“ชาดา” ลั่นจำหน้ามือยิงอีกคนชัด ค้านขุดศพลูกชันสูตร รับเคยถูกเตือนมาก่อน

พ่อ “ฟารุต” เชื่อตำรวจจับคนร้ายได้เป็นตัวจริง แต่โวยปล่อยรถถูกยิงจนไปตกแต่งใหม่แล้ว จับผิดมือยิงยังพูดความจริงไม่หมด ป้องลูกไม่มีทางยิงก่อนแน่ ลั่นจำหน้าอีกคนได้แม่น แต่ค้านขุดศพชันสูตร อ้างทำใจไม่ได้ รับเคยถูกเตือนมาก่อน 1 สัปดาห์ คาดอาจโยงการเมือง

วันนี้ (5 ก.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.30 น. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา แถลงข่าวกรณีการเสียชีวิตของนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ บุตรชายว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายหลักที่ยิงลูกชายได้แล้ว ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นตัวจริง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่และในพื้นที่เข้ามาช่วยสืบสวนเรื่องนี้กันจำนวนมาก และน่าจะลงทุนกับเรื่องนี้ไปไม่น้อย ภายใน 10 วันก็สามารถจับตัวคนร้ายได้ ตนจึงยังเชื่อในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ แต่จะมีการบิดเบือนข้อมูลหลักฐานหรือไม่ ตนไม่ทราบ รู้แต่เพียงว่ารถที่อ้างว่าถูกยิงในวันแรกมีการเรียกรถมาตรวจสอบซึ่งก็พบรอยกระสุน แต่เป็นรถคนละคันกัน เจ้าหน้าจึงปล่อยไป กระทั่งมีการนำไปตกแต่งรถใหม่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรื่องเทคนิคการตรวจสอบแบบนี้เจ้าหน้าที่น่าจะรู้ดี กลับปล่อยไปอย่างง่ายดาย โดยไม่มีการถามข้อมูลอะไรเลย ขณะเดียวกัน การให้ปากคำของคนร้ายเชื่อว่าเขายังพูดความจริงไม่หมด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้กระทำผิดพยายามขับรถปาดแซงหน้ารถที่ตนนั่งถึง 2 ครั้ง ก่อนเกิดเหตุกับลูกชาย อีกทั้งการที่อ้างว่าโยนปืนหลักฐานไว้ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 10 กม. จะเป็นไปได้อย่างไรต้องอ้อมไปทิ้งไกลถึงขนาดนั้น และไม่เป็นความจริงที่บอกว่ารถคนร้ายก่อเหตุนั่งมาคนเดียว ญาติๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เป็นพยานได้ ไม่มีทางที่ลูกชายจะยิงกระสุนใส่อีกฝ่ายก่อนแน่ในขณะที่ขับรถอยู่อย่างนั้น

“ผมจำได้แม่นว่าคนร้ายอีกคนหน้าตาเป็นอย่างไร จำได้แม้กระทั่งใส่เสื้อแบบไหน ซึ่งผมได้แจ้งเบาะแสรูปพรรณสัณฐานไปแล้ว แต่จะมาให้ผมสเกตช์ภาพคนร้าย ผมคงทำไม่ได้ ไม่ได้จำรายละเอียดถึงขั้นว่าปากหนาแค่ไหน แต่ถ้าได้เห็นหน้าคนร้ายอีกครั้งเชื่อว่ายังจำได้ดี และคิดว่าคงไม่น่าต้องถึงขั้นขอผ่าชันสูตรศพลูกชายผมเพื่อตรวจสอบคดีว่าใครยิงก่อนกันแน่ ไปตามหาปืน วัดวิถีกระสุนจะดีกว่าไหม คนร้ายก็ออกมายอมรับแล้ว ถามว่าถ้าขุดศพขึ้นมาจะเจอปืนอย่างนั้นหรอ คนเป็นพ่อทำใจไม่ได้หรอกที่จะมาชันสูตรพลิกศพลูกอีก ทั้งที่ตอนแรกก่อนจะฝังศพ ผมก็ถามแล้วว่าต้องตรวจสอบศพอะไรอีกไหมก่อนจะฝังศพลูกชายตามศาสนาอิสลาม ก็ได้รับคำตอบว่าเพียงพอแล้ว ผมพอทำใจกับเรื่องนี้ได้ แต่ก็ไม่ได้ยอมที่จะให้มีเหตุการณ์ขุดศพลูกชายอย่างแน่นอน” นายชาดากล่าว

นาชาดากล่าวว่า เรื่องการตามตัวผู้กระทำผิดอีกรายจากนี้คงจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมในการสืบสวนวันข้างหน้า และเชื่อได้ว่าอีกฝ่ายน่าจะมีที่ปรึกษาทางกฎหมายเตรียมไว้เป็นอย่างดีเช่นกัน ตนก็ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวโยงกับใครหรือไม่ ถ้ามีก็อาจเป็นเรื่องการเมือง ตนบอกได้แค่ว่า ถ้าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นตนที่เสียชีวิต การเมืองเปลี่ยนแปลง 2 จังหวัดแน่ อุทัยธานีและจังหวัดใกล้เคียง ทั้งนี้ ตนไม่ได้อ้างลอยๆ ขึ้นมาเอง แต่ 1 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุลูกชายเสียชีวิต ตนถูกเตือนล่วงหน้ามาแล้ว จะไม่ให้เชื่อแบบนี้ได้อย่างไร เชื่อว่าใครที่เจอเหตุอย่างตนจากนี้ไปก็ต้องระวังตัวมากขึ้นทั้งนั้น ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นตนและครอบครัวพร้อมยอมรับสภาพ ให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปหมดแล้ว เพราะอยากให้เรื่องมันจบ หวังว่าอย่ามีใครมาพยายามทำให้ฝ่ายตนและผู้ต้องหาต้องมีเรื่องบาดหมางใจกันผิดก็แล้วกัน