระ ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

น.ส.รสนากล่าวว่า ทุกวันนี้การทุจริตมันระบาดไประดับราก โพลต่างๆ ออกมาชี้ว่าประชาชนยอมรับการโกงได้ แต่ตนเชื่อว่าประชาชนยังคงไม่ต้องการให้โกงบ้านโกงเมือง

สิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องทำคือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ นั่นก็คือต้องลดการคอร์รัปชัน แต่ที่ประกาศว่าจะต้านคอร์รัปชันเป็นแค่วาทกรรมเท่านั้นเอง และทำเป็นอีเวนต์ ก็ต้องถามว่า ทำอีเวนต์เป็นการผ่องถ่ายเงินไปให้ออร์แกไนเซอร์ที่เป็นพรรคพวกตัวเองหรือเปล่า การจงใจใช้เงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพก็คือรูปแบบหนึ่งของการโกง

น.ส.รสนากล่าวอีกว่า การที่จะต่อสู้กับคอร์รัปชันเราต้องป้องกันไม่ให้เกิด สำคัญที่สุด แต่คนไม่ค่อยให้ความใส่ใจ แม้ว่ากฎหมาย ป.ป.ช.แก้ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นก็จริง แต่ก็ต้องมีเครื่องมือและช่องทางให้เขาด้วย ขนาด ส.ว.เองยังไม่มีอำนาจเลย พอตรวจสอบได้ต้องส่งต่อ ป.ป.ช. แล้วเขาก็ไปเริ่มสอบใหม่ ใช้เวลายืดเยื้อมหาศาล

การคอร์รัปชันมันเป็นโครงสร้าง การจะป้องกันก็ต้องรู้โครงสร้างของมันก่อน การคอร์รัปชันแต่ละแบบจะมีโครงสร้างที่ต่างกัน เช่น ระบบการจ่ายเงินใต้โต๊ะ ทั้งหลายทั้งปวงเริ่มต้นอย่างไร ถ้าเรารู้แต่ละเรื่องก็จะหาวิธีป้องกันได้ ถ้าไม่รู้ไปสู้คอร์รัปชันมือเปล่าๆ ไล่ตีไปก็ไม่มีวันหมด

ที่การคอร์รัปชันมันเพิ่มมากขึ้นเพราะกลไกการตรวจสอบมันน้อย มันอ่อนแอ ต้นทุนในการทุจริตคอร์รัปชันมันต่ำ หากมีกฎระเบียบให้โกงได้ยากขึ้นพวกโกงตามน้ำเล็กๆน้อยๆ ก็สามารถเลิกไปได้ แต่พวกเขี้ยวลากดินคงแก้ยากเพราะพวกนี้มีพัฒนาการตลอดเวลา

น.ส.รสนากล่าวต่อว่า เมื่อโครงสร้างคอร์รัปชันมันเดินไป ถ้าเบรกต้องรู้ว่าจะหยุดที่จุดไหน ต่อสู้ไม่ง่ายแต่ต้องอย่าหมดหวัง ประชาชนที่จะเป็นพลังช่วยก็ไม่ง่าย เพราะถูกทำให้ยากจน พอเลือกตั้งก็เสนอผลประโยชน์ให้แลกกับคะแนนเสียง แต่จะว่าคนที่รับผลประโยชน์ก็ไม่ได้เพราะเขาถูกรีดจนไม่มีทางออก และที่น่ากลัวทุกวันนี้มีหลักสูตรสร้างคอนเนกชันระหว่างข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ เกิดขึ้นมากมาย อย่างเช่น วปอ. ซึ่งมันลามไปถึงตุลาการแล้ว

ด้านนายณรงค์กล่าวว่า ตนมองว่าปัญหาคอร์รัปชันที่สำคัญคือนักการเมือง ในระบอบประชาธิปไตยเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลงบประมาณแผ่นดิน และระบบราชการทั้งหมด แต่ทุกวันนี้ปัญหาทั้งหมดของไทยเกิดขึ้นเพราะคนที่ควรเป็นตัวแก้คอร์รัปชันกลับเป็นตัวคอร์รัปชันเสียเอง มันจึงระบาดลงไปทุกระดับเนื่องจากตัวแก้จริงๆ ไม่ทำงาน

นายณรงค์กล่าวต่อว่า ที่พูดกันมากในการปราบคอร์รัปชันต้องอาศัย 3 ประสาน คือ ข้าราชการ นักการเมือง และนักธุรกิจ แต่ตนไม่เห็นด้วย เพราะข้าราชการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานักการเมือง ไม่ทำตามก็โดนเด้ง ส่วนนักธุรกิจโดนนักการเมืองเล่นงานได้ง่ายมาก แค่ส่งสรรพากรไปก็เสร็จแล้ว ฉะนั้นคนที่จะแก้คอร์รัปชันได้คือนักการเมือง แต่นักการเมืองไม่ได้กลัวข้าราชการ ไม่ได้กลัวนักธุรกิจ แต่กลัวประชาชน เพราะประชาชนเป็นคนตั้งเขา แต่ถ้าประชาชนขาดจิตสำนึกเลือกโจรเข้าไป คอร์รัปชันไม่มีทางแก้ได้